จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เสาะหาไอเดียจัดการงบการเงินให้เกิดผลสำเร็จ และการรู้จักใช้บัตรเครดิตคุมหนี้ไม่ให้บานปลาย มาเสนอเพื่อเป็นวัคซีนเป็นภูมิคุ้มกันวิกฤติเงิน
เมื่อเร็วๆ นี้ "อีโคโนมิสต์" นิตยสารชั้นนำของอังกฤษ เผยแพร่งานวิเคราะห์ภาคธนาคารทั่วโลก เตือนว่าอัตราว่างงานกับหนี้เสียบัตรเครดิตใน ภาคครัวเรือน กำลังก่อปัญหางูกินหาง ให้ภาคธนาคารของไทยและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย เพราะวิกฤติมีต้นตอจากตลาดสินเชื่อบ้านสหรัฐ ยังแฝงเร้นสึนามิที่พร้อมกระหน่ำทำตลาดช็อกได้อีกครั้งหนึ่ง
ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะช็อก ทำให้ตื่นตระหนกตกใจข้างต้น นอกจากจะเกิดขึ้นกับตลาดระดับโลกและภูมิภาคแล้ว ในระดับรากหญ้าหรือภาคครัวเรือนย่อมหนีไม่พ้นจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ฉะนั้น ยามที่คลื่นยังสงบ คนไทยจึงควรเตรียมความพร้อม ซักซ้อมและปรับตัวให้ระแวดระวังรับมือสึนามิวิกฤติเงิน ที่อาจเกิดได้ตลอดเวลา
จากประวัติศาสตร์การเงินของโลกและของไทย หากย้อนกลับไปศึกษาสาเหตุของทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ พบว่าการเก็งกำไรหวังผลตอบแทนสูง การบริหารการเงินของครอบครัวไม่ดี ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินฐานะจนก่อหนี้สินล้นพ้นตัว ล้วนมีรากเหง้ามาจากกิเลสความโลภ
ในช่วงเศรษฐกิจไทยและโลกยังอยู่ช่วงขาลง นับเป็นภาวะแวดล้อมกดดันและเอื้อให้คนไทย ควรหันมาทำความเข้าใจมากขึ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ และงบการเงินกับภาระใช้จ่ายซึ่งอาจเป็นของคนโสด หรือการใช้จ่ายของครอบครัว ที่ตอนนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำคัญมาก
แต่สุขภาพของคนเราจะแข็งแรงได้ก็ด้วยการฟิตซ้อมออกกำลังกายอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการเงินจะแข็งแกร่งเดินหน้าต่อไปได้นั้น บุคคลหรือครอบครัวจะต้องหาข้อมูลคำแนะนำ ที่จะช่วยกันปรับปรุงการบริหารจัดการงบการเงินให้ดีขึ้น ร่วมสร้างภูมิคุ้มกันวิกฤติเงิน ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ปัญหาเกิดจากการจัดงบการเงินครอบครัว ที่ได้มาจากประสบการณ์จริงลองผิดลองถูกมานาน 5 ปีของ เอริน เบิร์ท จากเว็บไซต์ คิปลิงเกอร์ ดอท คอม ในหัวเรื่อง "ปัญหาจัดงบการเงินครอบครัว" เป็นมุมมองแตกต่าง ซึ่งคนไทยน่าลองนำไปปรับใช้ เพื่อลดอุปสรรคขจัดปัญหาบริหารจัดการเงินทองให้ครอบครัว จนเกิดผลสำเร็จได้เช่นเดียวกับเบิร์ท ที่ไม่ยอมแพ้จนที่สุดค้นพบวิธีที่เข้ากับตัวเองได้มากสุด
0มีไอเดียไม่ถูกต้อง
สิ่งจำเป็นต้องทำ ก่อนเริ่มต้นลงมือจัดการงบครอบครัว คือปรับทัศนคติเสียก่อนว่า งบการเงินครอบครัวไม่ใช่เครื่องกั้น คอยขัดขวางคุณไม่ให้ใช้จ่ายเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก
จงคิดเสมอว่างบครอบครัวหรือของตนเอง เป็นกุญแจไขประตูสู่อิสรภาพการเงิน และเป็นสิ่งที่ทำให้มั่นใจได้ว่ามีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายในสิ่งที่สมาชิก ทุกคนต้องการ เพียงแต่กำหนดให้เป็นการใช้จ่ายอย่างยืดหยุ่น
แค่ขอให้รู้ว่ามีเงินอยู่ในบ้านทั้งหมดเท่าใด และทางไหนที่ปลดปล่อยหรือใช้เงินไปบ้าง เพียงเท่านี้จะช่วยให้คุณไม่เผชิญแรงกดดันจากสิ่งที่ไม่รู้ที่มาที่ไปอีกต่อ ไป และที่สำคัญไม่มีใบเรียกเก็บหนี้ ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อ เพราะคุณสามารถควบคุมการเงินของตนเองและครอบครัวได้
0ลอกแผนคนอื่น
เบิร์ทเปรียบอุปสรรคข้อนี้ว่า เหมือนการ์ตูนดังของวอลท์ดิสนีย์เรื่อง "ซินเดอเรลลา" เมื่อน้องสาวต่างมารดาของซินเดอเรลลา พยายามสวม รองเท้าแก้ว ของซินเดอเรลลา ที่สวมใส่ก่อนทำตกทิ้งไว้ข้างหนึ่งในงานเลี้ยงที่พระราชวังของเจ้าชาย
ความพยายามจะจัดทำแผนใช้จ่ายของครอบครัว ให้ลงตัวเหมือนกับแผนของคนอื่น อาจส่งผลเจ็บปวดอย่างมากให้คุณได้ เพราะขนาด รองเท้า ที่ทุกคนใส่ย่อมไม่เท่ากัน อีกทั้งมีหนทางกับวิธีการมากมายให้คุณเลือกใช้จัดงบครอบครัวให้ลงตัว
ลองเลือกหาแผนไปเรื่อยๆ จนกว่าแผนใดแผนหนึ่งหรือหลายแผน นำมาผสมผสานกันจนลงตัวเข้ากับคุณได้ เช่น การเลือกรูปแบบใช้จ่ายเงินที่ได้ผลกับครอบครัว
บางครอบครัวอาจนิยมรูปแบบเก่า คือทุกคนต้องจดบันทึกรายการซื้อทุกอย่างในสมุดเล่มเล็ก หรือเข้มงวดกับการใช้เงินสดซื้อสิ่งของต่างๆเข้าบ้านเท่านั้น เพื่อตัดปัญหาใช้จ่ายเกินตัวหรือเกินวงเงินที่แต่ละคนสามารถใช้จ่ายได้
บางครอบครัวอาจสะดวกกับการใช้วิธีทันสมัย พึ่งอุปกรณ์กับเครื่องมือใช้เทคโนโลยีระดับสูงอย่างคอมพิวเตอร์ ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือแล็ปทอปพกพาเคลื่อนที่ได้ พร้อมกับหาข้อมูลใช้บริการจัดงบการเงินจากเว็บไซต์มากมายในโลกไซเบอร์
0ทำเรื่องง่ายให้ยาก
ข้อนี้เป็นอีกอุปสรรคหนึ่งที่ต้องปรับเปลี่ยน เพราะกุญแจสำคัญทำให้เกิดผลสำเร็จในการจัดงบการเงิน แท้จริงแล้วอยู่ที่การทำให้งบการเงินดูง่าย เบิร์ทย้ำว่าการคิดและค้นหา หรือคงแผนการเงินที่ดีของครอบครัวไว้นั้น ต้องใช้ความพยายามแต่ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป
ไม่ใช่คิดจะยกเครื่องการใช้จ่ายของครอบครัวทั้งหมดให้เสร็จสำเร็จได้ ในระยะเวลาอันสั้นเพียงสัปดาห์เดียว ขอให้เพ่งเล็งไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ซึ่งคุณสามารถดูแลตัดลดรายจ่ายได้ ครั้นเมื่อคุณจัดการกับรายจ่ายเป็นปัญหาในส่วนนั้นได้สำเร็จแล้ว คุณค่อยหันเหความสนใจไปจัดการปัญหาส่วนอื่นต่อไป
0งบการเงินตึงเกินไป
คุณจำเป็นต้องสร้างงบการเงินยืดหยุ่น ไม่เช่นนั้นงบการเงินของคุณจะหยุดชะงักเพราะแรงกดดัน ซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลาและควบคุมได้ยาก
ดังนั้น การช่วยให้คุณและทุกคนในครอบครัว มีช่องว่างหายใจได้บ้าง เช่น ยอมรับว่าทุกคนอาจทำผิดพลาดได้ หรือการปรับตัวตามสถานการณ์แวดล้อม และการตัดสินใจในหลายเรื่อง เมื่อภาวะแวดล้อมกับปัจจัยต่างๆ ในการดำรงชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรวมถึงราคาสินค้ากับค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้น
อย่างช่วงดอกเบี้ยผ่อนรถปรับขึ้น ราคาก๊าซหุงต้มขยับเพิ่ม หรือค่าเช่าบ้านสูงขึ้น ทางออกง่ายๆ ที่คุณทำได้ หากไม่มีเงินสำรองไว้เพิ่มความยืดหยุ่นให้งบการเงินของครอบครัว คือคุณก็ต้องมองหาหลายๆ ทาง ที่จะช่วยหารายได้หรือทำเงินเข้าบ้านให้ได้มากขึ้น
0ไม่ลำดับความสำคัญ
การขาดเป้าหมายสำคัญมากที่สุด เป็นอุปสรรคหนึ่งที่สำคัญในการจัดงบการเงิน ดังนั้นจากนี้ไปคุณต้องกำหนดเป้าหมายสำคัญสุดไว้ จากนั้นให้บันทึกเป้าหมายรองๆ ลงมา การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยคุณและสมาชิกทุกคนในครอบครัว คิดทบทวนในยามที่เกิดกิเลสอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้พร้อมๆ กัน
ขณะที่การคิดเชิงบวกไว้เสมอว่า การจัดงบการเงินอย่างมีเป้าหมาย นอกจากจะช่วยให้คุณบริหารค่าใช้จ่ายได้ดีแล้ว ยังทำให้ครอบครัวได้เก็บเล็กผสมน้อยในแต่ละวัน เพื่อจะรวบรวมเงินเหลือใช้ ซึ่งอาจเป็นก้อนเล็กก้อนน้อย แต่เมื่อรวมแล้วกลายเป็นก้อนใหญ่ ใช้ซื้อของชิ้นใหญ่เข้าบ้านได้ และอาจใช้เป็นงบบันเทิงสำหรับครอบครัว
0ขาดการจัดสรรเงิน
หากคุณไม่กำหนดเป้าหมายที่มีความยืดหยุ่น เบิร์ทแนะนำให้แนวทางของเขาเป็นกรณีแบบอย่าง ซึ่งสามารถปรับไปใช้ให้เข้ากับสถานการณ์การเงินของตัวเองได้
โดยเขาแนะให้ใช้งบเพื่อชำระหนี้บ้าน ก่อน 30% ของรายได้ เพื่อสาธารณูปโภค 10% แบ่ง 15% สำหรับอาหารของครอบครัว จัดสรร 10% ให้การขนส่ง กำหนด 5%ใช้ซื้อหาเสื้อผ้า แยก 10% ชำระคืนหนี้ทั่ว ไป เหลือ 5% เพื่อความบันเทิงของครอบครัว และ 5% สุดท้ายใช้เป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เมื่อหักแล้วยังเหลืออีก 10% ให้คุณได้ออมหรือนำไปซื้อของชิ้นสำคัญสุดพิเศษ
0เมินเงินเก็บเผื่อฉุกเฉิน
ค่าใช้จ่ายซึ่งอาจบานปลายอย่างไม่คาดฝัน สามารถทำให้แผนจัดงบดีเยี่ยมหมดความหมายใช้ประโยชน์ไม่ได้ แถมยังฉุดคุณจมอยู่กับหนี้ และอาจใช้เวลานานอีกหลายเดือนกว่าจะปรับตัว เพื่อดึงตัวเองกลับมาบริหารงานงบครอบครัวได้ดีอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น เป้าหมายแรกสำหรับงบการเงินของคุณ คือออมเงินก้อนเล็กก้อนน้อยไว้เป็นทุนสำรองเผื่อเหตุฉุกเฉิน ด้วยคำแนะนำนี้หากรถยนต์เสีย และกรณีที่คุณหรือสมาชิกคนอื่นในครอบครัวป่วยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เงินฉุกเฉินก้อนนี้จะช่วยให้ครอบครัวไม่ต้องเหนื่อยหารายได้เพิ่มในภายหลัง
0คิดท้อจนเลิกกลางคัน
หากล้มเหลวกับการจัดงบการเงิน ขออย่าได้ท้อถอย เพราะเบิร์ทต้องใช้เวลา 6 ปีกับการลองผิดลองถูก และพลาดกับการคิดหาหนทางว่าจะจัดงบอย่างไรให้เกิดผลสำเร็จ
การยืนหยัดสู้กับปัญหา เพื่อค้นหาสิ่งทำได้จริง ทำให้เบิร์ทไม่เกิดปัญหาใช้จ่ายเงินครอบครัวแบบเดือนชนเดือนอีก และยังสามารถคืนหนี้เพื่อ การศึกษาของตัวเอง พร้อมกับซื้อบ้านให้กับครอบครัวได้ในที่สุด อีกทั้งยังมีเงินเหลือพอเพื่อความบันเทิงกับการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องก่อหนี้อีกเลย
นอกเหนือจากจัดงบครอบครัวให้ดีแล้ว การฝึกฝนควบคุมตัวเอง ให้รู้จักใช้บัตรเครดิต โดยไม่ก่อหนี้ส่วนบุคคล เป็นอีกทางหนึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบครัวห่างไกลจากวิกฤติเงิน ดังนั้นเรื่อง "ใช้บัตรเป็นหนี้ไม่บาน" จาก แบงเรท ดอท คอม น่าสนใจไม่แพ้กัน
0ใช้บัตรคิดดอกเบี้ยต่ำสุด
โรเบิร์ต แมนนิง ผู้อำนวยการศูนย์บริการการเงินเพื่อผู้บริโภค จาก โรเชสเตอร์ อินสทิทิว ออฟ เทคโนโลยี แนะนำให้ผู้บริโภคที่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต ขยันสอบถามตัวแทนบริษัทบัตรเครดิต เพื่อเทียบเงื่อนไข และดอกเบี้ยที่คิดหากชำระคืนหนี้ล่าช้ากว่ากำหนด หรือชำระตามวงเงินขั้นต่ำ
เพราะบริษัทบัตรเครดิตส่วน ใหญ่ต้องการดึงลูกค้าไว้ ดังนั้นการขอลดดอกเบี้ยจากการชำระเงินไม่เต็มจำนวน อาจจะเป็นเรื่องง่ายกว่า และดีกว่าที่บริษัทจะเสียลูกค้าที่มีอยู่ไปให้บริษัทอื่น ในต่างประเทศวิธีนี้ใช้ได้ผล
0รู้มูลหนี้-ดอกเบี้ยต้องชำระ
บิลล์ ดริสคอลล์ นักวางแผนการเงินของพลีเมาท์ เตือนว่าคุณไม่สามารถควบคุมบัตรเครดิตได้ หากไม่รู้จักจัดการทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ตัวเองมีหนี้อยู่มากน้อยเพียงใด ขอให้รวบรวมข้อมูลจดบันทึกไว้ เพื่อดูว่าหนี้บัตรเครดิตมีอยู่กี่ใบ และบัตรแต่ละใบคิดดอกเบี้ยเท่าใด ให้เรียงจากมากสุดไปน้อยสุด แต่ทางที่ดีที่สุดคือใช้บัตรเครดิตเพียงใบเดียว หรือให้มีน้อยใบที่สุด
0คืนหนี้คิดดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
หากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีบัตรมากกว่า 1 ใบ เมื่อถึงเวลาชำระคืน ขอให้เลือกใบที่ทำให้คุณมีภาระจ่ายคืนมากที่สุดก่อน เพราะนั่นหมายถึงภาระที่ไม่ควรแบกไว้ในระยะยาว ต้องใช้ความพยายามทุกอย่างชำระคืนหนี้แต่ละเดือนให้มากกว่าวงเงินขั้นต่ำ ค้นหากลยุทธ์จ่ายคืนหนี้ให้ได้มากที่สุด และคืนหนี้ให้หมดโดยเร็ว
0โยกหนี้รวมในบัตรเดียว
การบริหารหนี้บัตรเครดิตที่ดี สำหรับคนเคยใช้บัตรเครดิตหลายใบ คือการจัดการโยกหนี้จากบัตรที่คิดดอกเบี้ยสูงสุด มารวมไว้ในบัตรที่คิดดอกเบี้ยต่ำสุด เพราะภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำสุดจะช่วยลดภาระหนี้โดยรวมของคุณได้ในอนาคต
นอกจากนี้ การรวมหนี้ไว้ที่เดียว ยังจะช่วยให้ประวัติการชำระคืนหนี้ของคุณดีขึ้น และสามารถควบคุมปัญหาการเงินที่ไม่คาดคิดได้ดีในอนาคต