จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ช่วง นี้เงินบาทแข็งค่า เป็นโอกาสดีสำหรับที่คิดอยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่นึกอยากไปแล้วจะเก็บกระเป๋าไปเลยก็ไม่ได้ ต้องเตรียมการให้พร้อมเสียก่อน โดยนอกจากจะเตรียมเงินเตรียมแผนเที่ยวแล้วยังต้องเตรียม “หนังสือเดินทาง” (Passport) กับ “วีซ่า” (Visa) ซึ่งเปรียบเสมือนใบเบิกทางในการเดินทางสู่ประเทศต่างๆ อีกด้วย สำหรับ “หนังสือเดินทาง” เป็นเอกสารสำคัญประจำตัวที่รัฐบาลประเทศหนึ่งออกให้แก่พลเมืองหรือคนชาติของ ตน เพื่อใช้แสดงตนในการเดินทางไปต่างประเทศ ทุกคนที่จะเดินทางออกนอกประเทศจะต้องมีหนังสือเดินทาง และหนังสือเดินทางนั้นจะได้รับการประทับการตรวจลงตราหรือ “วีซ่า” ซึ่ง เป็นเอกสารที่ประเทศใดประเทศหนึ่งได้ออกให้ภายใต้การพิจารณาของประเทศนั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว เพื่อเป็นการอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวสามารถเดินทางเข้าประเทศนั้นได้ พูดง่ายๆ ก็คือ หนังสือเดินทางคือหลักฐานแสดงตนที่เป็นสากลใช้เวลาจะเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนวีซ่าก็คือตราประทับในหนังสือเดินทางที่แสดงว่าประเทศนั้นๆ อนุญาตให้เราเดินทางเข้าประเทศของเขานั่นเอง การขอวีซ่าสามารถไปขอได้ที่สถานทูตของแต่ละประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทย คนที่อยากไปเที่ยวก็ต้องขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนคนที่จะไปเรียน ไปทำงาน หรือไปติดต่อธุรกิจ หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ ก็ต้องขอวีซ่าให้ตรงกับจุดประสงค์ของตัวเอง ซึ่งก็จะได้รับวีซ่าที่ระบุระยะเวลาในการอยู่อาศัยในประเทศนั้นๆ ต่างกัน และมีค่าธรรมเนียมต่างกันด้วย |
||||
ดังนั้น การจะขอวีซ่าเข้าอเมริกา รวมถึงประเทศอื่นๆ ให้ผ่านโดยง่าย ก็จะต้องแสดงหลักฐานให้ชัดเจนว่าเราต้องการมาเที่ยวจริงๆ และจะกลับประเทศของตัวเองแน่นอน เช่น มีแผนการเดินทางท่องเที่ยว มีหลักฐานการจองโรงแรม มีตั๋วเครื่องบินที่ระบุวันกลับ มีจดหมายรับรองจากบริษัทที่เราทำงานอยู่ มีเอกสารที่แสดงฐานะภาพการเงิน (Bank Statement) ที่ทางธนาคารออกให้เพื่อแสดงว่าเรามีรายได้สม่ำเสมอ และมีเงินติดตัวเข้าประเทศในจำนวนที่มากพอ เป็นต้น |
||||
ทั้งนี้ในการขอวีซ่าเชงเก้นต้องวางแผนให้ดี โดยหากจะไปท่องเที่ยวประเทศใดประเทศหนึ่งก็ต้องขอวีซ่าจากสถานทูตของประเทศ นั้นๆ หรือหากต้องการเที่ยวหลายๆ ประเทศ เช่น จะไปฝรั่งเศสก่อน แล้วจึงไปเยอรมัน ตามด้วยอิตาลี ก็ต้องไปขอวีซ่าเชงเก้นที่สถานทูตฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศแรกที่จะเดินทางเข้าไป แต่หากตามแผนการเดินทางนี้ เราจะอยู่ที่ฝรั่งเศส 2 วัน เยอรมัน 2 วัน อิตาลี 5 วัน ก็ต้องไปขอวีซ่าเชงเก้นที่สถานทูตอิตาลี เพราะอยู่ในอิตาลีนานที่สุด เป็นต้น สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่ไม่อยากยุ่งยากในการขอวีซ่า ก็มีบางประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ล่วงหน้า เพียงถือหนังสือเดินทางไปขอรับการตรวจลงตรา (Visa on Arrival) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของประเทศนั้นๆ โดยจากข้อมูลของกรมการกงสุล (4 ก.พ. 2556) ให้ข้อมูลว่า ประเทศและดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเดินทางเข้าไปได้โดยไม่ ต้องขอวีซ่า มีอยู่ทั้งหมด 25 ประเทศ/ดินแดน ได้แก่ |
||||
2. บาห์เรน สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน 3. บราซิล สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน 4. บรูไน สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน 5. กัมพูชา สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน 6. ชิลี สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน 7. เอกวาดอร์ สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน 8. ฮ่องกง สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 9. อินโดนีเซีย สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 10. สาธารณรัฐเกาหลี สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน 11. ลาว สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 12. มาเก๊า สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 13. มองโกเลีย สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 14. มาเลเซีย สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 15. มัลดีฟส์ สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 16. ปานามา สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 180 วัน 17. เปรู สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน 18. ฟิลิปปินส์ สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 21 วัน 19. รัสเซีย (เฉพาะวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น) สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 20. เซเซลส์ สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 21. สิงคโปร์ สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 22. แอฟริกาใต้ สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 23. ตุรกี สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 24. เวียดนาม สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน 25. ญี่ปุ่น สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน |
||||
แต่ทั้ง 25 ประเทศนี้ แม้ไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าก็ใช่ว่าจะผ่านฉลุย หากเตรียมตัว เตรียมเงิน เตรียมหลักฐานไม่พร้อม หรือมีจุดประสงค์อื่นๆ แอบแฝงในการเดินทาง ก็มีสิทธิ์ถูก ต.ม. ส่งกลับประเทศได้ง่ายๆ เช่นกัน ทั้งที่ไปเหยียบถึงสนามบินบ้านเขาแล้วก็ตาม เร็วๆ นี้หากใครมีแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมเตรียมเรื่องการขอวีซ่าไปพร้อมๆ กับการวางแผนการท่องเที่ยว และขอให้เที่ยวสนุก วีซ่าผ่านฉลุยกันทุกคน! |
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน