สำนักงานบัญชีในฝัน(ร้าย)4
PAL0433
หายไปนาน เดิมได้เล่าไปแล้ว 5 ประเภท ว่ากันต่อไปเลยจะได้ไม่เสียเวลา
6.สำนักงานบัญชี นักชีวะ
บ่อยๆเมื่อเราจ้างสำนักงานบัญชีให้ทำบัญชีให้ เรามักจะไม่สนใจว่าเราจะได้เอกสารหลักฐาน หรือสมุดบัญชีคืนจากสำนักงานบัญชีหรือไม่ เราจะสนใจแค่ว่ามีงบการเงินส่งกับหน่วยงานราชการทันเวลาหรือไม่ เสียภาษีเท่าไหร่ การทำเจ้าของกิจการสนใจแค่งบการเงินโดยไม่มีการทวงคืนสมุดบัญชีหรือเอกสารที่ควรได้กลับคืนมา เช่น เอกสารสำเนาใบกำกับภาษี เอกสารการยื่นแบบแสดงรายการภาษีพร้อมใบเสร็จ เอกสารค่าใช้จ่ายต่างๆ แถมด้วยงบการเงินหรือแบบ ภ.ง.ด. 50 หรือ ส.บช.3 ที่ต้องนำไปยื่นกับหน่วยราชการมักมาให้เจ้าของเซ็นต์กันวันสุดท้ายก่อนหมดเวลากำหนดยื่นแบบ ทำให้เราไม่มีเวลาการตรวจสอบใดๆ อาจทำให้เราเจอกับสำนักงานบัญชี นักโคลนนิ่งก็ได้
สำนักงานบัญชีประเภทนี้เป็นสำนักงานบัญชีที่เก่งการโคลนนิ่ง ผมเคยเจอสำนักงานบัญชีที่เจ้าของสำนักงานบัญชีเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ผมไม่รู้ว่าสำนักงานพวกนี้ทำบัญชีกันอย่างไรแต่ทุกหน้าเดือนที่ไปติดต่อสรรพากรอำเภอ จะเห็นเจ้าหน้าที่สรรพากรอำเภอนี้ นั่งกรอกแบบภาษีกันด้านหลังแรกๆก็ไม่มีอะไร ได้แต่นั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ที่รู้จักกันว่าทำได้อย่างไร กรมสรรพากรห้ามไม่ใช่หรือ เขาได้แต่ส่ายหน้าและบอกว่าคงไม่นาน ก็ไม่รู้ว่าอะไรไม่นาน เลยถามต่อว่าจบจากที่ไหน เขาบอกจบ ปวช.แต่ไม่ได้บอกสถานศึกษา จนถึงประมาณเดือนพ.ค. ของปี ผมเห็นเจ้าหน้าที่สองคนนี้นั่งกรอก ภ.ง.ด. 50 ไม่ทำอะไร เจ้านายเพื่อนร่วมงานก็หน่าย ผมก็นั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า สองคนทำอะไรอยู่ เขาบอกว่า ทางจังหวัดกำลังจัดการอยู่ ก็คงเพราะว่าใช้อำนาจของความเป็นสรรพากรไปทำงานและหางาน หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่สองคนก็ออกจากสรรพากรไป
วันหนึ่งผมนั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของสรรพากรจังหวัด หลังจากที่คุยเรื่องธุระเสร็จ พอดีเหลือบไปเห็นอดีตเจ้าหน้าที่สรรพากร 2 คนนั้น ถูกตรวจอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง จึงบอกเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบว่า 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรอำเภอเก่า ทำบัญชีเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่สรรพากรจึงส่ายหน้าแล้วหยิบงบการเงินที่วางรอการตรวจ 2 งบมาให้ดู แล้วบอกว่าเนี่ยรอคุยอยู่เสร็จจากโต๊ะนั้นคงมาที่นี่ พร้อมเปิดงบสองงบให้ดู แล้วบอกว่า เนี่ยพี่ดูสิ สองงบเหมือนกันเป๊ะ สงสัยก๊อปปี้มาแก้แค่ชื่อบริษัท แล้วคิดว่าไม่น่าจะมาเจอได้ ผมจึงหยิบงบมาดู จึงเห็นว่างบการเงินทั้ง 2 ตัวเลขและรายการบัญชีเหมือนกันทุกอย่างไม่ต่างกันแม้กระทั่งเศษสตางค์ ต่างกันแค่ชื่อบริษัทกับชื่อเจ้าของที่อยู่ด้านล่าง พอดีเจ้าของสำนักงานบัญชี ให้การโต๊ะก่อนเสร็จพอดี จึงเดินมาหาเจ้าหน้าที่เพื่อให้การ เมื่อเจ้าหน้าที่ให้ดูงบ 2 งบที่เหมือนกัน (เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านกรุณานึกภาพถึงชาวสีม่วงเอามือตบหน้าอกแล้วเอามาปิดปากตัวเอง) เจ้าของสำนักงานบัญชีอุทานออกมาว่า “ตายห่-า มาเจอกันได้อย่างไง เดี๋ยวขอเอาไปแก้ก่อนได้ไหม” ผมจึงบอกว่ายื่นไปแล้วทั้งกรมสรรพากรและกระทรวงพาณิชย์ คุณจะเอากลับไปแก้ได้อย่างไร เขาจึงบอกกับเจ้าหน้าที่สรรพากรที่ตรวจสอบว่า คราวนี้ขอก่อนคราวหน้าจะไม่ผิดอย่างนี้อีก (ไม่รู้ว่าจะให้รอบคอบขึ้นไม่ให้จับได้ง่ายๆหรือ มันจะทำให้ไม่ผิดแบบเดิมแต่ผิดอย่างอื่นแทน ซะก็ไม่รู้)
เนี่ยสำนักงานบัญชี นักชีวะ ถนัดโคลนนิ่ง ไม่รู้ว่างบการเงินที่ซ้ำกันจะมีแค่ 2 งบหรือมากกว่านั้น เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แม้แต่เจ้าของบริษัท คงรู้กันได้เฉพาะเจ้าของสำนักงานบัญชีที่ทำกับพระเจ้า
เอ....หรือว่าทั้งพระเจ้า ทั้งเจ้าของสำนักงานบัญชี ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ซะก็ไม่รู้
7.สำนักงานบัญชี ในตำนาน
เมื่อเริ่มรับงานทั่วๆไปจะมีการจัดทำเป็นสัญญาให้บริการหรืออย่างน้อยก็บันทึกการรับงาน สัญญาหรือบันทึก เหล่านี้เป็นเครื่องมือที่จะบอกว่า สำนักงานบัญชีจะทำอะไรให้กับกิจการบ้าง ดังนั้นในสัญญาควรจะบอกรายละเอียดงานต่างๆที่ตกลงกันไว้มีอะไรบ้าง งานไหนใครทำ ค่าบริการเป็นเท่าไร จ่ายกันเป็นอย่างไร นอกจากค่าบริการตามปกติแล้วมีค่าอะไรอีกหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ระยะแรกๆไม่ค่อยมีปัญหาแต่ต่อไปมักจะมีปัญหาเรื่องว่า กิจการควรได้อะไร และควรจะจ่ายเงินเท่าไหร่ ถ้าใครให้สำนักงานบัญชีทำบัญชีให้แล้วไม่มีการทำสัญญาไว้ ลองบวกใบเสร็จสำนักงานบัญชีดูว่าคุณจ่ายไปเท่าไหร่ เฉลี่ยมาเป็นเดือนเป็นค่าจ้างสำนักงานบัญชีเดือนละเท่าไหร่
ถ้าคุณโชคดีอาจเจออย่างที่ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนไปช่วยดูบัญชีให้กิจการของพี่ชายที่จ้างสำนักงานบัญชีแถวฝั่งธนทำ พี่ผมถูกสรรพากรทำจดหมายเชิญพบ แต่สำนักงานไม่ยอมไป แต่กลับบอกว่าไม่มีอะไรเดี๋ยวจัดการให้รออยู่ 5 เดือนไม่ทำอะไรจนเจอหมายเรียก ตอนนั้นพี่ผมจ่ายค่าทำบัญชีเดือนละ 5000 บาท ผมไปเช็คดู นอกจากค่าบริการรายเดือน ยังมี ค่าเอกสารใบสำคัญ ค่าจัดทำใบสำคัญ ค่าดำเนินการจัดพิมพ์สมุดบัญชี ค่าปิดบัญชีกลางปี ค่าปิดบัญชีประจำปี ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกหลายอย่างที่ถ้าให้เรานั่งนึกยังนึกชื่อค่าใช้จ่ายประเภทนั้นไม่ออก รวมแล้วเกือบ สี่แสนบาทต่อปี ไม่รวมค่าสอบบัญชีอีก เกือบแสน ทั้งๆที่คนเซ็นต์เป็นมือปืนชื่อไม่เหมือนกันสักปีที่เปลี่ยนบ่อยเพราะผู้สอบบัญชีถูกเพิกถอนใบอนุญาตทุกปี ไปเช็คดูมือปืนคิดค่าเซ็นต์ปีละ 7,000 บาท
เมื่อเปิดดูสมุดบัญชีและเอกสารแล้วเหมือนเด็กเพิ่งจบใหม่าหัดทำบัญชีทำให้ เบ็ดเสร็จกว่าจะจบเรื่องสรรพากรครั้งนั้น ถูกประเมินภาษีไปล้านกว่าๆเอง แต่ที่เจ็บใจคือแต่ละเรื่องที่เจ้าหน้าที่แจ้งประเด็นมา ผมต้องครับอย่างเดียวเถียงไม่ออกซักเรื่อง (ผิดวิสัยมาก) เรื่องนี้เลยมาสิบกว่าปี ผมคิดว่าจะไม่เจออีกแล้วแต่เมื่อ พ.ค. 52 นี้ ผมเจอเหตุการณ์เดียวกันกับคนที่สนิทกัน เหมือนฉายหนังซ้ำ แสดงว่ามีสำนักงานอีกจำนวนมากที่ยังไม่มีการพัฒนาการทำงาน แม้ว่าวงการบัญชีมีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
สำนักงานบัญชีพวกนี้ก็เป็นสำนักงานบัญชีในตำนานเคยทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น พัฒนาไม่ได้แล้วเพราะมันเป็นตำนานในอดีต
อีกทั้งตำนานเป็นได้ทั้งดีและเลว ก็คงตอบคำถามได้ไม่ยากว่าเป็นตำนานแบบไหน
8.สำนักงานบัญชี นายหน้า
สำนักงานบัญชีประเภทนี้ส่วนใหญ่โตมาจากวิชาชีพอื่น บางครั้งเราก็เห็นที่เป็นการโตจากวิชาชีพบัญชีบางประปรายแต่ไม่มาก ที่บอกว่าโตมาจากวิชาชีพอื่นเพราะสำนักงานประเภทนี้จะไม่มีส่วนงานบัญชีเป็นของตัวเองแต่ประกอบวิชาชีพอื่นและรับงานบัญชีเพื่อส่งให้คนที่จบบัญชีทำหรือ บางครั้งก็เป็นนักศึกษาทำ ถ้าเจ้าของกิจการโชคดีก็อาจเจอคนทำบัญชีที่ดีหน่อยทำงานในบริษัทที่ดีมีประสบการณ์
แต่อย่างไรก็ตามงานบัญชีมักจะไม่ดีเท่ากับความสามารถคนทำที่มีอยู่ เพราะสำนักงานมักจะไม่ให้คนทำบัญชีติดต่อโดยตรงกับลูกค้า ดังนั้นความเข้าใจในกิจการจะเป็นไปได้ยาก การทำบัญชีเมื่อมีปัญหาจำเป็นจะต้องพูดผ่านคนที่ไม่มีความรู้ทางด้านบัญชี การสื่อสารจะผิดพลาดบ่อยๆ ทำให้บัญชีมีจุดอ่อนที่ผิดพลาดแบบไม่น่าผิดได้ แต่หากเจอนักศึกษาที่ยังเรียนอยู่ก็เตรียมตัวเตรียมใจได้เพราะทั้งความรู้และประสบการณ์ยังไม่ถึงทั้งสองอย่าง ครั้นจะให้สำนักงานตรวจก็ไม่ได้เพราะไม่มีความรู้ทางด้านบัญชีเลย ผู้สอบบัญชีส่วนใหญ่ก็เป็นมือปืนหรือคนที่เซ็นต์จำนวนมากจนเกินความสามารถที่จะตรวจไหว เมื่อถูกเรียกตรวจมักจะมีปัญหาถูกปรับแบบไม่ควรเนื่องๆ ที่แย่ไปกว่านั้นหากหาคนทำบัญชีไม่ได้พาลจะไม่ส่งงบการเงินเลย
ส่วนที่บอกว่ามีการโตจากวิชาชีพบัญชีน้อยเพราะอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะให้บุคคลภายนอกทำการติดต่อสื่อสารจะมีปัญหาน้อยกว่าที่โตจากวิชาชีพอื่นเพราะอย่างไรนักบัญชีก็คุยกันเข้าใจกว่าคนที่ไม่เข้าใจบัญชี แต่การกินหัวคิวจะมีปัญหาคือคนทำบัญชีได้น้อยและไม่ค่อยมีเวลา ความละเอียดรอบคอบก็ต้องน้อยกว่า ศักยภาพที่นักบัญชีคนนั้นมีแน่นอน
ผมเคยมีลูกค้าที่เจอแบบนี้เดิมเคยให้สำนักงานบัญชีที่รู้จักกันทำ ภายหลังเห็นถามมากบอกว่าจุกจิก เลยเลิก ไปให้คนรู้จักที่ทำงานในธุรกิจเดียวกันทำ ก็เป็นสำนักงานบัญชีที่กินหัวคิว แรกๆก็ไม่มีปัญหา สุดท้ายเนื่องจากเก็บค่าหัวคิวคนทำบัญชีมากไป คนทำบัญชีจึงไม่ทำให้และหาคนทำบัญชีให้ไม่ได้ เลยพาลไม่ยื่นงบไป 3 ปี เจ้าของกิจการที่เดิมเคยดูบัญชีเอง หลังๆให้คนอื่นดูก็ไม่ได้ใส่ใจกว่าจะรู้โดนหมายเรียกจากตำรวจเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่ส่งงบการเงิน ครั้นติดต่อคนทำบัญชีเดิมก็ไม่รับสายบ้าง บอกจะไปพบแต่ไม่ไปบ้าง จนกลับมาให้ช่วยทำให้ แต่ช่วยอะไรไม่ได้มากเนื่องจากเอกสาร สมุดบัญชี เอกสารภาษีทุกอย่างถูกเก็บไว้และไม่ยอมคืนให้ ทำบัญชีต่อไม่ได้ได้แต่ทำปีปัจจุบันรอยอดยกมาอย่างเดียว ก็เล่นดึงเรื่องจนถึงตำรวจใครจะไปคุยให้ไหว
ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่กรมสรรรพากรไปคุยให้เท่านั้นมั่ง
คราวหน้าจะบอกว่าเราควรจะมีหลักเกณฑ์อย่างไรในการพิจารณา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากการพบสำนักงานบัญชีบางประเภท
ความคิดเห็น