จากประชาชาติธุรกิจ

ในปฏิทินการเมือง ศักราช 2560 จะเป็นปีที่สิ้นสุดโรดแมปอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นปีที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ประกาศต่อนานาประเทศในที่ประชุมสหประชาชาติว่าจะมีการเลือกตั้งตอนปลายปี

แม้ว่าในช่วงปลายปี 2559 จะเกิดการเปลี่ยนผ่านครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 70 ปี แต่ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้ากฎหมายรัฐบาล ยืนยันว่า โรดแมปการเมืองยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม 

แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนคือภูมิทัศน์การเมืองที่จะ "พลิกโฉม" ไม่ใช่แค่ Change ในภาษาอังกฤษ แต่เป็น Reform หรือปฏิรูป 

"ภูมิทัศน์การเมืองในปี 2560 จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก ไม่ใช่เปลี่ยนที่เรียกว่า Change เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เปลี่ยนในปี 2560 คือเปลี่ยนอย่างใหญ่ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Reform แปลให้เท่ว่าปฏิรูป" วิษณุกล่าว 

สิ่งแรกที่จะเปลี่ยน "วิษณุ" กล่าวว่า ไม่นานก็จะเปลี่ยนแผ่นดิน เปลี่ยนรัชกาล ซึ่งเราก็รู้ ส่วนจะมีขึ้นเมื่อใด มาถึงเมื่อใดอยู่ในพระราชวินิจฉัย การเตรียมการมีได้ แต่จะกำหนดวันเวลาไม่สมควร นี่คือเปลี่ยนอันดับแรกที่จะมาถึง 

สิ่งที่สองที่จะเปลี่ยน คือการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งในรัฐธรรมนูญใหม่ใส่อะไรไว้เยอะ พอให้เกิดการทำอะไรต่อ ๆ ไปอีก เรื่องรัฐธรรมนูญนี้อย่าถามว่าประกาศใช้เมื่อไหร่ ผมไม่อยากโกหก แต่เมื่อรัฐบาลนำทูลเกล้าฯถวายไปแล้วเป็นพระราชอำนาจในการลงพระปรมาภิไธย ซึ่งมีระยะเวลา 90 วัน รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้เมื่อใดจึงไม่รู้ รัฐบาลไม่รู้ และคิดว่าไม่มีคนไทยคนใดรู้ การเตรียมการจึงเตรียมได้ เพราะพระองค์จะทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อใด จะทำอย่างไร เตรียมได้ แต่จะกะเกณฑ์เมื่อนั้นเมื่อนี้ไม่ได้ 

เปลี่ยนที่สาม คือการต้องดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เป็นร้อยเรื่อง โดยนับหนึ่งตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ 

"อะไรที่รัฐธรรมนูญกำหนดต้องให้เสร็จภายใน120วัน 160 วัน 180 วัน 240 วัน ให้เสร็จภายใน 2 ปี ทั้งหมดนับตั้งแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญทั้งนั้น เช่น คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จึงได้เวลาฟรี ๆ ในการยกร่างกฎหมายลูก เพราะไม่นับเวลา" 

เปลี่ยนที่สี่ "วิษณุ" ใช้คำว่า "สาหัส" คือการยกร่างกฎหมายลูก 10 ฉบับ ของ กรธ.เขายกตัวอย่างการร่างกฎหมายลูกแค่ฉบับเดียว คือกฎหมายลูกว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังมีเรื่องวิวาทะกับ กกต. แล้วอีก 9 ฉบับจะขนาดไหน ที่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 8 เดือน 

ทั้งนี้ กฎหมายลูก 10 ฉบับจัดเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 4 ฉบับที่ใช้ในการเลือกตั้ง กลุ่มที่สอง 6 ฉบับ





วิษณุเชื่อว่า 6 ฉบับ อาทิ กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กฎหมายว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน คิดว่าคนไม่ได้ติดใจไปทะเลาะเบาะแว้งเท่าไหร่ 

แต่ 4 ฉบับที่ต้องเสร็จเป็นกลุ่มแรก ที่คนทะเลาะกันทุกวัน คือกฎหมาย กกต. กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายว่าด้วยวิธีการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งต่อไปพิสดารกว่าเดิม โดยมีการเลือกตั้งโดยใช้บัตรใบเดียว กฎหมายสรรหา ส.ว. เมื่อทั้ง 4 ฉบับประกาศใช้ครบเมื่อไหร่ จะต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จภายใน 5 เดือน หรือ 150 วัน 

"กรธ.จึงเร่งทำกลุ่มแรก 4 ฉบับให้เสร็จ แต่เสร็จจาก กรธ.ต้องนำเข้า สนช. พิจารณาให้ออกมาเป็นกฎหมาย ถ้า สนช.ไม่แก้อะไรก็เร็ว ถ้า สนช.แก้ก็จะช้า แต่ สนช.พิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน ถ้าไม่เสร็จถือว่าเสร็จ เอาตามที่ กรธ.ทำมา กว่าจะทูลเกล้าฯ กว่าจะประกาศใช้ไม่มีใครไปขีดเส้นว่าเมื่อใด เพราะอยู่ในพระราชอำนาจ พอประกาศใช้ครบ 4 ฉบับ ก็จึงจะเลือกตั้งภายใน 5 เดือน" 

"มีคนบอกว่าถ้าขยับให้เร็วเลือกตั้งภายใน 1 เดือนได้ไหม เมื่อก่อนนายกฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยุบสภาเลือกภายใน 1 เดือนก็เลือกตั้งได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้น เพราะอย่าลืมว่ากฎหมายพรรคการเมืองเพิ่งออกมา แปลว่ายังไม่เคยมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่เลย ลงท้ายก็จะเหลือพรรคการเมืองที่พรรคพร้อมอยู่แล้วถ้าไม่เซตซีโร่ 

ถ้าเซตซีโร่ก็ไปกันใหญ่เลย เพราะเป็นศูนย์หมด จะไปเลือกตั้งภายใน 1 เดือนได้ทันหรือ 2 เดือนก็ไม่แน่ว่าจะทัน 3 เดือนก็ไม่รู้ว่าจะทันไหม แล้วจะไปเลือกตั้งทันหรือ กว่าจะตั้งพรรค จดทะเบียน สมัครสมาชิก หาเสียง ปิดโปสเตอร์ยังไม่ทั่วเลย จะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบสำหรับพรรคการเมืองที่พร้อมและมีหัวคะแนนครบ ทำอย่างไรให้เป็นธรรม ก็คือเลือกตั้งสุดท้ายในเดือนที่ 5 คิดว่าในที่สุดก็คือเลือกตั้งในเดือนที่ 5 หรืออาจจะเลือกวันสุดท้ายของเดือนที่ 5 ดังนั้น เมื่อดูอย่างนี้ก็คงเลือกตั้งในปี 2560 ที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยบอกว่า เพราะนั่นคือโรดแมป" 

"แต่กรุณาให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาล เพราะโรดแมปเป็นสิ่งที่รัฐบาลวาง แต่มีตัวแปรเกิดขึ้นได้ แม้วันนี้ยังไม่เห็นตัวแปร แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้น แล้วเราปรับอะไรได้ก็จะปรับให้เลือกตั้ง 2560 แต่ ถ้าปรับไม่ได้ก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาด วันนี้ยังไม่ควรพูดอะไร เพราะยังมองไม่เห็นตัวแปร ผมจึงยืนยันอย่างที่รัฐบาลยืนยันว่า จัดการเลือกตั้งในปี 2560"

อย่างไรก็ตาม "วิษณุ" แตะเบรกว่า อย่าเพิ่งคิดไกลว่าจะมีรัฐบาลใหม่ในปี 2560 เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ให้ กกต.ประกาศผลภายใน 2 เดือน ถ้า กกต.ประกาศในเดือนที่สอง ซึ่งเชื่อว่าจะมีใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม และการเลือกตั้งต่อไปนี้เป็นการเลือกตั้งบัตรใบเดียวได้ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. การแพ้ชนะตัวแปรก็เปลี่ยน วิธีนับคะแนนผิดไป ไม่ใช่ใครได้คะแนนมากที่สุดจะได้เป็นรัฐบาล ใครที่ได้คะแนนไม่มากที่สุดก็อาจจะได้เป็นรัฐบาล จึงต้องใช้เวลา 60 วัน แม้คิดดีก็คงฟ้องกันอุตลุด หลังจาก กกต.ใช้เวลา 2 เดือนในการประกาศผล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จรัฐพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นเลือกประธานสภา และเลือกนายกฯ จะกินเวลาไปเดือนไหนก็สุดแล้วแต่จะไปจัดการ 

เปลี่ยนที่ห้า ปัจจัยที่ทำให้ภูมิทัศน์เปลี่ยนไปต่างจากในอดีต เพราะจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ สารพัดที่จะขู่กัน ปราบโกง แค่นี้ก็แหยงกันแล้ว เปิดรัฐธรรมนูญดู ข้าราชการต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะวางตัวยาก สิ่งที่เคยปฏิบัติมาแต่ในรัฐธรรมนูญใหม่ทำไม่ได้ และมีหลายอย่างตามรัฐธรรมนูญใหม่ที่กำหนดว่าเมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว นับหนึ่งวันไหนต้องปฏิบัติ 

รัฐบาลต้องปฏิบัติเยอะ ยุ่งยากมาก รัฐบาลต้องวางกฎเป็น 100 เรื่อง 30 เรื่องออกกฎหมายภายในเวลาที่กำหนด อีก 20 ฉบับเป็นกฎหมายที่ต้องออก แต่ไม่มีเวลากำหนด อีก 50 เรื่องที่เหลือ คือกิจกรรมที่ต้องทำทันที ถ้าไม่ทำทันทีก็จะมีคนเปิดรัฐธรรมนูญมาจับผิด นี่คือความเปลี่ยนแปลง การปฏิรูป 

นอกจากนี้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมียุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรัฐบาลบอกว่า 20 ปี เป็นกฎหมายว่าด้วยวิธีทำยุทธศาสตร์ชาติ มองประเทศไทยไปอีก 20 ปีจะเกิดอะไรขึ้น ไทยไม่เคยมียุทธศาสตร์อะไรเกิน 5 ปี ครอบคลุมแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 4 แผน แล้วจะมีโทษถ้าไม่ทำตาม ยุทธศาสตร์ชาติครอบคลุมอย่างน้อย 6 ด้าน ด้านความมั่นคง ด้านเพิ่มความสามารถในการแข่งขันต่างประเทศ ด้านพัฒนาคน คุณภาพชีวิตคู่กับสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ด้านส่วนที่เกี่ยวกับการสร้างโอกาสความเสมอภาค และยุทธศาสตร์ว่าด้วยวิธีการบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ รวมถึงเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้จะต้องทำขึ้นมา ไม่ใช่ใครมาร่างเอง ต้องฟังความเห็นคนทั่วประเทศแล้วทำให้เสร็จภายใน 1 ปี

ที่บอกว่าผูกมัดรัฐบาลหน้า...ไม่ใช่ รัฐบาลหน้าอยากแก้ก็แก้ได้ เพราะยุทธศาสตร์บอกแต่เพียงเป้าหมาย ส่วนวิธีการไม่ได้บอก คนเป็นรัฐบาลมีสิทธิที่จะกำหนดวิธีการของตัวเอง ไม่ให้เหมือนกับรัฐบาลก่อน แต่ยึดยุทธศาสตร์เดียวกัน ไปสู่จุดหมายเดียวกัน หรือแม้แต่ไม่ชอบจุดหมายก็แก้เสียสิ เหมือนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็แก้ได้

เปลี่ยนที่หก เรื่องการปฏิรูป 7 ด้าน ซึ่งเป็นของใหม่ คือ การปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปกฎหมาย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปเศรษฐกิจ และปฏิรูปอื่น ๆ ยิ่งต้องทำ รัฐธรรมนูญก็กำหนดใครเป็นคนทำ ทำภายในกี่ปี ไม่ทำเกิดอะไรขึ้น ก็อยู่ไม่ได้ และยังมีไทยแลนด์ 4.0 ประชารัฐรัฐบาลใหม่มาไม่ชอบก็ทิ้งได้ แต่ยุทธศาสตร์ชาติ รัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก ทิ้งไม่ได้ เมื่อทิ้งไม่ได้ก็ต้องอยู่กับมัน แล้วจะปรับชีวิตให้อยู่กับมันได้อย่างไร 

เมื่อสรุปไทม์ไลน์โรดแมปการเมืองของ "วิษณุ" โดยนับตั้งแต่ 

1."พล.อ.ประยุทธ์" นำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ วันที่ 9 พ.ย. 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชอำนาจ ในการทรงลงพระปรมาภิไธย 90 วัน ซึ่งระยะเวลา 90 วันจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ 2560 

2.กรธ.ร่างกฎหมายลูก 10 ฉบับ ก.พ.- ก.ย. 60 (ภายใน 240 วัน นับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้) แต่ทั้งนี้ มีร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับที่ใช้ในการเลือกตั้งที่ กรธ.ต้องยกร่างให้เสร็จก่อน

โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ได้ตั้งเวลาไว้ว่า 4 ฉบับ อาจจะใช้เวลา 4 เดือน เฉลี่ยระยะเวลาการร่างเดือนละ 1 ฉบับ ซึ่งแค่นี้นับว่า "หืดขึ้นคอ" สำหรับ กรธ.แล้ว 

อย่างไรก็ตาม มีการประเมินภายใน กรธ.ว่า กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.อาจจะใช้เวลามากกว่า 1 เดือนในการยกร่าง เพื่อเตรียมการให้พรรคการเมืองเก่า พรรคการเมืองใหม่ให้ได้ปรับตัวเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มเวลาในการยกร่างเพิ่มอีก 2 เดือน โดยคาดว่า กรธ.จะพิจารณากฎหมายลูก 4 ฉบับเสร็จและส่งให้ สนช.ในเดือน เม.ย.-พ.ค. 2560

3.สนช.พิจารณาร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับที่ใช้ในการเลือกตั้งภายใน มิ.ย.-ก.ค. และ อีก 6 ฉบับ ต.ค.-พ.ย. 60 (ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างฯ) 

4.จัดการเลือกตั้ง ธ.ค.60-เม.ย.61 (ภายใน 150 วัน นับตั้งแต่กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับบังคับใช้) 

5.กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน (2 เดือน) 

6.เรียกประชุมรัฐสภานัดแรกหลัง กกต.รับรอง ส.ส.ถึง 95% หรือภายใน 15 วันนับแต่วันที่ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไป 

7.มีนายกรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ มีรัฐบาลชุดใหม่ ปี 2561

ภูมิทัศน์การเมืองจึงเข้าสู่การปฏิรูปอย่างเต็มรูปแบบในปี 2560 ตามโรดแมปการเมือง ฉบับวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 

ทั้งพิมพ์เขียว-โรดแมปของ คสช.และรัฐธรรมนูญใหม่ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทยในรอบ 7 ทศวรรษ

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน