เคล็ด (ไม่) ลับในการจ่ายทิป
โดย : อะตอม
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ในภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ดอย่างปัจจุบัน การใช้งบประมาณเพื่อการท่องเที่ยวของครอบครัวมีแนวโน้มที่จะถูกจำกัดจำเขี่ยมากขึ้น
ผลการสำรวจล่าสุดของบริษัท International Currency Exchange (ICE) พบว่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษราวร้อยละ 40 มีการลดจำนวนเงินที่ใช้ในการจ่ายทิปตอนเดินทางไปต่างประเทศ ในขณะที่ร้อยละ 45 ไม่ได้เตรียมงบส่วนนี้ไว้เลย
“อัตราของค่าทิปมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าการจ่ายแค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากเกินไป” ทอม จอห์นสัน หัวหน้าของ ICE กล่าว
ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนอย่างคาดไม่ถึง ในการสำรวจประเด็นที่คล้ายกันเมื่อปีที่แล้วพบว่า ร้อยละ 65 ของนักท่องเที่ยวสารภาพว่าจ่ายทิปมากเกินความเป็นจริง ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากจำนวนค่าทิปขั้นต่ำของแต่ละประเทศที่ไม่เท่ากัน
ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ลูกค้าต้องจ่ายทิปในร้านอาหารและบาร์สูงถึงร้อยละ 20 ของค่าอาหารทั้งหมดซึ่งถือว่าสูงมาก การปฏิเสธไม่จ่ายทิปถือเป็นเรื่องหยาบคายมาก ที่สเปนหรือตุรกี ลูกค้าจ่ายทิปเท่าไหร่ก็ได้แต่ห้ามน้อยกว่าร้อยละ 5 ที่ญี่ปุ่นไม่มีระบบให้ทิป ในยุโรปจะคิดเป็นค่าเซอร์วิสชาร์จแทนโดยจะอยู่ที่ร้อยละ 5-10 ส่วนการจ่ายทิปที่บัลกาเรีย ไทยและโครเอเชียไม่ค่อยสร้างภาระให้กระเป๋านักท่องเที่ยวมากนัก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะประหยัดค่าทิป ข้อแนะนำต่อไปนี้ถือว่าไม่ผิดกติกาของสังคม
• ถามตัวเองว่าทำไมต้องจ่ายทิปให้บางสิ่งที่สามารถทำได้เองที่บ้านถ้าต้องการทำจริงๆ เช่น ทำอาหารทานเองที่บ้านแทนที่จะทานนอกบ้าน
• ถ้าเป็นมื้อกลางวันที่เลี้ยงลูกค้า ให้จ่ายทิปผ่านบัตรเครดิตเลย
• ถ้าการทานอาหารค่ำกับเพื่อน ๆ ไม่สนุกก็ไม่ต้องให้ทิป คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าอาหารเพิ่มสำหรับมื้อที่ไม่สนุกเพราะเพื่อน ๆ ของคุณไม่มีความสามารถในการเข้าใจคนอื่น
• ถ้าร้านอาหารที่คุณไปทานเกิดรับเฉพาะเงินสดและคุณต้องออกไปกดเอทีเอ็มพร้อมกับเพื่อน ๆ ทั้งโต๊ะ และตู้นี้จ่ายแบงค์เล็กที่สุดคือ 20 ดอลล่าร์ วิธีแก้ปัญหาคือให้จ่ายค่าอาหารรวมกันเพื่อจะได้มีเศษเงินทอนน้อยที่สุด วิธีนี้ถือเป็นการแก้เผ็ดร้านที่ไม่ยอมรับบัตรเครดิต
• จำกฎนี้ไว้ให้ดี ค่าทิปร้อยละ 40 สำหรับอาหารเช้า ไม่จ่ายเลยสำหรับอาหารค่ำ และจ่ายครึ่งหนึ่งของราคาอาหารกลางวันก่อนหักภาษี ถ้าคุณอยู่ในยุโรปหรือทานอาหารมื้อเช้าควบมื้อกลางวันที่เรียกว่า “บรันช์” คุณต้องจ่ายทิปถึงร้อยละ 100 โดยไม่มีข้อยกเว้น
• ถามตัวเองว่าร้านอาหารที่ไปทานนั้นดีหรือไม่ และควรจะดีกว่านี้หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ คุณก็ไม่จำเป็นต้องให้ทิป
• ถ้าคุณไม่เคยทำงานในอุตสาหกรรมการบริการอาหาร คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าชีวิตของพนักงานเสิร์ฟลำบากลำบนเพียงใด ลองออกจากงานปัจจุบันและมาเป็นพนักงานที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้คุณที่สุด แล้วทำงานในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายให้นานที่สุด จากนั้นก็นำค่าทิปที่ได้ทั้งหมดไปแบ่งให้พนักงานคนอื่น ในขณะเดียวกันก็แอบขโมยทิปจากกระเป๋าพนักงานคนอื่นด้วยถ้าแน่ใจว่าจะไม่ถูกจับได้
• การให้ลูกค้ารับภาระทั้งจ่ายภาษีและจ่ายทิปถือเป็นการกระทำที่โลภและเอาเปรียบ คุณควรเลือกจ่ายอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
............................
ที่มา เว็บไซต์เดลี่ เมลและ www.gawker.com
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน