สำนักงานสอบบัญชี พี แอนด์ อี,สำนักงานบัญชี พี.เอ.แอล.,คณะบุคคลที่ปรึกษา พี.เอ.ที.,#สำนักงานบัญชี,#ผู้สอบบัญชี,#ทำบัญชี,#สอบบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,#ผู้สอบบัญชีภาษีอากร

นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมได้เสนอกระทรวงการคลังเพื่อเห็นชอบแก้ไขกฎหมายประมวลรัษฎากร โดยให้ยกเลิกการจดทะเบียนคณะบุคคลเพื่อเป็นหน่วยเสียภาษี เนื่องจากที่ผ่านมาผู้มาขอจดทะเบียนคณะบุคคลทำผิดวัตถุประสงค์ มีการดำเนินการเพื่อใช้เลี่ยงการเสียภาษีให้น้อยลง และการจดทะเบียนคณะบุคคลก็ยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งไม่มีการระบุเรื่องของคณะบุคคลไว้ในกฎหมายดังกล่าว

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในขณะนี้ที่ยังกฎหมายเดิมบังคับใช้อยู่ ผู้มาขอจดทะเบียนคณะบุคคลยังสามารถดำเนินการได้ แต่จะสอบข้อเท็จจริงมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยผู้ที่มาขอจดทะเบียนคณะบุคคลจะต้องระบุกิจกรรมที่จะดำเนินการอย่างชัดเจน และต้องเป็นกิจการที่ไม่ได้หวังผลกำไรในทางธุรกิจ และไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการแบ่งฐานรายได้ให้น้อยลง หรือเลี่ยงการเสียภาษีให้กับกรมสรรพากรให้น้อยลง หรือไม่ต้องเสียเลย

“ที่ผ่านมาคณะบุคคลเกือบทั้งหมดทำผิดวัตถุประสงค์ ตั้งขึ้นมาเพื่อหากำไร แบ่งฐานรายได้เสียภาษีให้น้อยลง แต่ต่อไปจะต้องเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อกิจการสาธารณะ ไม่ได้หวังผลกำไร ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้ที่มาขอจดทะเบียนคณะบุคคลใหม่จะไม่ได้จด เพราะไม่สามารถตอบได้ว่าตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร” นายวินัย กล่าว

นายวินัย กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมสรรพากรได้ทำหนังสือเชิญชวนให้คณะบุคคลประมาณ 2 หมื่นคณะบุคคล ที่กรมตรวจสอบพบว่ามีรายชื่อบุคคลใช้จดทะเบียนคณะบุคคลตั้งแต่ 3 คณะบุคคล เข้ามาชี้แจง และแนะนำเสียภาษีให้ถูกต้อง แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้ามาชี้แจง ทางกรมสรรพากรก็มีความจำเป็นลงไปตรวจให้มีการเสียภาษีให้ถูกต้อง เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ การแก้ไขจดทะเบียนคณะบุคคลมีความพยายามมาเป็นเวลานาน เนื่องจากพบว่ามีบุคคลหลายอาชีพ เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง แพทย์ ดารา นักแสดง เป็นต้น เพื่อทำให้มีรายได้น้อย ไม่ต้องเสียภาษี หรือหากต้องเสียก็จะเสียในอัตราภาษีบุคคลธรรมดา ที่เริ่มต้นเสียที่ 10% เท่านั้น แต่หากไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลรับงานได้กำไรจะต้องเสียภาษีในอัตรา 30% ของกำไร ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่ามาก

แหล่งข่าวกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การยกเลิกคณะบุคคลจะทำให้ผู้เสียภาษีหันไปจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งเป็นหน่วยภาษีเหมือนกับคณะบุคคลมากขึ้น