จากประชาชาติธุรกิจ
สัมภาษณ์
12 เดือนที่แล้ว เธอเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของตึกไทยคู่ฟ้า เป็นขุนพลหญิงจากภาคใต้ คู่กาย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
20 ปีก่อนเธอเป็น ส.ส.หญิง จ.ภูเก็ต เป็นนักการเมือง 5 สมัยคู่บารมีอดีตนายกรัฐมนตรี "ชวน หลีกภัย"
18 ปีก่อนเธอเป็นคู่กรณีกับพรรคฝ่ายค้าน กรณีที่ดิน ส.ป.ก.4-01 พร้อมกับ "สุเทพ เทือกสุบรรณ"
10 ปีก่อนเธอถูกบุกรุกพื้นที่ทางการเมือง โดยการนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จัดทัพ ส.ส.ลงใต้หวังเจาะฐานเสียงในน่านน้ำอันดามัน
1 เดือนก่อนประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 ก้าวขึ้นปีที่ 66 ของพรรรคประชาธิปัตย์ เธอถูกบุกถึงรังอีกครั้ง โดยการนำของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีสัญจร
"ประชาชาติธุรกิจ" สนทนากับ "อัญชลี วานิช เทพบุตร" ทั้งเรื่องแบรนด์ปชป. การตลาดของเพื่อไทย
- ประเมินการรุกคืบเข้าภาคใต้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร
การ ที่บอกว่ารุกคืบ คิดว่าคงไม่ใช่ เพราะประเด็นเหล่านี้จะไม่กระทบกระเทือนความคิดทางการเมืองของคนภาคใต้เลย เหตุการณ์เหล่านี้มีมาตั้งแต่ปี 2544 ตอนคุณทักษิณ (ชินวัตร) เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และมาเปิดตัวที่ภูเก็ต ตอนนั้นมีทั้ง ดร.คณิต (ณ นคร), น.พ.เกษม (วัฒนชัย) นั่นเป็นการรุกคืบมากกว่า
อีกครั้งตอน ทัวร์นกขมิ้น ตอนปี 2547 ก็มีการประกาศว่าจะแจกโครงการเป็นแสนล้านบาท และเหตุการณ์สึนามิตอนปี 2548 จะแจกเงินฟื้นฟูอีก สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น ถ้าพูดถึงกลุ่มลูกค้าทางภาคใต้ เขาเป็นคนที่ใจกว้าง มีเหตุผล และให้โอกาสคน แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาวิเคราะห์พฤติกรรมมากกว่า แม้เปลี่ยนแบรนด์จากพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคเพื่อไทย เปลี่ยนผู้แสดงจากคุณทักษิณเป็นคุณยิ่งลักษณ์
ก็คงไม่ได้สร้างความฮือฮาอะไรเท่าไร
- การลงมาในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคเพื่อไทยเขาต้องการอะไร
ต้องบอกว่า เขาลงมาทำการตลาด ต้องการไปให้ครบทุกภาค ไปเชียงใหม่ อุดรธานี และมาภูเก็ต อีกเดี๋ยวก็ไปภาคกลาง นี่คือแผนของการตลาด แต่ต้องดูว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนจะถูกใจกับการตลาดของเขา และถ้าดูตามมติ ครม.ที่บอกว่าจะให้ภาคใต้ 8.4 หมื่นล้าน 117 โครงการ ไปเชียงใหม่ อุดรธานีก็แจกเงินเป็นแสนล้านบาท แต่ความจริงเอาเงินจากไหน มันเป็นความจริงไม่ได้หรอกค่ะ แต่มันเป็นการตลาดได้ มันเป็นแค่แคมเปญที่ออกไปแล้วก็หวือหวาแค่นั้นเองอย่างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มีผลกระทบอะไรหรือไม่ มันมีแน่นอน จะแจกจังหวัดละ 100 ล้านบาท
- มองนโยบายนี้เป็นแค่การตลาด ไม่มีผลทางการเมือง
มีผลนะ กองทุนดีเราสนับสนุนด้วย แต่ประเด็นที่มากกว่านั้นคือ จะใช้เงินภาษีอากรของประชาชน 7,700 ล้านบาทอย่างไร
ที่ สำคัญกว่านั้น ในเนื้อหาระบุว่า สตรีทุกคนต้องเป็นสมาชิกก่อนถึงจะเข้าร่วมกองทุนได้ แต่วันนี้มีผู้หญิงในประเทศกว่า 33 ล้านคน แต่มีคนลงทะเบียนเต็มที่ 10 ล้านคน มันก็ยังไม่ครอบคลุม
- หวั่นไหวหรือไม่กับการที่รัฐบาลเทงบประมาณลงภาคใต้ และส่งซูเปอร์สตาร์ทางการเมือง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" มาทำพื้นที่
่ก็ ไม่หวั่นไหวเลย เพราะช่วงคุณทักษิณน่ากลัวกว่านี้เยอะ และเขาตัวจริง ไม่ใช่นอมินี มันไม่ง่ายหรอกค่ะ การที่คุณลงไปและบอกว่าจะทำโครงการให้ 84,000 ล้านบาท ใครฟังก็หัวเราะ มันเป็นไปไม่ได้
ส่วนคุณณัฐวุฒิ ต้องถามว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ของใคร คนใต้ต้องย้อนถามอย่างนี้ เขาอาจเป็นบทผู้ร้ายในสายตาของภาคใต้ก็ได้นะ (หัวเราะ) จากการทำงานการเมืองมา 20 ปี มั่นใจว่าคนใต้ไม่ต้องการอะไรที่ฉาบฉวย เขาวิเคราะห์คนเป็น ดูคนออก
- ฝ่ายตรงข้ามนิยมลงมาทำกิจกรรมทางการเมืองที่จังหวัดภูเก็ต ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
อ๋อ...ชัดเจน มันเป็นการตลาดง่าย ๆ เลยค่ะ เขามีทีมทำการตลาด มีทีมประชาสัมพันธ์ อย่าลืมว่าใน 14 จังหวัดภาคใต้ สถานที่ที่จะเป็นข่าวได้เร็วที่สุดคือ จังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว หนึ่งคมนาคมสะดวก สองมีสื่อออกไปทั่วโลก เพราะจังหวัดภูเก็ตติดอยู่ในแผนที่ท่องเที่ยวโลก ในแง่มุมของสื่อก็ต้องเป็นการตลาด ถ้าคุณไปเลือกพัทลุงหรือหาดใหญ่ก็คงไม่ใช่อย่างนี้
- ในทางการเมืองแสดงให้เห็นว่าเป็นพื้นที่อันดามัน ปชป.อ่อนแอหรือไม่
ถ้า จะบอกว่าอ่อนแอ เราคงเสียพื้นที่ไปตั้งแต่ปี 2544 ตอนที่คุณทักษิณมาเปิดตัวพรรคแล้ว แต่มันก็คือทฤษฎีง่าย ๆ ว่าพวกเขาชอบทำการตลาด ตรงนี้จะได้ผลดีที่สุด
- ไม่ซื้อสิทธิ์ ไม่ขายเสียง ยังคงเป็นคาถาที่ ปชป.ใช้หาเสียงในภาคใต้ แต่ทั้งประเทศแพ้การเลือกตั้งให้ฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว 3 ครั้ง
ปชป.ไม่ ได้ยืนด้วยนโยบายเรื่องนี้เรื่องเดียว เราเป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง พรรคมีความเก่าแก่ การที่บอกว่าเราไม่ซื้อสิทธิ์ ไม่ขายเสียง นั่นเป็นจุดแข็งของเรา
แต่ เพียงปัจจัยเดียวคงไม่พออยู่แล้ว ปชป.ก็ต้องมีการมาทบทวนใหม่ เช่น เรื่องการรณรงค์ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ นี่ก็เป็นอีกจุดยืนของเรา เป็นอุดมการณ์ที่ต้องทำต่อ เพื่อให้ทันเทรนด์ของสังคม
