14 ปี ป.ป.ช.เผยเตรียมจับมือ ศธ.ปรับหลักสูตรติวเข้มจริยธรรม ต้านแนวคิดโกงไม่เป็นไร ขอให้ฉันได้ประโยชน์ นักวิชาการอิสระ แนะ ป.ป.ช.สางคดีให้เร็ว

วันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดงานเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ช. ก้าวสู่ปีที่ 14 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสรณรงค์ต่อต้านการทุจริตและปลูกจิตสำนึก ด้านคุณธรรมจริยธรรมให้กลับคืนสู่สังคมไทยให้ไม่ย่อมจำนนต่อการทุจริต

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สถานการณ์การทุจริตในปัจจุบันไม่ได้ลดน้อยถอยลง ในทางกลับกันพบว่ามีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในแง่ความตระหนักรู้ ค่านิยม การเห็นภัยอันตรายของการทุจริตของผู้คนในสังคมกลับเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคเอกชนที่มีความกระตือรือร้นในเรื่องนี้อย่างมาก ส่วนสิ่งที่ ป.ป.ช.จะดำเนินการต่อไปคือการเข้าไปรณรงค์ ปลูกจิตสำนึกในเรื่องการต่อต้านทุจริตกับกลุ่มเยาวชน โดยจะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องคุณธรรมจริยธรรมมาก ขึ้น

“อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการต่อต้านการทุจริตนั้น ภาครัฐ ต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงๆ ยกเป็นวาระแห่งชาติ ส่วนนักการเมือง ภาคประชาสังคม จะต้องมีค่านิยมไม่ยอมรับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแข็งขัน ส่งเสริมคนทำดี คนที่ซื่อสัตย์ให้ปรากฏต่อสังคม”นายปานเทพ กล่าว

จากนั้นมีการเสวนาในหัวข้อ “โกงไม่เป็นไร ขอให้ฉันได้ประโยชน์สังคมไทยรับได้หรือ” โดย รศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการอิสระ กล่าววิเคราะห์ถึงสาเหตุที่คนไทยมีแนวคิดเรื่องโกงไม่เป็นไร ขอให้ฉันได้ประโยชน์ โดยเปรียบเทียบรัฐบาลสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า สมัยพลเอกเปรมนั้น มักจะนิยมชมชอบคนซื่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนายชวน หลีกภัย กระทรวงไหนมีปัญหาก็ให้นายชวนไปเป็นที่ปรึกษา พอเข้าไปก็ไม่มีโครงการอะไร เช่นนี้ก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น

“แต่พอมาถึงสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเล่นการเมืองก็ประกาศตัวชัดเจนเลยว่าจะแก้ปัญหา เช่นทำสงครามยาเสพติด ถามว่าวันนี้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทยหรือไม่ ก็ไม่หมด แต่หากลองทำโพลล์ว่านายกรัฐมนตรีคนไหนเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากที่สุด คำตอบก็เชื่อว่าน่าจะเป็นนายกฯ ทักษิณ ต่อมาประกาศอีกว่าจะทำสงครามกับความยากจน ก็ไม่สำเร็จ แต่คนไทยก็ยังชื่นชอบ เพราะทำแล้ว ไม่สำเร็จก็ดีกว่าไม่ทำ ดีกว่าวิจารณ์คนอื่นอย่างเดียว อีกทั้งเมื่อคนชื่นชอบไปแล้ว เห็นว่าเป็นฮีโร่ ต่อให้ภายหลังโกง แต่ก็ยังได้รับความเชื่อใจอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า คนดี จะทำแต่ความดี หรือจะเป็นคนซื่ออย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป ต้องเก่งด้วย”

ทั้งนี้ รศ.สุขุม กล่าวถึงประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการคอรัปชั่นในส่วนที่ ป.ป.ช. สามารถเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขได้คือ ปัญหาเรื่องนิยามของคำว่า คอร์รัปชั่น ที่แต่ละคนอาจจะมีความเข้าใจแตกต่างๆ กันออกไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการคอร์รัปชั่นโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นตรงนี้น่าจะมีความชัดเจนเกิดขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของการดำเนินคดีของ ป.ป.ช. เห็นว่าจะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะการดำเนินการที่ล่าช้าก็ทำให้ผู้ที่ถูกสอบสวน ผู้ถูกกล่าวหาถูกสังคมตัดสินไปแล้ว  

ในช่วงบ่ายมีพิธีมอบถ้วยรางวัล พระราชทาน โล่เกียรติยศ เกียรติบัตร  และรางวัลของสำนักงาน ป.ป.ช.แก่บุคคล หน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชน โดยในส่วนของบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ประพฤติตนชอบด้วยความซื่อ สัตย์สุจริต ประจำปี 2555 มีทั้งสิ้น 25 ราย หนึ่งในนั้นคือ มล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่