สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ประกาศ กลต. เข้ม ! กำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท มีผลบังคับใช้ 16 พ.ค.

(อ่าน 865/ ตอบ 0)

108acc (Member)

จากประชาชาติธุรกิจ


วันนี้ (14 พ.ค.)   ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่  ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  ที่ กจ. 8/ 2553   เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท   อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14   มาตรา 89/3   และมาตรา 89/6 แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551
  
  ทั้งนี้ เหตุผลในการออกประกาศ  ก็เพื่อกำหนดลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้ เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนหรือบริษัทจด ทะเบียน   รวมทั้งกระบวนการและขั้นตอนในการพิจารณาลักษณะที่ขาดความเหมาะสมทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการแต่งตั้ง  บุคคลที่มีลักษณะไม่เหมาะสมดำรงตำแหน่งที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่การ บริหารจัดการกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้น
 ประกาศ กำหนดว่า   “สถาบันการเงิน”  ได้แก่     ธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์    ธุรกิจหลักทรัพย์   ธุรกิจสัญญาซื้อขายล้วงหน้า   ธุรกิจประกันภัย  ธุรกิจสถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น


  ประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับกรรมการและผู้บริหารของบริษัทต่างประเทศที่มี หุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


   ทั้งนี้     “ลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ” หมายความว่า ลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสม ที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้น ลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ     โดย กรรมการและผู้บริหารของบริษัทต้องไม่มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ ดังต่อไปนี้   


1.มีความบกพร่องในด้านความสามารถตามกฎหมาย หรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินการ  ตามกฎหมายเกี่ยวกับการกำกับดูแลตลาดทุน


2. มีประวัติการบริหารงานที่มีลักษณะหลอกลวง ฉ้อโกง หรือทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์สิน


3. มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ ในการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น บริษัท หรือตลาดทุนโดยรวม


   ประกาศ ได้กำหนด ลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ  เช่น   เป็นบุคคลล้มละลาย หรือ   เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือ   อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษโดยสำนักงาน หรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอันเนื่องจากกรณี  ที่สำนักงานกล่าวโทษ หรือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ไม่ว่าศาลจะมีคำพิพากษาให้รอการ  ลงโทษหรือไม่ และพ้นโทษจำคุกหรือพ้นจากการรอลงโทษมาแล้วไม่ถึงสามปี ทั้งนี้ เฉพาะในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า  เป็นต้น 


     ทั้งนี้  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่  16   พฤษภาคม พ.ศ. 2553  เป็นต้นไป   ประกาศ ลงนามโดย นายวิจิตร สุพินิจ  ประธานกรรมการ   คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


Lock Reply
view