กระทุ้งอินเดียรื้อใหญ่ธรรมาภิบาล
108acc (Member) |
โพสต์ทูเดย์ — ภาคเอกชนในอินเดียเรียกร้องรัฐบาลยกเครื่องระบบตรวจสอบความโปร่งใส หวั่นปลาเน่าตัวเดียวทำเหม็นทั้งบึง ขณะที่ซาเตียมยอมรับเจอวิกฤตครั้งรุนแรงที่สุด เอพีรายงานเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่า บรรดาผู้นำทางธุรกิจในอินเดียต่างตื่นตัวเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเพิ่ม การตรวจสอบระบบธรรมาภิบาลของภาคธุรกิจเอกชนให้เข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่อินเดียเผชิญเรื่อง อื้อฉาวครั้งใหญ่ที่สุด และกำลัง สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน กับกรณีการตบแต่งบัญชีของบริษัท ซาเตียม คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทไอทีรายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ
บริษัท อินโฟซิส เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทเอาต์ซอร์สรายใหญ่ที่สุดในอินเดีย ระบุว่า กรณีดังกล่าวซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นเอ็นรอนอินเดีย ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง รัฐบาลและหน่วยงานด้านการตรวจสอบจึงจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวน และเปลี่ยนแปลงระบบตรวจสอบที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต สมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดียก็ได้เรียกร้องให้มีการเร่งแก้ปัญหาช่อง โหว่ที่เกิดขึ้นในเรื่องกฎระเบียบ การทำบัญชี การตรวจสอบ และธรรมาภิบาลของภาคเอกชนทั่วประเทศในทันที ขณะที่ อามาร์ อัมบานี รองประธานบริษัทโบรกเกอร์ อินโฟไลน์ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การตบแต่งบัญชีในซาเตียม อาจทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักในเรื่องการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในอินเดีย สำหรับมุขมนตรีของรัฐอันตระประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัท ซาเตียม ได้ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี มันโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย เพื่อร้องขอให้มีการแต่งตั้งทีมงานพิเศษขึ้นมาเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นของซา เตียม รวมถึงช่วยปกป้องบรรดานักลงทุนและพนักงานของบริษัทด้วย ทั้งนี้ ซาเตียม ซึ่งถือเป็นบริษัทเอาต์ซอร์สด้านไอทีรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย ได้เปิดเผยข้อมูลช็อกโลกในสัปดาห์นี้ว่า บริษัทได้ทำการตบแต่งบัญชีและผลกำไรกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐมาอย่างต่อเนื่อง นานหลายปี รามาลิงกะ ราจู ประธานกรรมการ บริษัท ซาเตียม ได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ม.ค. หลังยอมรับเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ เช่นเดียวกับ วี ศรีนิวาส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ที่ได้ยื่นลาออกตามมา เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ด้าน ราม ไมนัมปาติ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของซาเตียม ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดของบริษัทว่า ซาเตียมกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ชนิดไม่อาจคาดเดาได้ ขณะที่สถานการณ์ราคาหุ้นของบริษัทยังคงเดินหน้าดิ่งลงอย่างต่อ เนื่อง เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลต่อราคาหุ้นของบริษัท โดยราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มุมไบ วานนี้ ได้ปิดตลาดดิ่งลงไปอีกถึง 71.2% หรือ 28.45 รูปี มาอยู่ที่ 11.5 รูปี นอกจากนี้ ความวิตกจากกรณีของซาเตียมยังฉุดให้ดัชนีสำคัญ เซนเซกซ์ ร่วงลงมา 1.88% หรือ 180.41 จุด มาปิดตลาดวานนี้ที่ 9,406.47 จุด จากที่ปิดตลาดวันที่ 8 ม.ค. ที่ 9,250.82 จุด ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นของซาเตียมได้ดิ่งลงไปถึง 78% เมื่อวันที่ 8 ม.ค. และเมื่อรวมกับบรรยากาศตลาดหุ้นโลกที่ยังอยู่ในแดนลบมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ดัชนีของซาเตียมดิ่งลงไปรวมแล้วกว่า 90% ตลอดช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา “ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท บรรดานักลงทุนต่างก็ยังแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นนัก” อัดเวท เดท นักค้าจากบริษัทโบรกเกอร์ บีเอชเอช ซีเคียวริตีส์ กล่าว บรรดาผู้บริหารของซาเตียมต่างออกมาแสดงความมั่นใจกับนักลงทุนว่า บริษัทจะยังคงเปิดดำเนินงานต่อไป แม้ว่าจะเผชิญกรณีการตบแต่งบัญชีมูลค่านับพันล้านเหรียญสหรัฐก็ตาม นอกจากนี้ ทางผู้บริหารยังได้ ติดต่อไปยังบริษัทตรวจสอบบัญชี ไพร้ซ วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เพื่อขอคำอธิบายในกรณีการตบแต่งบัญชีของบริษัทแล้ว |