- เรื่องไหนบ้างที่ ปชป.จะต้องปรับเพิ่มเติม
หลาย เรื่องค่ะ ยกตัวอย่าง ปชป.ถูกโจมตีจนคนเชื่อว่า เราบริหารจัดการช้า อุ้ยอ้าย ดีแต่พูด พวกนี้ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่ตัวเราทำ แต่มันถูกย้ำคิดย้ำทำจนคนเชื่อ ต้องปรับบริบทและสื่อออกไปให้ประชาชนเห็นให้ได้ว่าเราตัดสินใจได้รวดเร็ว เป็นมืออาชีพที่พร้อมจะบริหารจัดการประเทศ เรามีทรัพยากรบุคคลทางด้านเศรษฐกิจเข้ามาค่อนข้างมาก แม้กระทั่งหัวหน้าเอง ท่านก็มือหนึ่งทางด้านเศรษฐกิจ แต่ต้องหาวิธีทำให้คนอื่นเห็นด้วยว่า ท่านเป็นมืออาชีพทั้งวุฒิภาวะ และองค์ความรู้ พวกนี้คือสิ่งที่สื่อออกมาให้คนเห็นให้ได้ว่าเรามีมืออาชีพอยู่
และ อุดมการณ์ 10 ข้อที่มีมาตั้งแต่สมัยท่านควง อภัยวงศ์ ซึ่งเราบอกว่า จะนำประเทศไปสู่เสรีนิยม ไม่ใช่อนุรักษนิยมหรือประชานิยม ซึ่งพรรคเราเป็นมานาน เราต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านระบบเศรษฐกิจผูกขาด นี่คือสิ่งที่ต้องดึงออกมาให้ประชาชนเห็นอีกครั้ง ก็ต้องอาศัยมืออาชีพ
- ทำอย่างไรให้คนกลับมาเห็นภาพที่ว่านี้
มือ อาชีพก็อาจจะเป็นคนนอกที่ดึงเข้ามาช่วย ยกตัวอย่าง นักวิชาการ นักการตลาด เพื่อให้สาธารณะรู้ถึงจุดหมายเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องปรับให้เข้ากับเทรนด์ของสังคม
- อะไรคือสิ่งใหม่ที่จะทำให้ประชาชนหันมาเลือกปชป.มากขึ้น
จุด แข็งที่อยู่ในใจมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ 11 ล้านเสียงของเราเพิ่มขึ้นมา ให้มากเท่ากับคู่แข่งที่แตกต่างอยู่ 4 ล้านเสียง เราต้องเดาใจเขาว่า คิดอะไรอยู่หรืออะไรทำให้มันหวือหวา นี่คือทฤษฎีทางการตลาด ส่วนจะเป็นรูปธรรมอย่างไรก็ต้องติดตามตอนต่อไป เดี๋ยวจะรู้เอง
- คุณชวน หลีกภัย ยังคงเป็นสัญลักษณ์หนึ่งเดียวของ ปชป.ในภาคใต้
พูด ตามตรงว่า ท่านชวนเป็นสัญลักษณ์ของ ปชป. แต่ก็ไม่ใช่ที่ตัวท่าน แต่มันคือการตกผลึกที่คนใต้ภูมิใจว่า ท่านเป็นมิสเตอร์คลีน ซื่อสัตย์สุจริต เป็น
นักประชาธิปไตย เป็นนักต่อสู้ทางการเมือง นี่คือสิ่งที่เราเชื่อกันมาอย่างยาวนาน ถ้าถามว่าวันนี้คนใต้รักคุณอภิสิทธิ์หรือไม่ คนใต้ก็รัก เพราะท่านสามารถส่งต่ออุดมการณ์อัตลักษณ์ของคุณชวนต่อมาได้
ถามว่า วันนี้ไม่มีท่านชวน หรือมีการส่งต่อครรลองของหัวหน้าพรรคไปแล้ว ดิฉันว่าคนใต้ยังรักความเป็นองค์กรของ ปชป.คือ ถ้าปราศจากท่านชวนแล้ว คนใต้จะทิ้ง ปชป.หรือเปล่า มันก็ไม่ใช่ เขารู้ว่าเขาเป็นเจ้าของ มันเป็นความรู้สึกที่มากกว่า ถ้าไม่ใช่ท่านชวนแล้ว คนใต้ก็คงไม่ปฏิเสธคนอื่นที่เป็น ปชป.
- 60 กว่าปีของ ปชป.ที่พูดถึงเรื่องความซื่อสัตย์ ฐานเสียงยังกระจุกตัวอยู่แค่ภาคใต้
เรา ก็ต้องสู้ทางการตลาดด้วยแต่จะไม่ทำการตลาดนำการเมือง แต่เราต้องปรับตัวเอง เปรียบเหมือน ปชป.เป็นแอปเปิล (บริษัท Apple Inc.) พอเขาปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์สังคมก็ก้าวกระโดดเป็นที่หนึ่งของโลกได้ แล้วทำไม ปชป.จะทำไม่ได้ เพราะเรามีต้นทุนที่ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำการตลาดอย่างสุดโต่ง แค่ปรับให้ตรงใจกับกลุ่มลูกค้าเรา และสื่อสารกับลูกค้าใหม่ให้ได้ก็เท่านั้น
พูดกันตรง ๆ ว่า นักการเมืองของ ปชป.ถ้าเทียบกันตัวต่อตัวในระบบรัฐสภากับคนอื่น ถามเลยว่าใครละใช่กว่ากัน ดิฉันว่าของเรายังมีต้นทุนสูงกว่า เพียงแต่ว่ายังสะเปะสะปะหาทิศทางไม่เจอ เหมือนสบู่ตรานกแก้ว วันนี้แค่เปลี่ยนแพ็กเกจใหม่คนก็ยังใช้กันอย่างต่อเนื่อง มันอยู่ที่ตรงนี้เองต่างหากที่เราต้องใช้วิชาอื่นเข้ามาช่วย ถ้าทำได้ ปชป.ก็มีสิทธิ์ไปต่อได้
- อะไรคือความเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา
นี่ คือช่วงที่เราปรับองค์กรภายใน ส่วนการทำพื้นที่เราก็ทำไปพร้อมกัน เราถึงบอกว่า ปชป.เป็นพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยสูงสุด หนึ่งเราไม่มีนอมินีในกรรมการบริหารพรรคเหมือนคนอื่น นี่คือสิ่งที่เราภาคภูมิใจ สองเราเป็นพรรคที่มีสาขาพรรคมากที่สุด 100 กว่าสาขา
สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ก็จะมีการประชุมสาขาพรรค และประชุมสมาชิกพรรค เราก็จะมาคุยกันเรื่องปัญหาและความทุกข์ยากของประชาชน ครั้งนี้อาจจะมีเรื่องข้าวของแพง ปัญหาเศรษฐกิจราคาพืชผลการเกษตร และความแตกต่างระหว่างการรับจำนำข้าวกับประกันรายได้
- รัฐบาลพยายามเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา ปชป.ที่มีเสียงน้อยกว่าจะทำอย่างไร
รัฐ ธรรมนูญปี 2550 สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ และควรจะมีการแก้ไข แต่ไม่ใช่ฉีกทั้งฉบับและยกร่างขึ้นใหม่ แค่นี้ก็เห็นแล้วว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่ การอ้างว่าเป็นกฎหมายฉบับปฏิวัติอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะอย่าลืมว่ากฎหมายฉบับนี้ก็ผ่านประชามติจากประชาชนฉบับแรกเหมือนกัน
- ปชป.มั่นใจว่ายังมีมือที่มองไม่เห็น และกลุ่มชนชั้นสูงคอยช่วยเหลือ
เปล่า เลย ปชป.ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว เราต่อสู้ในระบบรัฐสภามาโดยตลอด นี่คือสิ่งที่ปฏิบัติมาโดยตลอด มือที่มองไม่เห็นคือสิ่งที่สื่อเอาไปเขียนกันเองใช่หรือไม่ จากนี้เราก็จะทำความจริงให้ปรากฏกับประชาชน และเขาจะตัดสินเองว่า เขาจะยอมให้เผด็จการรัฐสภานำพาประเทศชาติไปทางไหน
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน