กรณีฉาวสัตยัม สั่นคลอนความมั่นใจต่ออินเดีย
108acc (Member) |
การฉ้อโกงครั้งใหญ่ของ สัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส ผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่สุดอันดับ 4 ของอินเดีย สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นบริษัทอินเดีย และเป็นการปิดฉากความสดใสของตลาดหุ้นที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2543 กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : เกรก คูเนิร์ท ผู้ จัดการกองทุน อินเวสเทค แอสเส็ต เมเนจเมนต์ ในกรุงลอนดอน ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 10,000 ล้านดอลลาร์ และเพิ่งขายหุ้น 0.15% ในสัตยัมไปเมื่อเดือนที่แล้ว ตั้งข้อสงสัยว่ามีการปิดบังการฉ้อโกงครั้งมโหฬารนี้ จากสายตาของผู้ตรวจสอบบัญชีได้อย่างไร เรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก และทำให้กองทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในอินเดียขณะนี้ ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลง 7.3% เมื่อวันพุธ (7 ม.ค.) เป็นการดิ่งหนักสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ผลพวงจากหุ้นสัตยัมที่ทรุดฮวบ 78% หลังจาก รามาลิงกา ราชู ประธานสัตยัม ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งยอมรับว่าบริษัทดำเนินการตกแต่งบัญชีเพื่อโชว์ผลกำไรที่สูงเกินจริงมานานหลายปี เพียง 6 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น มาร์ก โมเบียส ประธานกรรมการบริหาร แฟรงคลิน เทมเปิลตัน อินเวสเมนต์ ในฮ่องกง เพิ่งกล่าวว่า เศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็วที่สุดอันดับสองของโลกอย่างอินเดีย จะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤติก่อการร้ายในนครมุมไบไปได้ แต่เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวของสัตยัม โมเบียสเชื่อว่ากรณีนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากกว่า อย่างไรก็ดี สุขุมาร์ ราชาห์ หัวหน้าฝ่ายลงทุนหุ้นอินเดีย ของ แฟรงคลิน เทมเปิลตัน อินเวสเมนต์ ซึ่งบริหารสินทรัพย์ประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ ในอินเดีย กล่าวว่า "สถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ จะส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดเพียงระยะสั้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะบีบให้ผู้ควบคุมกฎระเบียบต้องปรับปรุงการทำงาน ซึ่งถือเป็นผลบวกในระยะยาว" ราชู เขียนจดหมายแจ้งคณะกรรมการบริหารบริษัท เมื่อวันพุธ (7 ม.ค.) ว่า บัญชีของสัตยัม เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ปีที่แล้ว มีการตกแต่งตัวเลขเงินสด 50,400 ล้านรูปี ซึ่งผู้ควบคุมกฎระเบียบตลาดระบุว่า การเปิดเผยความจริงครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่จนน่ากลัว และคณะกรรมการบริหารตลาดหลักทรัพย์อินเดียมีคำสั่งให้เข้าตรวจสอบการซื้อขาย หุ้นสัตยัมทันที เปรม จันด์ กุปตา รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการบริษัทเอกชน กล่าวว่า รัฐบาลกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ก็จะดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป โดยไม่มีการผ่อนผัน อย่างไรก็ดี อาเบอร์ดีน แอสเซ็ต แมเนจเมนต์ เอเชีย นักลงทุนสถาบันรายใหญ่สุดที่เข้าลงทุนในสัตยัม แถลงว่า บริษัทยังไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มการลงทุนในอินเดีย โดย ฮิวจ์ ยัง กรรมการผู้จัดการหน่วยงานเอเชียของอาเบอร์ดีน ซึ่งมีเงินทุนภายใต้การบริหาร 37,300 ล้านดอลลาร์ กล่าวว่า อินเดียมีบริษัทดีๆ อีกมากที่ดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย รัฐบาลอินเดียทำนายไว้ว่า เศรษฐกิจอินเดียที่มีมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ อาจเติบโต 7% ในปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นการเติบโตน้อยที่สุดนับจากปี 2546 ขณะที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรม กล่าวว่า เศรษฐกิจอาจขยายตัวใกล้เคียงระดับเดิมในปีงบประมาณหน้า เมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทำให้ความต้องการสินค้าส่งออกลดลง รวมทั้งความต้องการภายในประเทศเอง เรื่องอื้อฉาวของสัตยัมเป็นการกระตุ้นความวิตก ว่า ระบบบรรษัทภิบาลของอินเดียยังไม่เพียงพอ ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึง ฤดูกาลรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ โดย อินโฟซิส เทคโนโลยีส์ ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่สุดอันดับสองของประเทศ จะรายงานผลประกอบการไตรมาสสี่ปีที่แล้วในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีสัตยัม ปฏิเสธการแสดงความเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่ ราหุล จาดา หัวหน้าฝ่ายหุ้นอินเดีย ของ มีแร แอสเซ็ต โกลบอล อินเวสต์เมนต์ ในฮ่องกง ซึ่งดูแลสินทรัพย์ 39,000 ล้านดอลลาร์ กล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูความมั่นใจของนักลงทุน โดยปกติอินเดียมีแรงดึงดูดอยู่ที่คุณภาพการบริหารและรูปแบบธุรกิจที่เฟื่อง ฟู ราชีพ สัมพัท นักวิเคราะห์อิสระ กล่าวว่า จำนวนเงินและลักษณะการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นกับสัตยัม เป็นเรื่องที่สร้างความตกตะลึงแก่นักลงทุน เนื่องจากเป็นการฉ้อโกงครั้งใหญ่สุดในตลาดทุนอินเดีย หลังจากปั่นกำไรเกินจริง และแสดงภาระหนี้สินน้อยกว่าความเป็นจริง ตอนนี้มูลค่าสุทธิของสัตยัมเท่ากับศูนย์ ทางด้านราชู กล่าวว่า ไม่มีกรรมการบริหารคนใดทราบถึงสถานการณ์ทางการเงินที่แท้จริงของบริษัท พร้อมกล่าวขอโทษผู้ถือหุ้นทุกคนและอ้างว่าเขาไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการตกแต่งบัญชีครั้งนี้ |