จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ สตาร์ตอัพ ปัญหาทำเงิน
โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
สมัยก่อนหากอยากสอนลูกให้หัดเก็บหอมรอมริบ พ่อแม่จะซื้อกระปุกให้เด็ก ๆ ไว้หยอดเศษตังค์ค่าขนม แต่เดี๋ยวนี้คงไม่ถูกใจ Gen Z อีกทั้งโลกก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด
goHenry เป็นสตาร์ตอัพจากอังกฤษซึ่งมาแรงในหมู่พ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากปลูกฝังการใช้เงินอย่างมีความรับผิดชอบให้เด็ก ๆ โตมาจะได้ไม่เป็นคนมือเติบใช้เงินเกินตัวกลายเป็นภาระครอบครัว ซึ่ง 1 ใน 3 ของพ่อแม่ชาวอังกฤษต้องเอาเงินเกษียณมาปลดหนี้ให้ลูกที่โตแล้ว
บริการของ goHenry คือ บัตรพรีเพดเดบิตการ์ด สำหรับเด็กอายุ 6-18 ปี โดยพ่อแม่สมัครผ่านเว็บไซต์หรือผ่านแอปของบริษัท โดยผูกบัญชีธนาคารของตนเองเข้ากับระบบ จากนั้นก็กำหนดจำนวนบัตรและระบุชื่อลูกที่เป็นผู้ใช้บัตร ภายใน 7 วันบริษัทจะส่งบัตรมาให้ สามารถทดลองใช้บริการฟรีหนึ่งเดือนแรก หากพอใจอยากใช้ต่อก็จ่ายค่าบริการเดือนละ 2.99 ปอนด์/บัตร (goHenry เป็นพันธมิตรของ visa จึงสามารถใช้ได้ทั่วโลก)
goHenry ช่วยให้พ่อแม่ควบคุมการใช้เงินของลูก ๆ ได้ดีขึ้น เพราะกำหนดวงเงินและกฎกติกาใช้เงิน รวมถึงกำหนดช่องทางใช้บัตร (ช็อปปิ้งออนไลน์ รูดซื้อตามร้านค้า หรือผ่านตู้เอทีเอ็ม) และ block/unblock บัตรได้ทุกเมื่อ แถมแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการใช้บัตร
สำหรับลูก ๆ goHenry สอนให้รู้คุณค่าของเงินและวิธีบริหารเงินตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเด็ก ๆ เช็ก “สถานะการเงิน” ได้ตลอดเวลา และหัดเรียนรู้ว่า “หากอยากได้เงินก็ต้องทำงานแลกเปลี่ยน”
วิธีการคือ พ่อแม่กำหนด “ภารกิจ” ที่อยากให้ลูกทำไว้ล่วงหน้า เช่น ช่วยพ่อล้างรถได้ค่าจ้าง 5 เหรียญ หรือช่วยแม่ทำความสะอาดบ้านได้อีก 5 เหรียญ ทุกครั้งที่ลูกทำภารกิจลุล่วงพ่อแม่จะเติมเงินใส่บัตรให้เป็นรายได้พิเศษ
เด็ก ๆ ยังเรียนรู้วิธีออมเงินง่าย ๆ ด้วยตนเอง เช่น หากอยากได้ของเล่น ต้องเก็บเงินให้ได้ 100 เหรียญภายใน 6 เดือน เมื่อเซตจำนวนเงินกับระยะเวลาแล้ว แอปจะเป็นพี่เลี้ยงคอยมอนิเตอร์การใช้จ่าย หากเริ่มออกนอกลู่นอกทางก็จะสะกิดเตือน แถมยังสอนให้รู้จัก “แบ่งปัน” โดยเลือกจำนวนเงินและองค์กรการกุศลที่อยากช่วยได้ด้วยตัวเอง
ในแง่ธุรกิจ ตลาดดิจิทัลแบงกิ้งสำหรับกลุ่ม “เด็กและผู้ปกครอง” ของ goHenry เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ รวมกันแล้วเด็กอายุระหว่าง 13-19 ปี ในอังกฤษใช้จ่ายเงินกว่า 2.2 พันล้านปอนด์ต่อปี ทำให้ตลาดนี้เป็นที่จับจ้องของธนาคารและฟินเทคหลายราย และตอนนี้ก็มีบริการคู่แข่งออกมาจำนวนมาก
จุดแข็งของ goHenry คือ เป็นผู้ให้บริการรายแรก โดยเปิดตั้งแต่ปี 2012 ในปี 2016 บริษัทระดมทุนผ่าน crowdcube ได้ถึง 4 ล้านปอนด์ โดย 1 ล้านปอนด์มาจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการอยู่แล้ว ถือเป็นการระดมเงินแบบ crowdfunding ที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปี 2018 บริษัทระดมทุนอีกรอบได้เงินมา 6 ล้านปอนด์ จากนักลงทุน 3,000 ราย กว่าครึ่งคือ ลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของบริษัท
ปัจจุบัน goHenry มีลูกค้า 850,000 ราย ในอังกฤษและอเมริกา และมีลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งถ้าประคองตัวดี ๆ อาจผูกพันเป็นลูกค้าระยะยาว เพราะจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า แต่ละปีมีแค่ 3% ที่เปลี่ยนผู้ให้บริการการเงิน
ทั้ง goHenry ยังสอดรับกับเทรนด์สังคมไร้เงินสด จากงานวิจัยของ money.co.uk พบว่า 31% ของพ่อแม่ในอังกฤษใช้วิธีโอนเงินไปโรงเรียนเข้าบัญชี หรือเข้าบัตรเดบิตแบบ goHenry แทนการให้เงินสด การมอบเงินในเทศกาลต่าง ๆ ก็เช่นกัน โดยคาดว่าสัดส่วนการใช้เงินสดจะเหลือแค่ 1 ใน 10 ของธุรกรรมการเงินทั้งหมดในปี 2028
เหตุผลที่พ่อแม่นิยมใช้บริการดิจิทัลแบงกิ้งอย่าง goHenry เพราะ 1.เชื่อว่าจะช่วยสอนให้ลูกรู้จักวิธีบริหารเงินได้ดีขึ้น 26% 2.ความสะดวกสบาย 24% และ 3.ความปลอดภัย 20%
การสำรวจยังพบว่า พ่อแม่ยุคใหม่เริ่มสอนวินัยการเงินให้ลูกตั้งแต่อายุ 6 ขวบ หลายคนอาจแปลกใจว่า ต้องให้เรียนการใช้เงินตั้งแต่เด็กขนาดนี้เลยหรือ คำตอบคือ ใช่ค่ะ เพราะจากผลสำรวจของ Standard & Poor’s Global Financial Literacy Survey พบว่า มีผู้ใหญ่ถึง 2 ใน 3 ทั่วโลกที่ขาดความรู้เรื่องการเงิน และ 1 ใน 4 ของวัยรุ่นไม่สามารถตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันได้
ดังนั้น หากไม่อยากให้ปัญหานี้เกิดกับลูกหลาน ก็ควรต้องปลูกฝังให้ลูกเรียนรู้การใช้เงินอย่างมีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก เพื่อที่วันหน้าจะได้ยืนได้ด้วยตัวเอง และหากโชคดีจะได้หลุดพ้นจากวงจร “แก่ก่อนรวย” เหมือนคนยุคเรา
#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,#ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน