สรรพากรลุยกวาดทั่วกทม.
108acc |
โพสต์ทูเดย์ สรรพากรสั่งระดมพลออกรีดภาษีนิติบุคคลทั่วกทม. กำชับใครหลุดเป้าโดน นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2552 ได้เรียกสรรพากรพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ทั้ง 30 พื้นที่มาหารือและมอบนโยบายการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบปี 2551 ที่จะเก็บในเดือนพ.ค.นี้ ให้ดำเนินการตามแผนการจัดเก็บภาษีที่วางไว้ “การให้นโยบายก็เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจร่วมกันว่า หน่วยงานจัดเก็บภาษีมีเป้าหมายภาษีในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร และเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดเก็บภาษีมากขึ้น” นายวินัย กล่าว อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ได้สั่งการให้สรรพากรพื้นที่จัดเก็บภาษีตามความเป็นจริง ซึ่งคาดว่าการ จัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบปี 2551 ทั้งประเทศจะจัดเก็บได้มากกว่าปี 2550 แน่นอน เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ยังไม่เกิดขึ้นรุนแรงในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2551 จึงไม่น่าจะกระทบกับผลประกอบการและการเสียภาษี สำหรับการจัดเก็บภาษีในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้า 6.1 หมื่นล้านบาท โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้ามากขึ้นเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าที่ หดหายไปตามภาวะเศรษฐกิจ โดยจัดเก็บต่ำกว่าเป้าประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อหักส่วนนี้ออกไปจะต่ำกว่าเป้าเพียงแค่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท “ภาษีที่จัดเก็บต่ำกว่าเป้าถือว่ายังดีมาก เพราะทั้งปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการใช้มาตรการภาษีของรัฐบาล เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 แสนบาทต่อปี หรือมาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์ ก็มีผลกระทบโดยตรงกับการจัดเก็บภาษี” นายวินัย กล่าว อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้สรรพากรต้องหารายได้เพิ่ม ด้วยการเชื้อเชิญให้ประชาชน นิติบุคคลมาเสียภาษีให้ถูกต้องให้มากขึ้น เพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีย้อนหลัง ทำให้มีเบี้ยปรับ เบี้ยเพิ่มจนเป็นภาระมาก นอกจากนี้ นายวินัย กล่าวว่า ได้ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรม สรรพากร โทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้เสียภาษีและอ้างว่าจะคืนภาษีปี 2551 เพื่อขอเลขบัญชีเงินฝากและหลอกล่อให้ไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม วิธีการคืนภาษีมีวิธีเดียวสั่งจ่ายเป็นเช็คผ่านธนาคารกรุงไทย ลงชื่อผู้รับคืนภาษีชัดเจน ไม่มีการโทรศัพท์เพื่อแจ้งคืนภาษี สำหรับการคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2551 มียอดการ ขอคืนที่ 2.4 ล้านราย สูงกว่าปี 2550 ประมาณ 20% ซึ่งได้ทยอยคืนภาษีไปแล้ว 70% คิดเป็น 1.7 ล้านราย เป็นเงิน 7,000 ล้านบาท ยังเหลืออีก 7 แสนล้านราย ซึ่งคาดว่าจะทยอยคืนได้หมดในเดือนมิ.ย.นี้ สำหรับผู้ขอคืนภาษีบางราย ที่ได้รับคืนภาษีล่าช้า เนื่องจากกรมสรรพากรได้ขอเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่าผู้เสียภาษีส่งรายการหักลดหย่อนเพื่อขอคืนภาษีมาเกินกว่าความ เป็นจริง แต่ก็ได้เร่งรัดให้คืนภาษีให้เร็วที่สุด แหล่งข่าวสรรพากรเปิดเผยว่า อธิบดีกรมสรรพากรได้กำชับให้สรรพากรพื้นที่แต่ละแห่งเพิ่มความเข้มข้นในการ จัดเก็บภาษี และ ห้ามไม่ให้ต่ำกว่าเป้าที่กำหนดไว้ พื้นที่ใดต่ำกว่าเป้าต้องมีคำอธิบายต่อผู้บริหาร แต่ก็เชื่อว่าน่าจะต่ำกว่าเป้าประมาณ 10% |