จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
4 แบงก์ชั้นนำสหรัฐแสดงความผิดหวังหลังไม่ผ่านบททดสอบภาวะวิกฤตของเฟด
ซิตี้กรุ๊ป และเมทไลฟ์ ติดกลุ่มสถาบันการเงิน 4 แห่ง ที่ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ ซึ่งข่าวนี้ สร้างความประหลาดใจอย่างมากให้แก่ตลาด เพราะก่อนหน้านี้ ตลาดคาดว่า ธนาคารสองแห่งนี้ จะสามารถจ่ายคืนเงินทุนส่วนเกินหลายพันล้านดอลลาร์ ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในเร็วๆนี้
เฟด เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติธนาคาร 19 แห่ง ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีอยู่ 4 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบ ซึ่งได้แก่ ซิตี้กรุ๊ป เมทไลฟ์ แอลลี ไฟแนนเชียล และซันทรัสต์ โดยการทดสอบในครั้งนี้เป็นการพิจารณาว่า ธนาคารทั้ง 19 แห่งนี้ จะมีสถานะเป็นเช่นใดถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจนถึงสิ้นปี 2556 ซึ่งหลังจากมีรายงานออกมา ราคาหุ้นของซิตี้ เมทไลฟ์ และซันทรัสต์ดิ่งลงกว่า 3 % ในช่วงการซื้อขาย ส่วนแอลลี ไฟแนนเชียล ไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียน
นางแคธี เลียน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ของบริษัทจีเอฟที ฟอเร็กซ์ ให้ความเห็นว่า ตลาดแสดงปฏิกิริยาไม่มากนักในช่วงแรก แต่การที่ธนาคาร 4 แห่งไม่ผ่านการทดสอบ ถือเป็นปัจจัยลบอย่างมาก และไม่บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ดีสำหรับภาคธนาคาร
ผลการทดสอบของซิตี้กรุ๊ปสร้างความประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจาก ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลการทดสอบของซิตี้กรุ๊ปอาจจะออกมาดีกว่าของสถาบันการเงินแห่งอื่นๆ ซึ่งซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า เฟดคัดค้านแผนคืนเงินทุนของซิตี้กรุ๊ป แต่ไม่คัดค้านการจ่ายเงินปันผลที่ระดับปัจจุบันต่อไป โดยซิตี้กรุ๊ปจะเสนอแผนจัดการเงินกองทุนใหม่ในช่วงต่อไปในปีนี้
ซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า "เราวางแผนจะทำงานร่วมกับธนาคารกลางสหรัฐต่อไป เพื่อทำความเข้าใจกับรูปแบบการทดสอบใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐ โดยเราสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้มีการเปิดเผยรูปแบบการทดสอบนี้ต่อสาธารณชน รวมทั้ง เปิดเผยวิธีการประเมินและเกณฑ์อ้างอิงที่เกี่ยวข้องด้วย"
เมื่อเดือนต.ค.2554 เฟดได้ขัดขวางแผนการจัดการเงินกองทุนของ เมทไลฟ์ก่อนที่จะมีการทดสอบภาวะวิกฤติ โดยเมทไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันอยู่ภายใต้กฎระเบียบของบริษัทโฮลดิ้งด้านธนาคาร เนื่องจากเมทไลฟ์ มีกิจการธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อยออนไลน์ ถึงแม้เมทไลฟ์ทำข้อตกลงในเดือนธ.ค. 2554 ในการขายกิจการนี้ให้แก่บริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริค (จีอี)
เมทไลฟ์ ออกแถลงการณ์ตำหนิการทดสอบภาวะวิกฤติในครั้งนี้ โดยระบุว่า การทดสอบนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมจะนำมาใช้กับบริษัทประกัน และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบระดับรัฐ
นายสตีฟ คันดาเรียน ซีอีโอของเมทไลฟ์ กล่าวว่า "เราผิดหวังอย่างมากต่อประกาศของเฟด" และกล่าวเสริมว่าเมทไลฟ์เคยขออนุญาตเพิ่มเงินปันผลประจำปีขึ้น 49 % และขออนุญาตซื้อคืนหุ้น 2 พันล้านดอลลาร์
ด้านแอลลี ไฟแนนเชียล ออกแถลงการณ์ระบุว่า แอลลีสนับสนุนแนวคิดในการทดสอบภาวะวิกฤติ แต่ผลการทดสอบในครั้งนี้ ไม่สอดคล้องกับความเห็นของแอลลี ที่มีต่อสถานการณ์ของทางบริษัท
"ผลการวิเคราะห์ของเฟด ระบุถึงความเสี่ยงด้านสินเชื่อจำนองที่อาจเกิดขึ้นในระดับที่สูงเกินไปเป็นอย่างมาก ซึ่งแอลลีจะส่งแผนจัดการด้านเงินกองทุนใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้" แอลลี ไฟแนนเชียล ระบุ
ส่วนซันทรัสต์ ระบุว่า รูปแบบการวิเคราะห์ของซันทรัสต์ ให้ผลที่น่าพึงพอใจกว่าการวิเคราะห์ของเฟดเป็นอย่างมาก และซันทรัสต์คาดว่า จะเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาสปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดจะแสดงปฏิกิริยาในทางลบต่อธนาคารทั้ง 4 แห่ง ที่ไม่ผ่านการทดสอบ แต่นักลงทุนบางส่วน ก็แสดงความเห็นในทางตรงกันข้าม โดยให้เหตุผลว่า การที่มีธนาคารไม่ผ่านการทดสอบถือเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่า การทดสอบในครั้งนี้มีความชอบธรรม โดยก่อนหน้านี้ การทดสอบภาวะวิกฤติ ด้านการธนาคารในยุโรปเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่ามีธนาคารผ่านการทดสอบมากเกินไป
นายคีธ เดวิส นักวิเคราะห์ธนาคารของบริษัทฟาร์ มิลเลอร์ แอนด์ วอชิงตัน มีความเห็นว่า การที่มีธนาคารสอบตกในการทดสอบภาวะวิกฤติ ส่งผลให้การทดสอบมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นมาก และเมื่อธนาคารบางแห่ง ที่ส่งแผนบริหารเงินกองทุนและแผนคืนเงินทุนได้รับการปฏิเสธ ก็บ่งชี้ให้เห็นว่าเฟด มีความเข้มงวดมากเพียงใดในการประเมิน
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน