AEC: Opportunity&Challenge โอกาสอยู่ในมือคนที่พร้อม

โดย : กิจธวัช ฤทธีราวี

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา หัวข้อที่ถูกพูดถึง แลกเปลี่ยนความเห็น จัดเวทีสัมมนาระดมความคิดกันอย่างต่อเนื่องมากที่สุดก็คือ...

การเตรียมความพร้อมของประเทศไทย ประชาชน ภาคธุรกิจ ตลอดจนผู้ประกอบการไทย เพื่อรองรับการเปิดเสรี ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( Asean Economics Community: AEC) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2558 นั่นเอง

จุดสำคัญที่ทุกคนต้องการทราบข้อมูลก็คือ เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว “จะเกิดอะไรขึ้น” และ “ได้อะไร” หรือ “เสียอะไร” นั่นเอง หลังวันที่ 31 ธ.ค.2557 เมื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีในระหว่างประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ อันประกอบด้วย ไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, บรูไน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว และพม่า แล้ว

สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ กิจกรรมการค้าขาย นำเข้า ส่งออก ลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันจะสะดวกรวดเร็วและเสรีมากขึ้น ข้อกำหนดที่เป็นเหมือนกำแพงกั้นทางการค้า การเคลื่อนย้ายทุน การเคลื่อนย้ายแรงงาน ฯลฯ จะหมดไปหรือเหลือน้อยที่สุด

ตลาดการค้าที่ผู้ประกอบการคนไทย นักธุรกิจไทยเคยมองเฉพาะตัวเลขประชากร หรือกำลังซื้อประมาณ 65 ล้านคน จะกลายเป็น 600 ล้านคน เช่นเดียวกันกับการขยายธุรกิจ การลงทุน กระจายสาขาหรือกิจการที่เคยอยู่แต่เฉพาะกรอบ 77 จังหวัดของประเทศไทย ก็จะกลายเป็น 10 ประเทศทั่วอาเซียน!

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่พันธมิตรอื่นๆ นอกกลุ่มอาเซียน อาทิ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย ฯลฯ รวมถึงสหรัฐอเมริกาที่ต่างก็ต้องการเข้ามามีความสัมพันธ์กับตลาดขนาดใหญ่ของกลุ่ม AEC อีกด้วย

เมื่อเห็นภาพดังกล่าวแล้วจึงก้าวต่อไปสู่คำถามที่ว่า เราคนไทย ธุรกิจไทย “จะได้อะไร” และควรเตรียมตัว เตรียมความพร้อมของธุรกิจหรือองค์กรอย่างไร

คำตอบที่ง่ายที่สุดนั่นคือ ต้องย้อนกลับมามองที่ศักยภาพ จุดเด่นของประเทศเรา หรือธุรกิจของเราเองว่า โดดเด่นหรือมีจุดแข็งในด้านใดบ้าง นั่นจึงจะทำให้มองเห็น “โอกาส” สำหรับการกำหนดบทบาทตัวเองเพื่อที่จะเป็น “ศูนย์กลาง” ในด้านที่เหมาะสม

หากไม่นับ สิงคโปร์ ที่เติบเติบอย่างเข้มแข็งต่อเนื่องมานานและมีศักยภาพในการเป็น ศูนย์กลาง ของภูมิภาคมาก่อนแล้ว ประเทศไทยเองก็มีศักยภาพที่พร้อม ทั้งในด้านทรัพยากร ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ที่สามารถเป็นผู้นำในอันดับต้นๆ ของภูมิภาคได้เช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากประเทศไทยสามารถขยายบทบาทในการเข้าไปร่วมลงทุนและพัฒนาศักยภาพในกลุ่มประเทศ CLM คือ กัมพูชา ลาว พม่าได้อย่างเหมาะสมประเทศไทยก็พร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมทั้งในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าในระหว่างกลุ่มประเทศดังกล่าว และยังเป็น Gateway สำหรับชาติอื่นๆ นอกกลุ่มอาเซียนที่ต้องการเข้ามาเชื่อมต่อ ค้าขาย ลงทุน ฯลฯ

ที่สำคัญ รายได้ประชาชาติของไทย ตลอดจนประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนจะเพิ่มมากขึ้น ศักยภาพ กำลังซื้อของผู้คนในภูมิภาคก็จะเพิ่มขึ้น

นั่นจะเป็น “ข้อดี” โดยตรงสำหรับทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจเครือข่าย เนื่องเพราะธุรกิจเครือข่ายมีความชำนาญในกลุ่มสินค้าพรีเมียม ชำนาญการขายสินค้าคุณภาพ เมื่อคนมีกำลังซื้อสูงขึ้น จุดนี้คือผลดีที่เกิดขึ้นโดยตรง

สำหรับคนทำธุรกิจเครือข่าย หรือธุรกิจขายตรง การที่ตลาดขยายขอบเขตเป็น 10 ประเทศ ก็จะก่อให้เกิดการหมุนเปลี่ยนเวียนถ่าย เครือข่ายก็กระจายออกไปได้มากขึ้น ธุรกิจในประเทศไทยสามารถขยายบทบาทออกไปสร้างเครือข่ายในประเทศอื่นๆ ชักชวนคนอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เข้ามาร่วมทำธุรกิจเครือข่ายได้

นอกจากนี้ยังมีแง่มุมที่สนับสนุนธุรกิจเครือข่าย ยกระดับมาตรฐานการทำงานให้ดีขึ้นยกระดับกฎกติกาของหลายๆ ประเทศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เอื้อให้หลักเกณฑ์การทำธุรกิจเครือข่ายมีความชัดเจน มีกระบวนการคุ้มครองธุรกิจและคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น

เห็นภาพบวกที่สวยหรูและเต็มไปด้วยโอกาสแบบที่กล่าวมาแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะมองอีกมุมหนึ่งว่า เมื่อเข้าสู่ AEC แล้วสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม พึงระวังว่า คนไทย ธุรกิจไทยจะ “เสียอะไร” ก็มีด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้ประกอบการจากประเทศอื่นจะเข้ามาแบ่งเค้กในตลาดเราได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อสนามแข่งขันเปิดกว้างขึ้น “ความพร้อม” ในการก้าวออกไปสู่สนามแข่งขันใหม่ๆ ด้วยบุคลากรที่มีความสามารถ มีความคล่องตัวสูง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายตัวออกสู่ภูมิภาค

ซึ่งจุดนี้บุคลากรของไทยอาจต้องปรับพฤติกรรม เปลี่ยนทัศนคติ ที่ชอบทำงานในจุดที่มั่นคง สะดวกสบาย ไม่ชอบการโยกย้าย ในขณะที่บุคลากรของหลายๆ ชาติในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ กลับมีความพร้อมที่จะย้ายที่ทำงานสูง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องภาษาหรือการเปลี่ยนแปลงที่ท้าทาย

เพราะถึงที่สุดแล้ว ปัจจัยชี้ขาดสำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากศักยภาพที่เข้มแข็งและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้วผู้ประกอบการไทยต้องเร็วและพร้อมที่จะคว้าโอกาสที่เกิดขึ้น

มิฉะนั้นแล้ว แทนที่จะเป็นโอกาสในการขยายตลาดเข้าไปแบ่งเค้กของคนอื่น กลับจะกลายเป็นโดนคู่แข่งขันเข้ามาแย่งเค้กนั่นเอง

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน