จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ Thai Startup Cafe โดย พงศ์พีระ ชวาลาธวัช www.facebook.com/thaistartupcafe
ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา หลาย ๆ คนคงจะได้เห็นคำว่า Fintechจนติดหูติดตากันพอสมควร บางคนก็ว่า Fintech คืออนาคตที่จะเข้ามาแทนธนาคารที่เราไม่รู้จักกัน แม้แต่ผู้คนก็สามารถลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรม digital ได้ โดยไม่ต้องกลัวอะไรจาก Blockchain หรือแม้กระทั่งสินค้าทางการเงินเอง ก็เปลี่ยนจากการคาดคะเน หรือคำนวณทางพื้นฐานภาพรวมมาเป็นการใช้โปรแกรมมิ่งมาทำการคำนวณเองและแนะนำผู้ซื้อขายหุ้น
ทางธนาคารหลายๆ ธนาคาร ไม่ได้อยู่นิ่ง ต่างออกมาปรับตัวกันพอสมควร ซึ่งวันนี้เราจะมาฟังผู้ที่มีประสบการณ์สูงระดับที่องค์กรการเงินระดับโลกยังต้องง้อขอตัวไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ในอเมริกา แม้จะมากฝีมือขนาดนั้น แต่เจ้าตัวบอกว่า "ไม่เอา ไอรักเมืองไทย" ไอจะขออยู่เมืองไทยนี่แหละ
ต้องขอบอกก่อนว่าผมสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราคุยกันสนุกมาก ๆ จนคิดว่าถ้าเอามาลงตีพิมพ์น่าจะเกิน 2 หน้าหนังสือพิมพ์ ดังนั้น จึงได้แต่นำใจความสำคัญมาสรุปย่อให้ได้ฟังกันครับ
คุณ Axel Winter นั้น เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงมากให้กับทาง Accenture, GE, Deloitte, Cisco and Loan Garage. และปัจจุบันยังทำงานขับเคลื่อนการวางแผนสถาปัตยกรรมทาง IT และกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีให้กับธนาคารชั้นนำของโลก ที่สำคัญยังเป็น Project Work Advisor ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในโครงการ MIM (Master in Marketing) อีกด้วย ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ของคุณ Axel ตัวเขาเองได้คุยกับผมและบอกว่าหลัก ๆ แล้ว เขาเป็น Executor ที่ดี หรือเป็นผู้ลงมือทำที่ดีนั่นเอง ในการที่จะผลักดันการวาง โครงสร้างทางการเงินของ GE เผลอ ๆ ผมอาจจะสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นคนวางโครงสร้าง IT ทางการเงินเบอร์ต้น ๆ ในอาเซียนเสียด้วยซ้ำไป
คุณ Axel เล่าให้ผมฟังตั้งแต่เขาเริ่มต้นมาจากการเขียนโปรแกรมช่วยกิจการงานอสังหาริมทรัพย์ที่บ้าน ไปจนถึงการเริ่มต้นพัฒนาโครงสร้างการส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเก่ากว่าสมัย 28k ที่ผมเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตเป็น ไปจนถึงการกระจายตัวของธนาคารดั้งเดิม กับ Digital Banking
ผมเองได้ชวนคุยเรื่อง Digital Bank แห่งหนึ่งที่เพิ่งได้รับการลงทุนไปชื่อ N26 ที่เยอรมนี ซึ่งเป็นธนาคารที่ไม่มีสาขาให้ไปเดินถอนเงินกัน ผมเลยถือโอกาสยิงคำถามไปว่า "อย่างนี้ในอนาคตจะไม่มีธนาคารเปิดให้เราเดินเข้าไปใช้บริการแล้วใช่หรือไม่" คุณ Axel ตอบว่า "ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะทางยุโรปเองได้พยายามทำ Digital Banking กันนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที" แต่คุณ Axel ก็เชื่อว่าสักวันหนึ่งโครงสร้าง Digital Bank จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
พร้อมกันนั้นเขาได้ยกตัวอย่าง mbank.pl ซึ่งประสบความสำเร็จในประเทศโปแลนด์และโดน German Bank ซื้อกิจการในที่สุด มันทำให้ผมคิดว่าวันหนึ่งคนไทยจะไปถึงจุดตรงนั้นหรือไม่ คุณ Axel บอกว่าวันนี้ที่ประเทศจีนคุณแทบจะไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์กันแล้ว แต่สำหรับที่เมืองไทยน่าจะยาก ซึ่งผมเองถามว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ คำตอบที่ได้จากเขาคือ "ไม่เชิง" ผมเลยถามต่อ ว่าถ้าเมืองไทยนำเอา Blockchain มาใช้ เมืองไทยจะมีความปลอดภัยขึ้นหรือไม่ คุณ Axel กล่าวว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลไทยว่าจะเล่นด้วยขนาดไหน จะออกมาตรการอะไรเกี่ยวกับ Blockchain บ้าง
จากนั้นผมเลยขอผลักประเด็นไปเรื่องของ Thailand 4.0 ต่อ เพราะไหน ๆ ก็คุยกันเรื่องของนวัตกรรมการเงินแล้ว ซึ่งคุณ Axel มีความเห็นว่า Thailand 4.0 นั้น ถือว่าดีมากที่ประเทศไทยพยายามทำ ซึ่งจริง ๆ แค่พยายามสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ขึ้นมา ก็เป็นการดีแล้ว เพราะเขาเชื่อมั่นในหลักของคนเยอรมัน ที่ว่าเวลาสร้างสรรค์อะไรขึ้นมามักจะมีคนมาวิจารณ์ ตัวเขาเองมองว่าเป็นเรื่องดีที่จะมีการสร้างและวิจารณ์ในทางบวก เขาอยากให้เรามองบวก สร้างบวก และวิจารณ์แบบบวก ให้เป็นการ ช่วยกันสร้างประเทศ และ Startup ที่ดี
ในความคิดเห็นของ Axel อยากให้มี Startup เกิดขึ้นจำนวนมาก เพื่อช่วยสร้างกิจการสร้างสรรค์ให้มากที่สุด โดยอยากให้กระจายทำกันทั่วทั้งประเทศ ซึ่งพอมี Startup จำนวนมากเราก็จะเรียนรู้จากการความล้มเหลวได้มากขึ้น เร็วมากขึ้น และมีกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วย
คุณ Axel มีความคิดว่าเมืองไทยควรจะต้องมี CTO หรือ Chief Technology Officer ที่ไม่ใช่รัฐมนตรี ICT แต่ควรเป็นคนนอกการเมือง เป็นคนที่มีประสบการณ์ ICT และ digital space เพราะคนคนนี้จะช่วยแนะนำให้ประเทศไปสู่ digital policy ที่ถูกต้อง
ทันทีนั้นผมถามย้อนกลับมาว่าแล้วมี Startup Fintech ที่ไหนในโลกที่จะเข้ามาแทนที่ธนาคารได้ไหม คำตอบของคุณ Axel มีว่า ถึงทุกวันนี้เขาก็ยังไม่เห็นว่าจะมี Startup รายไหนเข้ามาแทนที่ธนาคารหรือล้มธนาคารได้ แต่ Startup จะเข้ามาเสริมความหลากหลายทางผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ธนาคารมากกว่า
ผมแกล้งแหย่กลับว่าถ้าวันนี้จะให้เขาลงทุนกับ Fintech Startup อยากรู้ว่าเขาจะลงทุนกับใคร Axel บอกว่าถ้าเป็นทุกวันนี้เขาเองชื่นชม Jitta กับ Flow Account เป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลว่าเป็น Startup ที่มีเทคโนโลยีที่ดี และที่สำคัญเป็นแอปพลิเคชั่นที่คนน่าจะเข้ามาใช้กันมากในอนาคต
สุดท้ายผมขอคำแนะนำจากเขาให้กับคนที่จะทำ Startup ซึ่ง Axel บอกว่า "ขอแนะนำสั้นๆ ไม่กี่อย่าง อย่างแรกกรุณาสร้างสิ่งที่มีคนต้องการออกมา อย่าไปทำตามใจตัวเอง และต้องทำให้เร็ว ล้มเร็ว ลุกเร็ว ปรับตัวให้เร็ว มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง Unique Value Proposition
ส่วนสิ่งที่ควรจะโฟกัส นอกเหนือจากการสร้างสินค้านั้น คือการสร้าง "โมเดลทางธุรกิจ" ที่มีความซับซ้อน แต่ตลาดสามารถสัมผัสได้ง่าย ด้วยเทคโนโลยีที่มีความลึก คนอื่นสามารถตามทันได้ยาก
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน