จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ
บรรดานักวิเคราะห์ทั่วโลกอดอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ เนื่องจากเห็นตรงกันว่า ปี 2555 นี้ จะเป็นปีที่โลกได้เผชิญกับความเสี่ยงที่ปั่นป่วน ชนิดจัดหนัก จัดเต็ม ยิ่งกว่าปี 2554 หรือหากโชคดีหน่อยก็อาจรุนแรงพอๆ กับปีเก่าที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป
เพราะสิ่งที่รอคอยอยู่ในปี 2555 นี้ เต็มไปด้วยชะตากรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไล่เรียงตั้งแต่ปัญหาวิกฤตที่แก้ไม่ตกอย่างหนี้สาธารณะในยุโรป แนวโน้มการเปลี่ยนผู้นำในประเทศมหาอำนาจ ความอลหม่านวุ่นวายทางการเมืองในตะวันออกกลาง ตลอดจนภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหนักจนอาจเป็นชนวนให้เกิดการลุกฮือ ประท้วงตามที่ต่างๆ ทั่วโลก
เรียกได้ว่า ท่ามกลางเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่มีแต่จะทวีความเลวร้ายมากขึ้น ความไม่ลงรอยทางการเมือง จนไร้ทางออกและนำไปสู่การขัดแย้งเผชิญหน้า ล้วนเห็นได้ลางๆ ในปี 2555 นี้
ทั้งนี้ สำหรับประเด็นน่าวิตกแรกสุดที่ต่อเนื่องมาจากปี 2554 ก็คือ ปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งกินเวลายืดเยื้อยาวนานจนล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 3 จนบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ขยาดที่จะฟันธงลงไปว่าปัญหาดังกล่าว จะสิ้นสุดลงเมื่อไร
เนื่องจากผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดผู้นำในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อช่วงปลายปี 2554 ซึ่งได้รับการจับตามองว่าเป็นโอกาสสุดท้ายในการแก้ไขปัญหาของกลุ่มอียู ที่เพิ่มวินัยทางการคลังและมาตรการลงโทษ แต่ข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกได้ เพราะไม่มีการรับประกันใดๆ ว่า สกุลเงินยูโรจะอยู่รอด
ขณะที่ข้อตกลงเรื่องการอัดฉีดเงินให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อให้ไอเอ็มเอฟมีศักยภาพพอที่จะช่วยเหลือประเทศที่กำลังเผชิญหน้ากับ วิกฤตหนี้ ก็เป็นข้อตกลงที่บรรดาประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงสมาชิกในกลุ่มยูโรโซน ต้องอาศัยเวลาอีกสักระยะ หรืออาจตลอดทั้งปีนี้ ในการตัดสินใจอนุมัติเงิน ซึ่งอาจไม่ทันการณ์สำหรับการแก้ปัญหา
เรียกได้ว่าในขั้นเลวร้ายขีดสุด โลกมีสิทธิได้เห็นยุโรปแตก การเบี้ยวหนี้ ธนาคารล้ม และการก่อหวอดประท้วง โดยยังไม่รวมถึงภาวะ “ช็อก” จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่ว่าใครก็พอจะมองเห็นว่าแย่ยิ่งกว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ ปี 2551
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายยังมองในแง่ดีว่า สกุลเงินยูโรจะยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หากต้องการให้ระบบสกุลเงินเดียวอยู่รอด 17 ชาติสมาชิกประเทศยูโรโซนต้องยอมเผชิญหน้ากับการปรับเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจ ขนานใหญ่ควบคู่ไปกับการปฏิรูปทางการเมืองครั้งมโหฬาร โดยแต่ละประเทศต้องยอมถอย ยอมเสีย และยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรม
กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างแสดงความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า ต่อให้ยุโรปสามารถคลี่คลายบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น จนฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมาได้ แต่ยุโรปก็ไม่วายเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลให้เกิดความไม่สงบใน สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณยุโรปตอนใต้ อย่างอิตาลี และสเปน
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงน่าวิตกสำหรับปี 2555 ประการต่อมาก็คือ ปัญหาทางการเมือง
ทั้งนี้ ปี 2555 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของโลกครั้งใหญ่อีกครั้ง เพราะมีการเลือกตั้งตำแหน่งผู้นำประเทศของบรรดาประเทศมหาอำนาจเกิดขึ้น พร้อมๆ กัน ทั้งสหรัฐ รัสเซีย และฝรั่งเศส ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งผู้นำสูงสุดในพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน
เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำ ท่ามกลางเงื่อนไขเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรนัก โดยมีคำเตือนจากนักวิเคราะห์ที่ระบุว่า การไม่ยอมลงรอยของบรรดานักการเมืองในแต่ละประเทศ จะทำให้สถานการณ์ยุ่งยากจนเกินเยียวยา
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด ก็คือ มหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐ
สิ่งที่โลกได้เห็นในปีเก่าที่ผ่านมาก็คือ สภาคองเกรส ตลอดจนคณะกรรมการร่วมสองพรรค หรือ “ซูเปอร์คอมมิตตี” ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงที่จะหาข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบ ประมาณของรัฐ เพราะติดขัดอยู่ที่สองพรรคใหญ่ เดโมแครตและรีพับลิกัน ต่างไม่ยอมเสียผลประโยชน์ของฝ่ายตน
รูปการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นักวิเคราะห์ทางการเมืองทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะฝากคำเตือนด้วยความ ห่วงใยไม่ได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะต้องประนี ประนอมรอมชอมกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแย้งทางการเมืองของนักการเมืองกวนอารมณ์ ประชาชนภายในประเทศจนก่อจลาจลลุกขึ้นมาขับไล่ผู้นำประเทศ เพราะทนกับสภาพติดขัด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวของบรรดาผู้นำไม่ไหว
สำหรับความเสี่ยงประการสุดท้ายที่รอท้าทายโลกในปี 2555 นี้ก็คือ ความขัดแย้งและความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เนื่องจากแม้จะสามารถขับไล่ผู้นำได้สำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือว่า สภาพการเมืองในประเทศยังไม่สงบเสียทีเดียว เพราะขาดผู้นำที่จะเข้ามารับหน้าที่บริหาร ปรับปรุง และปฏิรูป เพื่อให้สังคมและชีวิตความเป็นอยู่โดยรวมของประชาชนอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่ เสมอภาคเท่าเทียมกัน
ขณะเดียวกัน แม้ว่าการที่ทหารสหรัฐตัดสินใจยุติสงครามและถอนทหารออกจากอิรัก จะนับเป็นสัญญาณที่ดีของการลดบทบาทและอิทธิพลของโลกตะวันตกในภูมิภาคตะวัน ออกกลางที่กินเวลายาวนานกว่า 200 ปี แต่ภาวะดังกล่าวกลายเป็นการกระตุ้นให้ประเทศทรงอำนาจในภูมิภาคอย่างตุรกี ซาอุดีอาระเบีย หรือแม้กระทั่งประเทศที่คาดเดาไม่ได้อย่างอิหร่าน เปิดศึกเผชิญหน้ากัน
ทั้งนี้ หน่วยข่าวกรองโลกตะวันตกประเมินว่า โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อิหร่านเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่อิหร่านวางไว้ มากขึ้น ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในปี 2555 นี้จะเป็นปีที่อิหร่านเริ่มมาตรการแก้เผ็ดโต้คืนบรรดาประเทศที่เข้ามาแทรก แซงภายในอิหร่าน จนทำให้คาบสมุทรแห่งนี้ลุกเป็นไฟ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโลกจะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามตะวันออกกลาง หรือปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปได้อย่างหวุดหวิด ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังไม่วายติงว่า โลกยังคงเสี่ยงกับภัยคุกคามอื่นอยู่ดี
ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง และตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นจนน่าหวาดหวั่น บรรดานักวิเคราะห์เกือบทุกสำนักทั่วโลกต่างเชื่อว่าประเด็นที่กล่าวถึงนี้จะ กลายเป็นภัยคุกคามที่ทำให้เกิดความไม่สงบอย่างต่อเนื่องในประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่พัฒนาแล้ว
เพราะผลจากสถานการณ์ที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจโดยรวมจะส่งผลให้ความเป็นอยู่ ของประชาชนยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐ กิจที่เสื่อมถอยจะเป็นชนวนสำคัญให้ราคาอาหารซึ่งเป็นปากท้องของชาวบ้านปรับ ตัวแพงขึ้น
นอกจากนี้ ยังไม่นับรวมความเสี่ยงที่พร้อมอ้าแขนรอต้อนรับโลกในปีหน้า ทั้งปัญหาการต่อต้านผู้นำในรัสเซีย ปัญหาสุญญากาศอำนาจในเกาหลีเหนือ หรือแม้แต่ปัญหาความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของเอเชียที่อาจร้อนแรงมากเกินไป
เนื่องจากความร้อนแรงทางเศรษฐกิจอาจนำมาซึ่งภาวะข้าวยากหมากแพง (เงินเฟ้อ) อีกครั้ง ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้เกิดความไม่สงบในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน หัวเรือใหญ่ทางเศรษฐกิจและความหวังในการกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในปี 2554 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ปัญหาเสถียรภาพทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจในระยะยาวในแต่ละภูมิภาคของโลก ล้วนเป็นคำถามที่ไม่อาจหาคำตอบได้ ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างคาดการณ์ว่าในปี 2555 ที่เพิ่งจะมาถึงนี้ น่าจะเต็มไปด้วยเหตุไม่คาดฝันมากมาย
เรียกได้ว่า หากปี 2554 คือสุดยอดฝันร้ายของบรรดานักการเมือง และนักลงทุน ปี 2555 นี้ ก็คงมีสภาพไม่ต่างกัน หรืออาจมากยิ่งกว่า
เพียงแต่สิ่งที่อาจช่วยให้เกิดผลกระทบดีร้ายแตกต่างกันออกไป ก็คือการเตรียมความพร้อมรับมือให้รัดกุม
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี