จาก ประชาชาติธุรกิจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต ว่า ตลอด 42 ปีที่ผ่านมา อาเซียนได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย และตอนนี้อาเซียนก็กำลังอยู่บนเส้นทางสู่การจัดตั้งประชาคมร่วมกัน เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขัน มีบทบาท และคำนึงถึงประชาชนมากขึ้น
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นประธานอาเซียน ไทยได้ตั้งเป้าหมายไว้ 3 ประการ ได้แก่ 1.การดำเนินตามกฎบัตรอาเซียน เพื่อให้เป็นประชาคมที่อยู่บนพื้นฐานของกฎกติกามากขึ้น 2.ให้ความสำคัญกับประชาชนมากขึ้น ซึ่งในการประชุมที่ชะอำ-หัวหิน ผู้นำอาเซียนได้พบปะกับผู้แทนจากภาคเอกชน เยาวชน รัฐสภา และภาคประชาสังคม
ซึ่ง เป็นความพยายามที่ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม และ 3.ทำให้อาเซียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั้งในภูมิภาคและโลก โดยต้องร่วมมือกับหุ้นส่วนในประชาคมระหว่างประเทศ
ในประเด็นเรื่องการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ เราได้ตกลงกันที่จะทำให้มาตรการริเริ่มเชียงใหม่เป็นลักษณะของพหุภาคี ย้ำถึงการต่อต้านลัทธิกีดกันการค้า และร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ อาทิ กลุ่มจี-20 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และขณะนี้โลกก็กำลังจับตามองอาเซียน และคาดหวังให้เราเป็นขั้วผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกท่ามกลางวิกฤตในขณะ นี้
นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องความมั่นคงทางอาหารและพลังงานจะกลายเป็นประเด็นที่มีความห่วง กังวลอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจโลกกระเตื้องขึ้น ซึ่งอาเซียนได้เตรียมการถึงเรื่องนี้ อาทิ ตั้งกลไกสำรองข้าวฉุกเฉินในกรอบอาเซียน+3 และการเสริมสร้างความร่วมมือทางพลังงานเพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนทาง พลังงาน
สำหรับการรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้น รัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+3 ได้ประชุมสมัยพิเศษไปแล้ว และขณะนี้เราก็มองหาแนวทางที่จะยกระดับความร่วมมือในการผลิตวัคซีน เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเดือนตุลาคม ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 ซึ่งคาดหวังว่าจะมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็น ประชาคมร่วมกัน และในเดือนธันวาคมไทยจะส่งต่อตำแหน่งประธานให้แก่เวียดนาม
โดยอาเซียนจะยังมุ่งสู่การเป็นประชาคมในปี 2558 ซึ่งในภูมิภาคที่มีความหลากหลายนี้ย่อมจะมีแนวความคิดที่แตกต่างกัน แต่ก็หวังว่าเมื่อถึงปี 2558 แนวคิดของอาเซียนจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ในมุมมองของไทย ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ควรจะเป็นประชาคมแห่งการปฏิบัติ (Community of Action) โดยจะต้องปฏิบัติการได้อย่างเด็ดขาดและทันท่วงที เพื่อรับมือกับภัยคุกคามและความท้าทายต่อความมั่นคง รวมถึงเป็นประชาคมแห่งการติดต่อเชื่อมโยง (Community of Connectivity) ทั้งภูมิภาค การบูรณาการทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์ เป็นตลาดเดียว และเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
กฎหมายและระเบียบต่างๆ ทำให้อาเซียนสามารถใช้ศักยภาพทางเศรษฐกิจและข้อได้เปรียบเรื่องยุทธศาสตร์ ที่ตั้งได้อย่างเต็มที่ และควรเป็นประชาคมของประชาชน (Community of Peoples) เพราะคนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด การส่งเสริมและลงทุนด้านการศึกษา และเสริมสร้างศักยภาพในด้านอื่นๆ จะทำให้อาเซียนก้าวสู่ประชาคมที่ยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวในเรื่องความสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสินค้าเกษตร โดยนายกฯ ระบุว่า เรื่องมีการจัดตั้งกลไกการทำงานในกรอบของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา 3 ประเทศ หรือ ASEAN+3 กำลังทำงานกันอยู่ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
เพื่อทำให้เกิดผลิตผลที่เพิ่มขึ้น โดยในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศก็ได้สนับสนุนให้เพิ่มขีดความสามารถในการ ผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน+3 ก็มีความพยายามสร้างผลผลิตให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังตอบข้อซักถามถึงการลงนามของฝ่ายสหรัฐอเมริกากับรัฐมนตรีต่างประเทศในอา เซียน ในเอกสารว่าด้วยการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ว่า เราจะยินดีเป็นอย่างยิ่งหากมีการลงนามเกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นตกลงร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและอาเซียน
อีกทั้งยังเป็นเรื่องน่ายินดีหากนโยบายการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายจะได้รับการทำงานร่วมกันให้ชัดเจนมากขึ้น
ทั้ง นี้ เอกสารฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่ทำให้สหรัฐอเมริกาสามารถเข้าเป็น ภาคีสนธิสัญญาฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมืออย่างยั่งยืนของ ประเทศในภูมิภาคและประเทศที่เข้าร่วมได้อย่างเป็นทางการ
การเข้าเป็นภาคี สนธิสัญญาฯ ของสหรัฐ มีนัยถึงการที่สหรัฐจะให้การยอมรับและปฏิบัติตามหลักการต่างๆ ที่บัญญัติไว้ในสนธิสัญญาฯ ซึ่งจัดทำโดยอาเซียน อาทิ 1) การเคารพในอำนาจอธิปไตยความเสมอภาคและบูรณภาพแห่งดินแดน 2) การไม่แทรกแซงกิจการภายใน 3) การแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี 4)การไม่ใช้หรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลัง และ 5) การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน
รวมทั้งมีมาตรการเกี่ยวกับแนวทางการยุติข้อพิพาทโดยสันติวิธี โดยอาศัยกลไกคณะอัครมนตรี เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา จะเข้าพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 17.00 น. และหลังจากนั้นจะมีการแถลงข่าวร่วมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และนายกอปร์ศักดิ์ สุภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ดูแลกิจการการต่างประเทศ
เปิดประชุมอาเซียนที่ภูเก็ต
นายกฯเปิดการประชุมรมต.อาเซียน ครั้งที่42อย่างเป็นทางการ
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงโรงแรมเชอราตัน แกรนค์ ลากูนา ภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 อย่างเป็นทางการ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีของไทย
นายกฯกล่าวต้อนรับรมต.ต่างประเทศอาเซียนบวกคู่เจรจา |
ขณะ ที่มีการคาดการณ์ว่าในวันนี้ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมหารือแบบทวิภาคีกับประเทศปาปัวนิวกินี และจะร่วมหารือกับประเทศจีน ญี่ปุ่น ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ - เลสเต และสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
และเมื่อเวลา ประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา นายกฯได้กล่าวต้อนรับคณะรีฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน พร้อมเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 อย่างเป็นทางการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดการประชุมโดยแสดงความเชื่อมั่นว่าอาเซียนจะร่วมกัน ฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง วิกฤตไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และเชื่อมั่นว่าจะร่วมกันมุ่งสู่ความเป็นประชาคม และเป็นรูปธรรมได้ในปี 2558 เพื่อรับมือกับภัยคุกคามและความท้าทายใหม่ๆ ที่จะมีต่อทั้งในและนอกประชาคมอาเซียน
อาเซียนร่วมใจ |
ปชป.มั่นใจฟื้นศก.เป็นบวก
นาย แพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเป็นไปด้วยความเรียบ ร้อย และรัฐบาลได้ดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ได้ รัฐบาลจะสามารถพลิกฟื้นให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นบวกได้ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ขณะเดียวกันยืนยันว่า โครงการชุมชนพอเพียงที่รัฐบาลจัดทำขึ้น เป็นไปด้วยความโปร่งใส และมีประโยชน์ต่อชุมชน อีกทั้งยังเป็นการน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การปฏิบัติ
นายแพทย์บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า ทางสหรัฐอเมริกาเคยส่งนักโทษคดีก่อการร้ายมาสอบสวนในไทยแต่ขั้นตอนการสอบสวน ไม่เป็นไปตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันปฏิบัติตามกฎของสหประชาชาติ โดยในวันนี้ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนก็จะมีการพิจารณากรอบที่ว่าด้วยเรื่องหลักสิทธิ มนุษยชนด้วย