จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ปิยสวัสดิ์ ไฟแรงนั่งเก้าอี้วันแรกประกาศดันการบินไทยติดอันดับ 1 ใน 5 บริษัทการบินชั้นโลก และ 1 ใน 3 ของเอเชีย ระบุอีก 2 ปีเพิ่มทุน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเป็นวันแรก นับเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนที่ 15 ของบริษัท โดยในช่วงเช้าวานนี้ (19 ต.ค.) ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสำนักงานใหญ่ จากนั้นได้กล่าวสุนทรพจน์กับผู้บริหารและพนักงาน พร้อมทั้งเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีแรกของการบริหารงาน จะเป็นช่วงของการฟื้นฟูการบินไทยให้มีความแข็งแกร่งทั้งฐานะการเงิน คุณภาพการให้บริการ และคุณภาพผลิตภัณฑ์ภายในเครื่องบิน ส่วนในช่วง 2 ปีหลังการบินไทยจะเป็นผู้นำทางการบินในด้านการบริการ และคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยตนตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปีนี้ การบินไทยต้องติดอันดับ 1 ใน 3 สายการบินชั้นนำของเอเชีย และ 1 ใน 5 สายการบินชั้นนำของโลกอีกครั้ง
ชี้ภาระหนี้ 1.6 แสนล้านต้นตออ่อนแอ
ทั้งนี้ สาเหตุที่ฐานะการเงินของการบินไทยไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร เป็นผลจากภาระหนี้สินที่สูงถึง 1.6 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะสั้น 5-6 ปี ไม่สอดคล้องกับอายุการใช้งานของเครื่องบิน คือ 20 ปี ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนสูงเกิน 3 ต่อ 1 และยังเกิดปัญหาทางเงินเมื่อต้องชำระคืนเงินกู้เป็นจำนวนมากในปีนี้และปี หน้า
"ผมคิดว่าสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่เหมาะสม คือ 2 ต่อ 1 ดังนั้น การเพิ่มทุนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดำเนินการภายในปี 2553 รวมทั้งการยืดอายุหนี้ ซึ่งการบินไทยจะหารือร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บล.ภัทร และ บล.ฟินันซ่า ซึ่งจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเรื่องโครงสร้างทางการเงิน รวมทั้งรายละเอียดการเพิ่มทุนภายในปีนี้" นายปิยสวัสดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเดือน พ.ย.นี้ การบินไทยจะ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ร่วมกับฝ่ายบริหารและพนักงาน เพื่อกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ในการจัดทำแผนการดำเนินงาน ซึ่งแผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะมีความชัดเจนทั้งการปรับโครงสร้างทางการเงิน และแผนลงทุนในการจัดหาเครื่องบินใหม่ ทดแทนเครื่องบินเก่าที่ต้องปลดระวาง และคาดว่าในปีนี้ การบินไทยจะมีรายได้ 1.57 แสนล้านบาท ลดจากปี 2551 ที่มีประมาณ 2.02 แสนล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.86 แสนล้านบาท
วางยุทธศาสตร์ 5 ปีเพิ่มรายได้
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์สำคัญที่การบินไทยจะใช้เป็นกรอบในการสร้างรายได้เพิ่มในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2552-2556 คือ 1. เป็นองค์กรที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งธุรกิจการบินมีการแข่งขันสูง ดังนั้น คุณภาพการให้บริการและคุณภาพผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในเครื่อง ต้องมีความสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่หากคุณภาพการให้บริการและคุณภาพผลิตภัณฑ์ไม่มีความสม่ำเสมอ จะเป็นปัญหาในการสร้างรายได้ และยังเป็นข้อจำกัดในการกำหนดราคาตั๋วโดยสาร ซึ่งคาดว่าปัญหาเหล่านี้ จะปรับปรุงได้ภายใน 2 ปี
2. เป็นองค์กรที่แข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก โดยการดูแลต้นทุนการบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรง และ 3. เป็นองค์กรที่ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงภายนอก เพราะธุรกิจการบินจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน
"บางเรื่องที่ทำได้เร็ว ต้องทำทันที อาทิเช่น การเพิ่มช่องทางจำหน่ายตั๋วโดยสาร การปรับปรุงระยะเวลาการซ่อมบำรุงให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด การปรับกลยุทธ์การตลาด แต่บางเรื่องอาจต้องใช้เวลา อาทิเช่น การปรับปรุงที่นั่งและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเครื่อง ซึ่งต้องเริ่มทำ" นายปิยสวัสดิ์กล่าว
นอกจากนั้น การบินไทยจะ ต้องทบทวนนโยบายการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการประชุมร่วมกับฝ่ายบริหารวานนี้ ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ผู้บริหารตั้งแต่ระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่ จะใช้สิทธิโดยสารที่นั่งชั้นหนึ่งได้ต่อเมื่อมีที่นั่งว่างเท่านั้น หากที่นั่งชั้นหนึ่งไม่ว่างจะต้องโดยสารในชั้นธุรกิจ หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะครอบคลุมถึงผู้บริหารที่เกษียณอายุไปแล้วด้วย รวมทั้งต้องทบทวนนโยบายการปรับชั้นที่นั่ง หรือการ UPGRADE เพื่อไม่ให้กระทบต่อการสร้างรายได้ขององค์กร
แก้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างเพื่อความโปร่งใส
ส่วนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของการบินไทยซึ่งมีปัญหา จะต้องแก้ไขกฎระเบียบให้มีความโปร่งใส และมีกระบวนการพิจารณาคำร้องเรียนและเบาะแสต่างๆ โดยการนำแนวคิด WHISTLEBLOWER POLICY เช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำของโลก
"แผนปรับโครงสร้างที่ทำไว้ขณะนี้ เป็นการประเมินไว้ช่วงต้นปี ที่ปัญหาต่างๆ ยังไม่รุนแรง ดังนั้น จึงต้องปรับปรุงแผนใหม่ โดยในส่วนของการลดต้นทุน 10,000 ล้านบาท ยังเดินหน้าต่อ และจะหาทางลดต้นทุนเพิ่มขึ้น ในส่วนของผู้บริหารทั้งระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และระดับรองกรรมการผู้ อำนวยการใหญ่ รวมถึงผู้อำนวยฝ่ายจากเดิมต้องบินเฟิร์สต์คลาส ก็ลดลงมาอยู่ในระดับชั้นธุรกิจ เพื่อจะได้ขายที่นั่งให้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องหาทางขายตั๋วที่มีราคาสูงเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ แต่จะพยายามไม่ใช้เงื่อนไขของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาขึ้นค่าตั๋ว แต่จะพยายามบริหารจัดการเรื่องการทำประกันความเสี่ยงเรื่องน้ำมันเพิ่มขึ้น" นายปิยสวัสดิ์กล่าว
ส่วนการแทรกแซงจากภายนอก นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ก่อนมารับตำแหน่งมีคนเตือนเป็นจำนวนมาก ว่า การบินไทยถูก แทรกแซงทุกระดับ ทั้งเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง การขอสิทธิพิเศษเรื่องตั๋ว การจัดซื้อ สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ฝ่ายบริหารต้องร่วมกันจัดการ เพราะหากปล่อยให้เรื่องเช่นนี้มีอยู่ต่อไป องค์กรการบินไทยจะอยู่เช่นนี้ แข่งขันได้ลำบาก ส่วนหนึ่งคืออำนาจส่วนใหญ่อยู่ที่คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) จึงถูกสั่งการได้ง่าย
ดังนั้น สิ่งที่ตนได้เสนอคณะกรรมการการบินไทย และได้รับความเห็นชอบไปแล้ว คือ เพิ่มอำนาจฝ่ายบริหารให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มีอำนาจดูแลและโยกย้ายในตำแหน่งรองกรรมการและผู้อำนวยการฝ่าย และมีอำนาจอนุมัติการจัดซื้อเพิ่มจาก 50 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท รวมทั้งให้มีการจัดทำเคพีไอ หรือดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานทั้งระดับดีดี และรองดีดี
เตือนบุคคลภายนอกอย่าแทรกแซง
"หากอยากให้ผมทำงานได้ดีและรักผม ขอให้บุคคลภายนอกอย่ามาขออะไรเป็นพิเศษ หรืออย่าเข้ามาแทรกแซง ขอให้เห็นใจการบินไทย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว องค์กรนี้ก็จะไม่สามารถกลายเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งได้ แข่งขันกับใครไม่ได้" นายปิยสวัสดิ์กล่าว
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า การร่วมกันสร้างการบินไทยให้เป็นองค์กรที่เข้มแข็งนั้น ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่เป็นการต่อยอดจากความแข็งแกร่งที่มีอยู่ใน 3 ด้าน คือ 1. ความเป็นผู้นำในธุรกิจการบินของโลกด้านการบริการ ซึ่งการบินไทยมีชื่อเสียงมายาวนาน 2. มาตรฐานด้านปฏิบัติการบินที่ดีเยี่ยม ทัดเทียมกับสายการบินชั้นนำในด้านความปลอดภัย และ 3. พนักงานและผู้บริหารที่มีคุณภาพ มีคนดีอยู่มาก โดยเรื่องพนักงานเป็นเรื่องที่ตนห่วงน้อยที่สุด
ทั้งนี้ ตามแผนปรับปรุงการบริการจะทำควบคู่ไปกับแผนการปลดระวางเครื่องบินเก่าที่หมด อายุ และการซื้อเครื่องบินใหม่ตามแผนเดิม โดยในส่วนเครื่องบินใหม่จะเข้ามาประจำฝูง อาทิเช่น แอร์บัส เอ 330 จำนวน 8 ลำ ที่ส่งมอบมาแล้ว 3 ลำ ปีหน้าจะส่งมอบอีก 5 ลำ เครื่องบิน เอ 380 ส่งมอบ 6 ในปี 2555-2556