จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร

ได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 308 (พ.ศ. 2558) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ข้าราชการที่กลับไปใช้สิทธิใน บำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 (Undo) จึงขอนำมาเป็นประเด็นปุจฉา-วิสัชนา ดังนี้ 

ปุจฉา มีเจตนารมณ์ในการออกกฎกระทรวงฉบับที่ 308 (พ.ศ. 2558)ฯ อย่างไร

วิสัชนา ตามหมายเหตุของกฎกระทรวงฉบับที่ 308 (พ.ศ. 2558)ฯ ได้แสดงเจตนารมณ์ของกการออกกฎกระทรวง (ฉบับที่ 308) พ.ศ. 2558)ฯ ว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติ บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2557 บัญญัติให้ข้าราชการและผู้รับบำนาญซึ่งแสดงความประสงค์จะกลับไปใช้สิทธิใน บำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนของเงินสะสมจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือได้ รับเงินส่วนเพิ่มจากกรมบัญชีกลาง แล้วแต่กรณีซึ่งผลประโยชน์ตอบแทนหรือเงินส่วนเพิ่มดังกล่าวถือเป็นเงินได้ พึงประเมินที่ผู้มีเงินได้ต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและเยียวยาข้าราชการและผู้รับบำนาญ ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้น้อย สมควรกำหนดให้ผลประโยชน์ตอบแทนของเงินสะสม หรือเงินส่วนเพิ่มที่ได้รับตามพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จ บำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2557 เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยออกกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว

ปุจฉา มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ข้าราชการที่กลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญอย่างไร

วิสัชนา กำหนดให้เงินได้ดังต่อไปนี้เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวม คำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ โดยให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป

(1) ผลประโยชน์ตอบแทนของเงินสะสมที่ข้าราชการซึ่งขอกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จ บำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ได้รับจากกรมบัญชีกลาง ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2557 กล่าวคือ ให้ข้าราชการมีสิทธิได้รับเฉพาะเงินสะสมและผลประโยชน์ตอบแทนของเงินสะสม แต่ไม่มีสิทธิได้รับเงินสมทบ เงินประเดิมเงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนของเงินดังกล่าว

(2) เงินส่วนเพิ่มที่ผู้รับบำนาญซึ่งขอกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราช บัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ได้รับจากกรมบัญชีกลาง ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2557 กล่าวคือ ให้ข้าราชการผู้รับบำนาญต้องคืนเงินสมทบ เงินประเดิม เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนของเงินดังกล่าวที่กองทุนคำนวณให้ในวันปิดบัญชีเงินราย บุคคลของผู้รับบำนาญนั้น และเงินบำนาญที่ได้รับหรือพึงได้รับตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ให้แก่ส่วนราชการ โดยวิธีการหักกลบลบกันกับเงินบำนาญที่พึงได้รับตั้งแต่วันออกจากราชการจนถึง วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน