คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๖๗/๒๕๕๐
กรมศุลกากร โจทก์
บริษัท ต.ทองชัย (๑๙๙๑) จำกัด จำเลย
พระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๒๔
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๔
จำเลยเป็นผู้รับโอนบัตรภาษีจากบริษัท น. โดยทำคำร้องขอรับโอนสิทธิตามบัตรภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ ซึ่งมีข้อความระบุว่า “กรณีที่เกิดการทุจริตในการขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรและเกิดความเสียหายแก่กรมศุลกากรไม่ว่ากรณีใดๆ ข้าพเจ้ายินยอมรับผิดต่อกรมศุลกากรทุกประการโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น” ดังนั้น จำเลยจึงต้องผูกพันต่อโจทก์ตามข้อความดังกล่าวซึ่งมีลักษณะเป็นสัญญาประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่โจทก์ ทั้งปรากฏต่อมาว่าได้เกิดการทุจริตในการขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรและเกิดความเสียหายแก่โจทก์แล้ว ไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำของบริษัท น. หรือไม่ก็ตาม จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามข้อสัญญาดังกล่าวโดยตรง การที่จำเลยได้รับโอนบัตรภาษีมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนจึงหาทำให้พ้นความรับผิดไปไม่ เมื่อจำเลยไม่คืนบัตรภาษีให้โจทก์อันเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องและจำเลยต้องคืนบัตรภาษีหรือเงินตามมูลค่าบัตรภาษีพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
ความรับผิดของจำเลยเป็นหนี้เงินอันเกิดแต่สัญญา และเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทิน จำเลยต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยเมื่อผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๔ วรรคหนึ่ง ซึ่งโจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒๕๓,๕๗๘.๕๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ในหนังสือดังกล่าว ซึ่งอนุมานจากพฤติการณ์ได้ว่าให้จำเลยชำระหนี้ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับหนังสือทวงถาม จำเลยได้รับหนังสือทวงถามเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๔๕ จึงครบกำหนด ๑๕ วันในวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๔๕ จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๕ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามมูลค่าบัตรภาษีที่นำไปใช้แล้วจำนวน ๒๕๓,๕๗๘.๕๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี โดยคิดจากวันที่จำเลยรับบัตรภาษีแต่ละครั้ง รวมต้นเงินและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๔๐๑,๓๘๖.๒๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๒๕๓,๕๗๘.๕๒ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ เป็นการคิดดอกเบี้ยยังไม่ถูกต้อง
บงกช เสมาทอง / ย่อ
สุวัฒน์ ไวยุพัฒนธี / ตรวจ
จากเวปไซต์ศาลภาษีอากรกลาง