จาก โพสต์ทูเดย์
รายงานโดย :ทีมข่าวธุรกิจ-ตลาด: |
ธุรกิจขายตรงประเดิมปีเสือด้วยข่าวการจับกุม ผู้บริหารบริษัท เบสท์ 59 อดีตผู้ดำเนินธุรกิจในระบบขายตรงเอ็มแอลเอ็ม แบรนด์ “ปูแดง”
ที่เพิ่งถูกเพิกถอนใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ. เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
การดำเนินงานของสคบ. ครั้งนี้ถือเป็นมาตรการเชิงรุก หลังจากตรวจสอบบริษัทดำเนินธุรกิจขายตรงที่ขึ้นทะเบียนอยู่กับสคบ. 500 บริษัท และพบว่ามี 200 บริษัทที่น่าจับตา เนื่องจากปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ ไม่ตรงกับที่แจ้งสคบ. แต่แรก
จะเห็นว่ากรณีปูแดงไม่ใช่กรณีแรก เพราะมีบริษัทขายตรงที่ขึ้นทะเบียนอยู่กับสคบ. อีก 199 บริษัทที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง และเจ้าหน้าที่ของสคบ. คงไม่เพียงพอที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดทุกราย จึงเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคต้องเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของธุรกิจแอบแฝงที่อาศัยความคาดหวังของคนเป็น เครื่องมือหากิน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีปูแดง ย่อมกระทบ ต่ออุตสาหกรรมขายตรงที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ ธุรกิจนี้เติบโตสูง เพราะมีคนจำนวนหนึ่งที่ตกงาน หรือต้องการหาอาชีพเสริมรายได้ ต่างมุ่งเข้ามาในธุรกิจนี้ เพราะไม่ต้องลงทุนสูง ไม่เสี่ยง ซึ่งปีที่ผ่านมาภาพรวมขายตรงขยายตัว 7% มีมูลค่ารวมกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท
พญ.นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรง แต่มองในแง่ดี เหตุการณ์นี้จะทำให้ผู้บริโภคที่กำลังสนใจธุรกิจขายตรงเห็นความแตกต่างที่ ชัดเจนขึ้นระหว่างขายตรงที่ถูกกฎหมายกับธุรกิจแอบแฝง และสมาคมจะทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้ความรู้ผู้บริโภคมากขึ้น
ขณะที่ภายในสมาคมเองจะแจ้งให้สมาชิกซึ่งมีอยู่กว่า 30 รายเร่งกวดขันจริยธรรมจรรยาบรรณของ นักธุรกิจอิสระให้มากขึ้น ไม่ให้อาศัยช่วงที่ธุรกิจแข่งขันสูงเอาผลตอบแทนเข้าไปล่อใจมากเกินไป จนหมิ่นเหม่ต่อการทำธุรกิจ
ขณะที่ ปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) บอกว่า จากประสบการณ์ทำงานมา 20 ปี ธุรกิจขายตรงมีปัญหา มีสิ่ง ท้าทายในเรื่องภาพลักษณ์มาโดยตลอด ไม่เฉพาะในประเทศไทย ในต่างประเทศเรื่องแชร์ลูกโซ่ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่ด้วยน้ำดีในธุรกิจนี้มีมากกว่าน้ำเสีย จึงทำให้ภาพรวมเติบโตมาตลอด ฉะนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการพอจะทำได้คือ จะต้องเป็นแบบอย่างของการดำเนินธุรกิจขายตรงที่ดี
ด้าน อิทธิศักดิ์ อำพันธ์ยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งใน อุปนายกสมาคมการขายตรงไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ธุรกิจขายตรงปีนี้ฝุ่นตลบอีกครั้ง หลังจาก 1-2 ปีก่อนหน้านี้ธุรกิจขายตรงได้รับการยอมรับใน เรื่องภาพลักษณ์ที่ดี การเป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ในการทำอาชีพที่เป็นอิสระ มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจได้
วิธีการดูง่ายๆ สำหรับบริษัทแอบแฝง คือเน้นการจ่ายผลตอบแทนมากๆ โดยไม่มีการขายหรือจำหน่ายสินค้า หรือบางบริษัทมีสินค้าเพียง 1-2 ตัว สามารถทำรายได้ให้กับผู้นำองค์กรเป็นหลักล้านบาท อย่างนี้ต้องคิดให้หนัก ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นเหยื่ออีกหนึ่งรายของธุรกิจปั่นเงิน ปั่นกระแส ที่แอบแฝง แอบอ้างธุรกิจขายตรงเข้ามาหลอกลวงผู้บริโภค