ดีลอยท์เชื่อธุรกิจสอบบัญชีรอดพ้นวิกฤติ
108acc (Member) |
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ดำเนินธุรกิจให้บริการทางด้านการสอบบัญชี ภาษีอากร การบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการ กล่าวว่าจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก แต่เชื่อว่าธุรกิจด้านการสอบบัญชี และที่ปรึกษายังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท เนื่องจากภายใต้วิกฤติยังมีโอกาสที่จะทำให้มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นและสร้างราย ได้ให้ในอนาคต เช่น ธุรกิจชำระบัญชีสำหรับบริษัทที่ปิดกิจการ ซึ่งในปี 2551 มีจำนวนบริษัทที่ต้องปิดกิจการมากกว่าปี 2550 "ตอนนี้มีงานที่เราต้องทำเพิ่มขึ้น คือการชำระบัญชีบริษัทที่มีปัญหาต้องปิดกิจการ รวมทั้งงานที่ปรึกษา และการปรับโครงสร้างองค์กรต่างๆ มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทาง รวมทั้งงานด้านการบริหารความเสี่ยง ซึ่งบริษัทต่างๆ ให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากเห็นผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนทั่วโลกในครั้งนี้" กรรมการผู้จัดการกล่าว เขากล่าวว่า ปัจจุบันยอมรับว่ากลุ่มลูกค้าของบริษัทใน 4 อุตสาหกรรมหลักประกอบด้วยอุตสาหกรรมการผลิต มีสัดส่วนประมาณ 30% ของลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 2 พันบริษัท อุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค 25% อุตสาหกรรมสถาบันการเงิน 20% และที่เหลืออุตสาหกรรมพลังงาน กับธุรกิจอื่นๆ ซึ่งทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการอยู่รอดและดำเนินธุรกิจต่อไป ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของบริษัทประมาณ 40% จากลูกค้าทั้งหมดเป็นบริษัทของญี่ปุ่น ซึ่งมีความสำคัญของบริษัท ซึ่งบริษัทดีลอยท์มีหน้าที่ดูแลทั้งการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี ภาษีอากร ที่ปรึกษา และมีงานที่เริ่มเข้าไปดูแลมากขึ้นคือการพัฒนาบุคลากร ทั้งนี้บริษัทดีลอยท์ฯ มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจตรวจสอบบัญชีประมาณ 50% และที่ปรึกษาด้านต่างๆ 50% กรรมการผู้จัดการกล่าวว่า แผนงานในปีนี้บริษัทจะหันไปรับงานด้านที่ปรึกษาการบริหารจัดการความเสี่ยง เนื่องจากลูกค้าให้ความสนใจมากขึ้น และเป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ลูกค้าหันมาดูแลตัวเองและปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อรับมือกับวิกฤติ โดยจะหันมาให้ความสนใจในด้านการบริหารความเสี่ยง ซึ่งบริษัทดีลอยท์ฯ จะเข้าไปเสนอแนวทาง แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า เพราะมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในภาวะเศรษฐกิจซบจะทำให้ตลาดของงานที่ปรึกษาเติบ โตมากขึ้น และขณะนี้มีสถาบันการเงินในประเทศ ที่สนใจที่จะให้บริษัทเข้าไปดูแลด้านการบริหารความเสี่ยงแล้วประมาณ 2-3 ราย ขณะงานการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการอาจจะเกิดขึ้นไม่มาก คงต้องรอพิจารณาสถานการณ์ที่ชัดเจนอีกครั้ง เพราะผลกระทบไม่รู้จบเมื่อใด ซึ่งเชื่อว่าการควบรวมกิจการคงจะไม่คึกคักเท่ากับที่เคยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ในปี 2540 สำหรับแนวโน้มค่าธรรมเนียมในการให้บริการงานด้านต่างๆ นั้น บริษัทยังไม่มีแผนจะปรับขึ้นหรือลง เนื่องจากอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับว่าการตรวจสอบบัญชีจะต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น และตรวจสอบยากขึ้น ถือว่างานจะหนักมากขึ้นหากเทียบกับปีก่อนๆ เนื่องจากลูกค้าแต่ละรายจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน บริษัทดีลอยท์ ดำเนินธุรกิจครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 23 มกราคม 2552 ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานจำนวน 720 คน และรวมผู้บริหารระดับสูง 39 คน ทั้งนี้ในปี 2553 บริษัทมีแผนจะขยายองค์กรเพิ่มขึ้นด้วย |