|
จาก โพสต์ทูเดย์
รายงานโดย :ลีโอ leoken@posttoday.com: |
หลังจากหลบระเบิดจากหาดใหญ่ เหตุเพราะปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ทำให้ลุงเฉิน (สระสิทธิ์ ตั้งอุดมศักดิ์)
และภรรยาย้ายร้านซังฮี้ เบตง ที่ขายบะหมี่งาดำขึ้นชื่อที่หาดใหญ่ มาเปิดขายที่ลาดพร้าว ซอย 71 จากนั้นก็ย้ายมาเปิดที่ รามอินทรา กม. 8 และล่าสุดย้ายมาที่ ซอยรามคำแหง 60/4 ซอยเดียวกับบริษัท Amway ครับ
ด้วย เหตุที่ลุงเฉินเคยเป็นหมอแผนจีนรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ที่เบตง จ.ยะลา มาก่อน เมื่อเปิดร้านขายบะหมี่ขึ้นมาจึงอยากจะทำอะไรที่แตกต่างและเพื่อสุขภาพของคน กินจริงๆ จึงเป็นที่มาของบะหมี่งาดำ ที่ลุงเฉินคิดสูตรขึ้นเอง โดยนำเส้นมาผสมกับงาดำที่นอกจากนุ่ม อร่อย หอมงาดำ และยังดีต่อสุขภาพเพราะงาดำนั้นมีแคลเซียมสูงช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร้านซังฮี้ของลุงเฉินโด่งดังและมีลูกค้ามาอุดหนุนกันอย่างหนาแน่นทุก วัน ซึ่งถือเป็นรายแรกและรายเดียวในหาดใหญ่
พอย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ก็มาเปิดร้านบะหมี่งาดำเอาใจคนกรุงเทพฯ เหมือนเคย แต่หลายคนที่เคยไปอุดหนุนร้านลุงเฉินอาจจะสงสัยว่าร้านย้ายไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้ร้านเขาย้ายมาอยู่ที่ซอยรามคำแหง 60/4 แล้วครับ
อย่างที่บอก ของดีของร้านนี้อยู่ที่บะหมี่งาดำ ที่ลุงเฉินทำเอง แนะนำว่าให้สั่งแห้งเพราะนอกจากจะสัมผัสกับความเหนียวนุ่มกว่าบะหมี่ทั่วไป แล้ว ยังได้กลิ่นงาดำหอมๆ ไปเต็มๆ ส่วนบะหมี่เหลืองของร้านนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะมีส่วนผสมกุ้งและไข่ นุ่มเหนียวอร่อยไม่แพ้กัน ยิ่งได้น้ำซุปที่กลมกล่อม กับเกี๊ยวชิ้นใหญ่และเนื้อแน่น ยิ่งอร่อยอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว และทุกชามจะมีผักกวางตุ้ง หมูแดงที่ทางร้านหมักซอสเฉพาะ ราดด้วยน้ำหมูแดงขลุกขลิก อร่อยได้ใจจริงๆ ครับ
นอก จากบะหมี่รสเลิศแล้วที่นี่ยังมีอาหารขึ้นชื่อของเบตงให้ลิ้มลองอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไก่สูตรเบตง เอ็นตุ๋นยาจีน บักกุดเต๋ที่ใส่บุแทนเครื่องใน กรุบๆ กรอบๆ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก และที่ไม่อยากให้พลาดก็คือหมูอบเบตง (เคาหยก) ซึ่งทางร้านจะเลือกใช้เนื้อสามชั้นมาอบด้วยซอสและเผือกชิ้นโต นุ่มแบบติดมันนิดๆ และได้ความแปลกด้วยความมันของเผือก อร่อยไม่ซ้ำแบบใครจริงๆ
แม้แต่หมูแดงของร้านนี้ก็ไม่เหมือนใคร เพราะเลือกใช้แต่เนื้อหมูบริเวณสันคอ ที่นิ่มกว่า หวานกว่า และก็แพงกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ นำมาหมักซอสสูตรลับของร้านทิ้งเอาไว้ 2 คืน ผลที่ได้คือเนื้อที่นุ่มเหมือนกับจะละลายในลิ้นปานนั้นทีเดียว
ว่างๆ ลองแวะไปกินกันดูรับรองว่าทุกเมนูอร่อยได้ใจทุกคำ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก! ครับ
ด้วย เหตุที่ลุงเฉินเคยเป็นหมอแผนจีนรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ที่เบตง จ.ยะลา มาก่อน เมื่อเปิดร้านขายบะหมี่ขึ้นมาจึงอยากจะทำอะไรที่แตกต่างและเพื่อสุขภาพของคน กินจริงๆ จึงเป็นที่มาของบะหมี่งาดำ ที่ลุงเฉินคิดสูตรขึ้นเอง โดยนำเส้นมาผสมกับงาดำที่นอกจากนุ่ม อร่อย หอมงาดำ และยังดีต่อสุขภาพเพราะงาดำนั้นมีแคลเซียมสูงช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร้านซังฮี้ของลุงเฉินโด่งดังและมีลูกค้ามาอุดหนุนกันอย่างหนาแน่นทุก วัน ซึ่งถือเป็นรายแรกและรายเดียวในหาดใหญ่
พอย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ก็มาเปิดร้านบะหมี่งาดำเอาใจคนกรุงเทพฯ เหมือนเคย แต่หลายคนที่เคยไปอุดหนุนร้านลุงเฉินอาจจะสงสัยว่าร้านย้ายไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้ร้านเขาย้ายมาอยู่ที่ซอยรามคำแหง 60/4 แล้วครับ
อย่างที่บอก ของดีของร้านนี้อยู่ที่บะหมี่งาดำ ที่ลุงเฉินทำเอง แนะนำว่าให้สั่งแห้งเพราะนอกจากจะสัมผัสกับความเหนียวนุ่มกว่าบะหมี่ทั่วไป แล้ว ยังได้กลิ่นงาดำหอมๆ ไปเต็มๆ ส่วนบะหมี่เหลืองของร้านนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะมีส่วนผสมกุ้งและไข่ นุ่มเหนียวอร่อยไม่แพ้กัน ยิ่งได้น้ำซุปที่กลมกล่อม กับเกี๊ยวชิ้นใหญ่และเนื้อแน่น ยิ่งอร่อยอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว และทุกชามจะมีผักกวางตุ้ง หมูแดงที่ทางร้านหมักซอสเฉพาะ ราดด้วยน้ำหมูแดงขลุกขลิก อร่อยได้ใจจริงๆ ครับ
นอก จากบะหมี่รสเลิศแล้วที่นี่ยังมีอาหารขึ้นชื่อของเบตงให้ลิ้มลองอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไก่สูตรเบตง เอ็นตุ๋นยาจีน บักกุดเต๋ที่ใส่บุแทนเครื่องใน กรุบๆ กรอบๆ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก และที่ไม่อยากให้พลาดก็คือหมูอบเบตง (เคาหยก) ซึ่งทางร้านจะเลือกใช้เนื้อสามชั้นมาอบด้วยซอสและเผือกชิ้นโต นุ่มแบบติดมันนิดๆ และได้ความแปลกด้วยความมันของเผือก อร่อยไม่ซ้ำแบบใครจริงๆ
แม้แต่หมูแดงของร้านนี้ก็ไม่เหมือนใคร เพราะเลือกใช้แต่เนื้อหมูบริเวณสันคอ ที่นิ่มกว่า หวานกว่า และก็แพงกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ นำมาหมักซอสสูตรลับของร้านทิ้งเอาไว้ 2 คืน ผลที่ได้คือเนื้อที่นุ่มเหมือนกับจะละลายในลิ้นปานนั้นทีเดียว
ว่างๆ ลองแวะไปกินกันดูรับรองว่าทุกเมนูอร่อยได้ใจทุกคำ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก! ครับ
