รวบจอมแสบตุ๋นสรรพากรคืนภาษี1.5ล.
108acc |
โพสต์ทูเดย์ ผบชก. พร้อมด้วย อธิบดีกรมสรรพากรแถลงรวบแก๊งค์ยื่นขอคืนภาษีทางอินเทอร์เน็ต เป็นเท็จ ได้เงิน 1.5 ล้านบาท-ภาพ:โกศล นาคาชล พล. ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยนายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงขอคืนภาษีทางอินเทอร์เน็ต คือนายพงศ์กรณ์ อภิกุลไพศาล หรือนายเลิศพงษ์ ผ่องรัตนนันท์ และนางสาวบุศรา อุดมพรกุล โดยได้ว่าจ้างให้มีการจัดหาบุคคลมาเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารและทำบัตร ATM กว่า 100 ราย และมีการนำรายชื่อบุคคลเหล่านั้นมายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และขอคืนเงินภาษี หลอกลวงกรมสรรพากรด้วยการแสดงข้อความที่อยู่ของผู้ขอคืนภาษีอันเป็นเท็จ เป็นเหตุให้กรมสรรพากรหลงเชื่อและคืนภาษีให้ตามที่อยู่ที่แจ้งขอคืนเงิน โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คสามารถนำเช็คสั่งจ่ายเงินคืนภาษีฝากเข้าบัญชีธนาคารแล้ว นำบัตร ATM ที่ทราบรหัส มาเบิกถอนเงินจากตู้ ATM ได้ ส่งผลให้กรมสรรพากรได้รับความความเสียหายเป็นเงินกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท ด้านอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวยอมรับว่า มาตรการจ่ายคืนภาษีด้วยวิธีการคืนก่อน ตรวจทีหลัง ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีช่องโหว่ให้กลุ่มมิจฉาชีพนำไปหลอกลวงได้ แต่หากเปลี่ยนแปลงโดยการตรวจก่อนคืน ก็จะส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ที่อาจได้รับเงินคืนภาษีล่าช้า ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สรรพากรและจะคืนภาษีผ่านทาง ATM โดยยืนยันว่า กรมสรรพากรจะคืนภาษีผ่านเช็คเท่านั้น และอย่าหลงเชื่อ หากมีกลุ่มบุคคลหลอกลวงให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อทำธุรกรรมการเงินใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ความผิดจากกรณีฉ้อโกงระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับต่อ 1 กระทงความผิด ส่วนความผิดกรณีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยมิชอบต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีกระทำความผิดตามมาตรา 14 (1) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |