สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ออม-ประหยัด...สารพัดตำราฝ่าพายุเศรษฐกิจ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



มาสเตอร์การ์ด สำรวจผู้บริโภค 14 ชาติเอเชียนับแต่ต้นปีนี้ บ่งชี้ว่า คนไทย 89.5% เห็นด้วยกับการออมและประหยัดมีความสำคัญ และระมัดระวังการเงิน

"ดร. ยุวะ เฮ็ดริก หว่อง" ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของมาสเตอร์การ์ด ได้เผยแพร่การสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคจาก 14 ประเทศเอเชียรวมไทย ปรากฏว่าผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกถึง 87% เห็นว่าการเก็บออมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเตรียมวางแผนเก็บเงินออมมากขึ้น และเฉพาะคนไทยนั้น 89.5% เห็นว่าการออมสำคัญมาก

"การที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเก็บออมมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ และสิ่งนี้เองจะเป็นตัววัดว่าผู้บริโภคจะใช้จ่ายมากขึ้นหรือน้อยลงในปีหน้า" ดร.หว่องให้ความเห็น

คนไทยประหยัดมากขึ้น

ข้อสังเกตน่าสนใจจากการสำรวจของมาสเตอร์การ์ด ระบุด้วยว่าการเก็บเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นแรงจูงใจหลักทำให้ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่เก็บออมเผื่อฉุกเฉิน หากแยกดูเฉพาะคนไทยมีมากถึง 81% ที่คิดเช่นนี้

ก่อนหน้านี้บริษัทนีลเส็นก็สำรวจพบคนไทยรัดเข็มขัดมากขึ้น  และสัดส่วน 4 ใน 10 ไม่เชื่อว่าอีก 12 เดือนข้างหน้าจะหลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้  ทำให้ผู้บริโภคหันมาตัดการใช้จ่ายหลายเรื่อง ตั้งแต่ประหยัดไฟ 60% ลดความบันเทิงนอกบ้าน 57% งดซื้อเสื้อผ้าใหม่ 56% ใช้รถยนต์น้อยลง 49% และลดค่าโทรศัพท์ 44%

และปลายเดือนก.ย.นี้ บริษัทบีบีดีโอ บริษัทโฆษณาในเครือบีบีดีโอ เวิลด์ไวด์ สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก 15,000 คนรวมไทย พบคนไทยได้ผลกระทบมากสุดจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ เป็นเหตุให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ตัดงบบันเทิงนอกบ้าน แฟชั่น ของเล่น ของขวัญ และลดความถี่ใช้บัตรเครดิต
ชวนออม-ประหยัดเพิ่ม

ข้อมูลและผลสำรวจคนไทย  ทั้งของมาสเตอร์การ์ด นีลเส็นและบีบีดีโอ ล้วนสะท้อนชีวิตการเงิน ความต้องการออมและประหยัด ซึ่งไม่น่าจะแตกต่างกันระหว่างคนไทยทั้งในและต่างประเทศ และน่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับเรื่อง  "รวมวิธีช่วยคุณประหยัด" และ "หลากวิธีลดรายจ่ายต่อเดือน" ของเว็บไซต์ซีเอ็นมันนี่

โดยซีเอ็นเอ็นมันนี่อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการลดรายจ่ายที่กลาย เป็นเงินออมได้ ด้วยการเทียบว่า ภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ดูจะตึงไปเสียทุกด้าน กดดันภาคครัวเรือนต้องเก็บออมเงินมากขึ้นและจ่ายให้น้อยลง

ดังนั้น การตัดส่วนเกินไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตออกไปจากงบรายจ่ายของครอบครัว ในรูปแบบที่ไม่ทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดหมดสนุกเสียก่อน มีมากมายหลายวิธี และไม่ใช่เคล็ดลับอะไรเลย สามารถทำได้ทุกย่างก้าวของชีวิตสมาชิกทุกคนในครอบครัว

0ไม่ซื้อของถี่เกินไป

ไอเดียนี้เหมาะสำหรับคุณพ่อหรือคุณแม่บ้าน ถ้าเป็นคนไทยในสหรัฐ ซีเอ็นเอ็นมันนี่ตั้งเป้าให้เลยว่า จะสามารถลดรายจ่ายได้เดือนละ 183 ดอลลาร์หรือกว่า 6,000 บาท หากเปลี่ยนไปเป็นการช้อปสัปดาห์ละครั้ง

เพราะยิ่งช้อปจำนวนมากครั้งหรือหลายเที่ยว  มีแนวโน้มเป็นไปได้มากขึ้น ที่ผู้ซื้อจะเร่งหรือรีบด่วนตัดสินใจซื้อของ แม้มีราคาแพงเพราะทนกิเลสอยากได้ไม่ไหว

ก่อนหน้านี้มีผลศึกษาพบว่า ประมาณ 2 ใน 3 ของการซื้อและช้อปของเข้าบ้าน เกิดจากการไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า หากลดพฤติกรรมและจำนวนการซื้อของเข้าบ้านเพียงครึ่งหนึ่ง จากสมมุติฐานที่ว่าคุณใช้จ่ายเวลาช้อปของเข้าบ้านสัปดาห์ละ 100 ดอลลาร์ เมื่อรวมตลอดทั้งเดือน ทั้งคุณและครอบครัวจะมีเงินออมเพิ่มจากมุมนี้ของชีวิตถึง 143 ดอลลาร์ หรือกว่า 4,800 บาทต่อเดือน

0ลองใช้แบรนด์ธรรมดา
นิสัยนิยมแบรนด์ดังอาจห้ามกันยาก เพราะการนิยมของแบรนด์ระดับโลก เพื่อซื้อครั้งเดียวให้ได้ของดีของใช้ทนทาน อายุใช้งานยาวนานอย่างกระเป๋าคู่กายหรือเสื้อผ้าใส่ทำงาน เป็นเรื่องจำเป็นที่ทำได้

แต่ แจน-เบเนดิก สตีนแคมพ์ นักวิชาการด้านการตลาด จากยูเอ็นซี เชื่อว่าบางโอกาสของชีวิตคนเรา หากต้องซื้อข้าวของใช้อื่นๆ ที่มีอายุงานสั้นนั้น ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับแบรนด์ชั้นนำยอดนิยม เพราะต้องซื้อหามาสับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา อย่างแบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉาย และของกินที่ผลิตจากบริษัทท้องถิ่นชื่อไม่ดัง แต่คุณภาพใช้ได้ และที่สำคัญราคาไม่แพง

เพียงแต่คุณเปลี่ยนความภักดีที่มีต่อแบรนด์ดังๆ เสียบ้าง หันมาซื้อผักหรือผลไม้กระป๋องกับของใช้ประจำวันที่ติดแบรนด์ธรรมดาผลิตโดย บริษัทท้องถิ่น จะช่วยให้รายจ่ายของครอบครัวลดลงได้ ไม่น้อยกว่า 15 ดอลลาร์ หรือกว่า 500 บาทต่อเดือน

0กินของตามฤดูกาล
การบริโภคของนอกฤดูกาล หรือหาได้ยากช่วงนั้นๆ โดยทั่วไปแล้วทำให้คุณต้องจ่ายแพงขึ้นหรือมากกว่าปกติ 20%-50%

ซีเอ็นเอ็นมันนี่จึงแนะนำคนไทยในต่างประเทศว่า หากมีเวลาว่างสามารถศึกษาหาข้อมูลผักผลไม้ที่มีตามฤดูกาล หรือผลิตได้มากในช่วงนั้น ด้วยการเจาะเข้าไปดูในเว็บไซต์ fruitsandveggiesmorematters.org พร้อมกับจดบันทึกไว้เป็นข้อมูล เพื่อซื้อหาและคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายได้ถูกต้อง จากมุมนี้ของชีวิตคาดว่าคุณสามารถลดรายจ่ายให้ครอบครัวได้เดือนละ 7 ดอลลาร์ หรือเกือบ 250 บาท

0รอจังหวะซื้อของถูก
ให้นึกถึงเวลาและจังหวะเหมาะที่จะซื้อของได้ราคา ถูก ตรงนี้ซีเอ็นเอ็นมันนี่การันตีว่า อย่างน้อยคนไทยในสหรัฐต้องประหยัดได้ไม่น้อยกว่า 46 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,500 บาท เมื่อซื้อแอร์หรือเครื่องทำความเย็น

ดังนั้นซื้ออะไรอย่าใจร้อน เมื่อคิดจะซื้อแอร์สักเครื่องให้นึกถึงช่วงเดือนม.ค.เข้าไว้ ไม่ควรเผลอลืมหรือประจวบเหมาะทำแอร์ที่บ้านเสียในเดือนก.ค. เพราะแทนที่จะได้ซื้อของถูก ราคาลดลงอีก 25-40% ช่วงต้นปี คุณอาจถูกกดดันให้ซื้อของเต็มราคาและไม่ได้ของแถมเลยในฤดูร้อนที่ร้อนอย่าง สุดๆ

0ใช้แต่เงินสด
การปรับนิสัยใช้จ่ายตามคำแนะนำข้อนี้แสนจะธรรมดา และทุกคนรับรู้กันอยู่เสมอ เพียงแต่คุณจะยอมปฏิบัติหรือลองทำตามหรือไม่เท่านั้น คือใช้แต่เงินสดซื้อของ

เพราะทั้งนิวยอร์ก ยูนิเวอร์ซิตี้และยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ แมรี่แลนด์ ช่วยกันสำรวจและศึกษาได้ผลสอดคล้องกันว่า คนทั่วไปจะใช้จ่ายน้อยลงถึง 20% หากยึดวิธีการใช้จ่ายแบบเก่าๆ คือควักแต่เงินสด โดยไม่ใช้บัตรเครดิตเลย จะช่วยให้แต่ละครัวเรือนประหยัดรายจ่ายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 500 ดอลลาร์ หรือกว่า 17,500 บาท

0ลองคาร์พูล-ใช้รถไฟฟ้า
หากปรับนิสัยที่เคยรักสบายเอาแต่ขับรถ หรือปรับแผนการเดินทางให้เปลี่ยนไปใช้บริการการคมนาคมสาธารณะบ้าง ซีเอ็นเอ็นมันนี่คำนวณว่า คุณจะประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อยกว่า 25 ดอลลาร์หรือกว่า 800 บาท สำหรับคนไทยในสหรัฐ

เพียงแต่ลองหันมาปรับหรือสลับรูปแบบการเดินทาง โดยต้นสัปดาห์กับปลายสัปดาห์ ที่คาดว่าการจราจรจะคับคั่ง คุณอาจเดินทางโดยใช้รถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าบ้าง อาจใช้ทั้งรถไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน เพียงเท่านี้จะช่วยคุณลดรายจ่ายประหยัดค่าน้ำมันได้ส่วนหนึ่ง

คาร์พูลหรือติดรถไปด้วยกัน เป็นอีกวิธีที่เหมาะสมกับครอบครัวที่มีเพื่อนบ้านที่นิยมผูกมิตร และเห็นอกเห็นใจเข้าใจกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะยิ่งครอบครัวที่มีลูกหลาน ที่ต้องเดินทางไปทำงานเส้นทางเดียวกัน การสลับกันขับให้อีกฝ่ายติดรถไปทำงานด้วย เป็นอีกทางหนึ่งที่ดี

0ขับประหยัดน้ำมัน
การปรับนิสัยการขับรถยนต์ เมื่อหันมาใช้รถส่วนตัวไปทำงานช่วงกลางสัปดาห์ หรือช่วงวันเสาร์กับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นช่วงวันที่การจราจรส่วนใหญ่ไม่ติดขัดและคล่องตัวกว่าวันทำงานปกติ เมื่อถนนว่างขอให้ขับด้วยความเร็วในอัตราเร่งที่เหมาะสมไม่เกิน 90 กม.ต่อชั่วโมง หรือใช้เบรกเมื่อจำเป็น เพียงเท่านี้จะช่วยลดค่าน้ำมันหรือแก๊สในกระเป๋าได้ 33%

เมื่อขับไปตามถนนที่ว่าง ขอให้คอยสังเกตหน้าปัดบอกความเร็วด้วย ไม่ควรจะช้าเกินกว่า 60-70 กม.ต่อชั่วโมง เพราะการลากเกียร์ต่ำให้รถวิ่งในรอบช้าเกินไป ไม่ช่วยประหยัดน้ำมัน แต่การประคองให้ความเร็วรถไม่ต่ำกว่าระดับที่แนะนำจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเติม น้ำมันรถลงอีก 23%

ตรวจดูยางรถสม่ำเสมอ ว่ามีแรงดันลมยางเหมาะสมหรือไม่ นึกอยู่เสมอว่าต้องตรวจแรงดันลมยางสัปดาห์ละครั้ง หากลมยางใช้ได้เหมาะกับการขับทุกครั้ง จะช่วยให้รถคุณวิ่งได้ดีและประหยัดเชื้อเพลิงได้ไม่น้อยกว่า 3%

ภายในรถคุณไม่ควรบรรทุกหรือวางของสัมภาระหนักเกินไป ให้นำสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัวที่ไม่จำเป็นออกจากรถเสียบ้าง โดยเฉพาะรถขนาดเล็กยิ่งไม่ควรบรรทุกของไว้มากเกินไป เพราะทุกครั้งที่บรรทุกสิ่งของหนัก 50 กิโลกรัมหรือ 100 ปอนด์ รถนอกจากวิ่งได้ช้าลงแล้ว คุณยังต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 2%

0ประหยัดไฟเพิ่มเงินออม
คำแนะนำสุดท้ายนี้ จะช่วยครอบครัวคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยพำนักในสหรัฐ ลดรายจ่ายส่วนนี้ได้ถึง 70 ดอลลาร์ หรือกว่า 2,300 บาทต่อเดือน

ก่อนอื่นให้ทุกคนในบ้าน ช่วยกันย้ำเตือนอย่าเปิดแอร์หรือเครื่องทำความร้อน เพื่อไม่ให้อุณหภูมิต่ำหรือสูงเกินไป ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม คือหน้าร้อนเปิดแอร์เย็นสุดที่ 25 องศาเซลเซียส และหน้าหนาวปรับให้ห้องอบอุ่นพอสมควรไม่ใช่ร้อนเกินไป เพียงเท่านี้จะช่วยลดรายจ่ายค่าไฟลงได้ไม่น้อยกว่า 25%

ในสหรัฐคุณสามารถซื้อเครื่องตั้งโปรแกรม ปรับเพิ่มหรือลดอุณหภูมิอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่สม่ำเสมอ ด้วยเครื่องปรับลดอุณหภูมิอัตโนมัติจะช่วยคุณประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 15 ดอลลาร์หรือกว่า 500 บาทต่อเดือน

ในต่างประเทศบริษัทขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเครื่องใช้ภายในบ้าน มักจะมีบริการตรวจหาจุดที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน ในไทยน่าจะมีหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนให้บริการส่วนนี้เช่นกัน ซึ่งคุณไม่ควรพลาดและคอยติดตามข้อมูลนี้อยู่เสมอ

แต่หากรอขอบริการฟรีไม่ไหวก็สามารถทำได้เอง ด้วยคำแนะนำที่มีให้จากเว็บไซต์energystar.gov  ซึ่งซีเอ็นเอ็นมันนี่การันตีว่า หากพบจุดสิ้นเปลืองพลังงานได้จริงและรีบแก้ไข จะช่วยคุณประหยัดค่าไฟได้เดือนหนึ่งไม่น้อยกว่า 40 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,400 บาท

การใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดประหยัดพลังงาน เป็นอีกทางหนึ่งช่วยให้คุณใช้ไฟฟ้าน้อยลง 75% และอายุใช้งานจะนานกว่าหลอดธรรมดาทั่วไปถึง 10 เท่า หากเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนนี้ได้ จะช่วยคุณประหยัดค่าไฟได้มาก ซึ่งคนไทยในสหรัฐจะประหยัดได้ถึงเดือนละ 7 ดอลลาร์ หรือกว่า 200 บาทต่อเดือน

view