จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
พอใจ พุกกะคุปต์
ยินดีต้อนรับท่านผู้อ่านกลับสู่การทำงาน หลังจากที่ได้พักกายพักใจในช่วงวันหยุด ได้สั่งสมพลังเพื่อสร้างงาน สานต่อสิ่งที่ดีๆ
ทั้งในชีวิตส่วนตน และในชีวิตของคนทำงาน
เรามาเริ่มต้นปี ด้วยการมองแนวโน้มของการบริหารบุคลากรในปีใหม่นี้ ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ เพื่อเราจะได้เตรียมตัวเตรียมใจดักทางถูก ไม่ตกยุคค่ะ
จากการสำรวจและการประเมินของหลายค่าย หลากองค์กร ไม่ว่าจะเป็นกูรูคนดังของวงการบริหารบุคลากร เช่น Dr. David Ulrich จาก University of Michigan, Ann Arbor หรือ ผลการสำรวจขององค์กรดัง เช่น ASTD และ PWC มีแนวโน้มเด่นๆ ที่เห็นพ้องกัน ดังนี้
1.อย่างไรๆ ก็ต้องไอที
ขณะที่ทีมงานอื่นใดในองค์กร ต่างรุกไปข้างหน้า โดยมีไอทีเป็นอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเงินและบัญชี ฝ่ายขาย ฝ่ายให้บริการลูกค้า
ทีม HR ส่วนใหญ่ในองค์กรทั่วไป ยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่รอบกายให้ตอบโจทย์ใหม่ที่ท้าทายองค์กร ให้ได้อย่างโดนใจ รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น
อาทิ ข้อมูลเรื่องบุคลากรที่มีอยู่ท่วมหู ดูว่าน่าจะใส่เข่งขาย ปีนี้เอาใหม่ เราขยายผลได้ โดยใช้ไอทีช่วยกลั่นให้เป็นประเด็นที่เป็นประโยชน์ ช่วยชี้นำผู้บริหารให้ตัดสินใจเรื่องคนและระบบองค์กรได้ง่ายและทันท่วงที
หรือ HR ต้องชาญฉลาดในการใช้ Social Media สื่อสารกับทั้งคนภายใน และใช้ในการแทรกตัวเข้าไปในหมู่คนยุคใหม่ ที่อยากดึงให้มาทำงานกับเรา
ในวงการฝึกอบรม ก็ต้องเพิ่มแนวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใช้ Web based เพิ่มเติม ตลอดจนเสริมการพัฒนาทักษะพนักงาน โดยผ่านอุปกรณ์มือถือ Moblie ที่ทุกคนมีติดกายเปรียบเสมือนเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ตามเขาไปทุกที่อยู่แล้ว เป็นต้น
2.ต้องรุก ต้องเร็ว
ความผันผวนปั่นป่วนในสภาวะแวดล้อม ทำให้ทีมน้อยใหญ่ในองค์กรต้องปรับรับลูกให้ทัน ทีม HR จึงเชื่องช้าไม่ได้ ต้องทำงานให้ทันการ ทันใจ ในให้การสนับสนุนจุนเจือช่วยเหลือทีมอื่น
การที่จะทำงาน HR ให้เร็วและรุกขึ้นได้ นอกจากการใช้ไอทีที่มี ให้เป็นประโยชน์ดังระบุข้างต้นแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วย คือ การปรับตัว HR ให้เป็นคู่คิดเสริมธุรกิจได้มากขึ้น ฝรั่งเรียกบทบาทนี้ของ HR ว่าเป็น Strategic Partner นั่นเอง
การที่ HR เข้าใจธุรกิจ จะทำให้คิดช่วยหน่วยงานอื่นได้อย่างสอดประสาน ไม่ใช่งานใครงานท่าน ฉันไม่เกี่ยว ฉันมีหน้าที่จัดอบรมเรื่อง Competencies จัดประชุมทุกกลุ่มเพื่อกระจาย KPI ให้ถึงตัวบุคคล ยืนทวง IDP ไล่บี้ให้คนเข้าสัมมนา ฟังไม่ฟังไม่ว่า แต่กรุณาเซ็นชื่อเช้าบ่าย ว่าได้เข้าแล้วค่ะ ฯลฯ
บทบาทเหล่านี้ พี่ๆทีมอื่นหลายคนยังกังขาว่าทำไปทำไม หรือแม้จะเห็นประโยชน์ แต่ก็โอดครวญว่า หาเวลาที่ผมว่างได้ไหม สารพัดจะไม่ได้ใจผู้ที่เป็นลูกค้าภายในของทีม HR
การเข้าใจธุรกิจ อาทิ กระบวนการผลิต การคิดต้นทุน ความเป็นไปของลูกค้า คู่แข่ง ตลาด ความคาดหวังด้านการเงิน ฯลฯ จะทำให้ HR อ่านสถานการณ์ได้ขาดและทันท่วงที ไม่ดูพิรี้พิไร ประชุมทีไร ก็พูดได้แต่ภาษา HR จนทีมอื่นเบื่อฟัง นั่งกด Line เล่น เป็นประโยชน์กว่า
HR ที่เป็น Strategic Partner เริ่มต้นโดยการมองนอกกรอบของ HR ก่อน อาทิ เมื่อเห็นองค์กรต้องปรับรับ AEC คู่คิดทางธุรกิจที่ดี จึงกลับไปหากลยุทธ์ด้านคน เช่น ต้องเตรียมแผนรุกว่าเราจะบุกในด้านบุคลากรได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็น พัฒนาทักษะด้านการบริหารวัฒนธรรมข้ามชาติ Cross-Cultural Management หรือวางแผน Talent Management ที่เอื้อกับกลยุทธ์ภายภาคหน้า โดย HR ไม่ต้องนั่งเพียงรอคำสั่ง ประดั่งคิดไม่ออก ต้องรอเขาบอกร่ำไป
เมื่อไรที่ HR สามารถทำให้พรรคพวกภายในเห็นคุณค่าในฐานะคู่คิด เพราะเรามองธุรกิจเป็น เมื่อนั้น HR จะยกฐานะทั้งทีมให้เป็นหน่วยงานหลัก เพราะทำให้คนตระหนักว่า ต้องมีเรา
3.ต้องเป็นหลักในการสร้างพลังในองค์กร หรือ Employee Engagement
ผลการสำรวจล่าสุดปี 2012 ของ Towers Watson บ่งบอกว่า เพียงแค่ 35% ของคนทำงาน รู้สึกฟูฟ่อง มององค์กรอย่างผูกพัน ว่านี่คือบ้านของฉัน จึงต้องดูแล ทุ่มเท ใส่ใจให้องค์กรเราเติบโตก้าวหน้า
ที่เหลือ ซึ่งเป็นพนักงานส่วนใหญ่ในองค์กร ท่านอาจนั่งๆนอนๆ รอให้เวลาผ่านๆไป จะได้ไปทำอะไรอื่นใดที่สนุกที่มีความสุข หลังเลิกงาน
บางท่านมีอาการซึมเซ็ง ไม่รู้จะทุ่มไปทำไม องค์กรไม่ใช่ของฉันคนเดียว ทำดีทำชั่ว ก็ได้ผลตอบแทนเท่ากัน งั้นอยู่เฉยๆ ก็ได้ ไม่เหนื่อยดี
บางกรณี ยังมีพนักงานที่ขึ้งโกรธโหดร้าย อย่าได้เปิดโอกาส จะป่วนประกาศให้โลกรู้ ว่าองค์กรฉันมันไม่เอาไหน ลูกค้ากรุณาหนีไปให้ไกลๆ ผมคนในขอบอก
โจทย์สำคัญของ HR ในปี 2013 จึงยังเป็นการกระหน่ำหาวิธีที่จะทำอย่างไรให้คนผูกพันทุ่มเทใส่ใจกับองค์กรมากขึ้น ไม่ว่าจะสร้าง Happy Workplace ทำบรรยากาศให้การทำงานมีความสุข หรือ มุ่งพัฒนาทักษะผู้นำ ให้หัวหน้างานเชี่ยวชาญในการสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกทีม เป็นต้น
ไม่ว่าท่านผู้อ่านจะเป็น HR หรือหัวหน้างานทั่วไป หัวใจของความสำเร็จ คือ คน ที่เป็นพลัง ส่งให้เกิดงาน และสานต่ออนาคต
องค์กรจะรุ่งริ่ง หรือ รุ่งโรจน์ ขึ้นกับตีโจทย์เรื่องคนแตกหรือไม่
เอาใจช่วยค่ะ
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน