สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ครม.ให้ประดิษฐ์ศึกษาเว้นภาษีแวตสิ่งพิมพ์กระตุ้นการอ่าน

(อ่าน 990/ ตอบ 0)

108acc (Member)

จาก โพสต์ทูเดย์


ครม.เห็นชอบ ประดิษฐ์ ศึกษาเรื่องลดภาษีกระตุ้นการอ่าน ด้านกระทรวงศึกษาธิการเสนอขอลดภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจสิ่งพิมพ์เหลือ 0%




นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอเรื่องการสนับสนุน การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ โดยเห็นชอบให้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ในฐานะที่กำกับดูแลกรมสรรพากร ไปพิจารณาเพิ่มเติมเรื่องมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการอ่านใน 3 ประเด็นที่สำคัญได้แก่   การขอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ของธุรกิจหนังสือ (รวมนิตยสาร และหนังสือพิมพ์) ที่เข้าอยู่ในระบบให้ลดภาษีจาก 7 % เหลือ 0 %  วึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตสิ่งพิมพ์ถูกลง มีผลให้ราคาหนังสือลดลงทำให้ประชาชนได้เข้าถึงการอ่านมากขึ้น


นอกจากนี้ ยังขอให้ลดหย่อนภาษีจากการซื้อหนังสือ สำหรับบุคคลธรรมดา ให้หักค่าใช้จ่ายจากการซื้อหนังสืออ่านได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกินปีละ 1 หมื่นบาท




ขณะที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หักค่าใช้จ่ายจากการซื้อหนังสือในองค์กร เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2 เท่า และให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริจาคหนังสือเพื่อส่งเสริม การอ่านแก่หน่วยงานราชการ สถานศึกษา หรือองค์กรการกุศล สำหรับบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่จ่ายไปในการ บริจาคหนังสือ และสื้อเพื่อส่งเสริมการอ่าน เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่าย ส่วนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่จ่ายไปเป็น จำนวน 2 เท่า  แต่ต้องไม่เกิน 30 %  ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศล สาธารณะหรือเพื่อการสาธารระประโยชน์ และเพื่อการศึกษา หรือกีฬา




"ทีแรกนายกบอกว่าให้ตั้งกรรมการเพื่อศึกษาเรื่องนี้ แต่ประดิษฐ์ บอกว่าไม่ต้อง และจะขอเข้าไปนั่งเป็นกรรมการพิจารณาเรื่องมาตรการภาษีร่วมกับทางคณะ กรรมการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลา 1 เดือน ถึงจะนำกลับมาเสนอให้ครม. ให้พิจารณาอีกครั้ง ซุ่งครม.ได้รับหลักการเรื่องการส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ แต่ให้ไปศึกษาเรื่องมาตรการภาษีเพิ่มเติม"นายวัชระกล่าว


------------------------------------------------------------------------------------------


ครม.หนุนปชช.รักการอ่าน เปิดทางให้บุคคล-นิติบุคคล หักลดหย่อนภาษีจากซื้อหนังสือได้




จากประชาชาติธุรกิจ

ครม.เห็นชอบในหลักการออกมาตรการภาษีสนับ สนุนคนไทยรักการอ่านหนังสือ เตรียมเปิดทางให้บุคคลธรรมดาหักค่าใช้จ่ายได้10,000บาท/ปี ส่วนนิติบุคคลหักจากค่าใช้จ่ายได้2เท่า ดันธุรกิจสิ่งพิมพ์อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม0% ช่วยให้สำนักพิมพ์สามารถขอคืนภาษีได้เต็มจำนวน ทำให้ราคาหนังสือมีโอกาสถูกลง



เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2553 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้กระทรวงการคลังไปหารือกับคณะกรรมการ ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำมาตรการทางภาษีเชิงรุกมาใช้เพื่อสนับสนุนการอ่าน  ซึ่งกระทรวงศึกษาฯเสนอมา 3 ประเด็น คือ 




1.ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริจาคหนังสือ และสื่อเพื่อการศึกษาแก่หน่วยราชการ สถานศึกษา หรือองค์กรการกุศล ของทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยกรณีของบุคคลธรรมดาให้ยกเว้นเป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายนั้น แต่ต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนดังกล่าว 




2.ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับค่าใช้จ่ายจากการซื้อหนังสืออ่านเพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว องค์กร โดยบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกินปีละ 10,000 บาท สำหรับนิติบุคคล ให้หักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2 เท่า




3.ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีในธุรกิจหนังสือ รวมนิตยสารและหนังสือพิมพ์ เข้าอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% จะช่วยให้สำนักพิมพ์สามารถขอคืนภาษีได้เต็มจำนวน ทำให้ต้นทุนในการผลิตหนังสือมีแนวโน้มต่ำลง  และราคาหนังสือมีโอกาสลดลงได้ในสัดส่วนเดียวกันและกระตุ้นการอ่านหนังสือได้ มากขึ้น เข้าถึงผู้อ่านได้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจหนังสือขยายตัวได้ง่าย  




ทั้งนี้  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี ได้ระบุในที่ประชุม ครม.ว่าขอดึงเรื่องนี้เข้ามาสู่การพิจารณาเอง ทั้งๆที่ตามกระบวนการ ทางกระทรวงศึกษาธิการจะต้องไปหารือกับกระทรวงการคลังก่อน แต่เนื่องจากต้องการรับฟังความเห็นของครม.ว่าจะมีทิศทางอย่างไรก่อน 




ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รมว.สาธารณสุข ก็ได้กล่าวสนับสนุนมาตรการนี้พร้อมระบุว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยที่ตนเป็น รมว.ศึกษาฯ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการอ่านได้มากขึ้น  




อย่างไรก็ตาม นายประดิษฐ์  ภัทรประสิทธิ์  รมช.คลัง แม้จะได้แสดงความเห็นพ้องกับมาตรการนี้  โดยเฉพาะการลดหย่อนภาษีคงไม่มีปัญหา  แต่ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีที่จะให้ธุรกิจหนังสือไม่ถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่า เพิ่มว่าเป็นเรื่องที่มีความซ้ำซ้อนและยุ่งยากและยังเข้าใจไม่ตรงกัน




จากนั้นนายกรัฐมนตรี จึงให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ แต่นายประดิษฐ์ระบุว่าไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่แต่ตนเองจะเข้า ไปหารือร่วมกับคณะกรรมการที่มีอยู่แล้วของกระทรวงศึกษาฯด้วยตนเอง โดยจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปแทน  และจะนำข้อสรุปมาเสนอ ครม.ภายใน 1 เดือน



Lock Reply
view