จากประชาชาติธุรกิจ
พม่ายุคใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
หลังจากพรรค NLD ของ "ออง ซาน ซู จี" ชนะเลือกตั้งซ่อมอย่างถล่มทลายเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่รัฐพม่าประกาศยกเลิกการควบคุมเงินจ๊าต โดยปล่อยให้ลอยตัวตามกลไกตลาดในวันเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน
แน่นอนว่า จากนี้ไปถนนการค้า การลงทุนสายพม่า จะมีนักลงทุนเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างปฏิเสธไม่ได้
พ.อ. (พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร ประธานสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-พม่า สาขากาญจนบุรี ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในประเทศพม่าวิเคราะห์ว่า ในอดีตตลาดมืดมีอัตราการแลกเปลี่ยนเงิน 1,000-1,200 จ๊าต/
1 ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราของรัฐบาล
อยู่ที่ 600 จ๊าต/1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากที่พม่าปล่อยลอยตัวอัตราแลกเปลี่ยนทั่วไปอยู่ที่ 800 จ๊าต/1 ดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลดีกับพม่าเป็นอย่างมาก ทำให้นักธุรกิจทั่วไปนำเงินมาลงทุนในประเทศพม่าอย่างไม่เสียเปรียบ
เขามองว่าที่ผ่านมาเมื่อนักลงทุนโอนเงินให้พม่า จะเสียเปรียบนักลงทุนที่นำเงินไปแลกเปลี่ยนในตลาดมืด ทำให้ราคาวัตถุดิบและสินค้าขาดทุนเกือบเท่าตัว และเมื่อพม่าปล่อยให้เงินจ๊าตลอยตัว การค้าของพม่าก็จะเป็นการค้าสากลมากขึ้น ทำให้นักลงทุนกล้าที่จะเข้าไปลงทุนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจพม่าดีขึ้นและต่อเนื่องถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนในประเทศพม่าที่ดีขึ้นตามไปด้วย
ส่วนข้อดีของนักลงทุนชาวไทย พ.อ. (พิเศษ) สุรินทร์เชื่อมั่นว่าจะมีโอกาสค้าขายกับประเทศพม่าอย่างเสรี และถูกกฎหมายมากยิ่งขึ้น
พ.อ. (พิเศษ) สุรินทร์ยังมองว่า เมื่อค่าเงินมีการปรับตัวโดยอิงกับตลาดใหญ่ จะส่งผลให้ตัวเลขการค้าชายแดนเพิ่มปริมาณมากขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกันจะทำให้การลักลอบค้าชายแดนที่ผิดกฎหมายน้อยลง และภายใน 1 ปีจะเห็นตัวเลขการค้าทางชายแดนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากอดีตถึงปัจจุบันการค้าชายแดนพม่าอาศัยระบบ "โพยก๊วน" เป็นหลัก หรืออาศัยการทำธุรกรรมในประเทศสิงคโปร์เป็นหลักเท่านั้น
สำหรับประเทศไทย พ.อ. (พิเศษ) สุรินทร์ยังสะท้อนว่า จะมีนักลงทุนชาวไทยประเภทค้าปลีกแบบซื้อมาขายไปแห่เข้าไปลงทุนในประเทศพม่า เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยจะมีเม็ดเงินลงทุนในเบื้องต้นหลายหมื่นล้านบาทต่อเดือน
ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมหนัก มีแนวโน้มจะเข้าไปตั้งโรงงานและเข้าไปร่วมทุนกับทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลพม่า ซึ่งแต่ละโครงการจะมีมูลค่าการลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นล้านไปจนถึงหลักแสนล้าน อาทิ อุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มพลังงาน รวมทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ
เขาเชื่อว่าการปล่อยเงินจ๊าตลอยตัวเสรีต่อไป จะทำให้ประเทศพม่ากลายเป็นตลาดเงินทุน และแหล่งลงทุนที่สำคัญของโลก และยังเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นประธานอาเซียนในปี 2015 ด้วย แต่กระนั้นกลับไม่มีสัญญาณจากประเทศไทยในการดำเนินการเตรียมพร้อมหลังจากพม่าเปิดประเทศอย่างจริงจัง ขณะที่ยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย ต่างให้ความสนใจกับการลงทุนในประเทศพม่าเป็นอย่างสูง
พ.อ. (พิเศษ) สุรินทร์กล่าวว่า ล่าสุดสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-พม่า เตรียมนำนักธุรกิจประเทศไทย 30 คนไปเยือนพม่า โดยจะนำกลุ่มนักธุรกิจไทยไปพบกับรัฐมนตรีของกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้จะพาไปพบกับ พล.อ.ทุระ ฉ่วยมาน ประธานรัฐสภาพม่า รวมทั้งผู้นำคนอื่น ๆ ของประเทศพม่า และร่วมประเพณีสงกรานต์ที่เมืองมัณฑะเลย์ ระหว่างวันที่ 9-14 เมษายนนี้
การจัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อให้นักธุรกิจไทยกลุ่มแรกได้นำร่องเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าอย่างเป็นรูปธรรม และมีโอกาสในการแข่งขันในเวทีการค้า ในพม่า
"ประเทศไทยขับเคลื่อนอย่างเชื่องช้ามานานแล้ว วันนี้จะต้องเร่งขับเคลื่อนการเปิดประตูเศรษฐกิจการค้า การลงทุนกับพม่าทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันคู่แข่งทางการค้าที่กำลังตบเท้าเข้าไปปักธงในพม่า" พ.อ. (พิเศษ) สุรินทร์สรุปทิ้งท้าย
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
