จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ผู้บริโภค ไทย 95% ออมเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อการศึกษาลูก ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก ตามติดด้วยมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ พ่อแม่เกือบ 9 ใน 10 ส่งลูกเรียนพิเศษ เน้นภาษาต่างประเทศ - ดนตรี- กีฬา ส่วนมากตั้งเป้าเข้ามหาวิทยาลัยเป็นหลัก บางส่วนวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ สำรวจพบคนไทยจำนวนมากเตรียมศึกษาต่อใน 1 ปีข้างหน้า มุ่งเพิ่มความรู้ให้ตนเอง ทั้งเพื่ออาชีพการงานและเป็นงานอดิเรก จากการสำรวจล่าสุดของมาสเตอร์การ์ดเกี่ยวกับการให้ความสำคัญด้านการ ซื้อ หรือ MasterCard Survey on Consumer Purchasing Priorities พบว่าผู้บริโภคไทยถึงร้อยละ 95 เก็บออมจากรายได้ของพวกเขาเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กว่าครึ่งหนึ่งของพ่อแม่ชาวไทยใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของเด็กเป็นจำนวนร้อยละ 11-30 ของรายได้ครัวเรือน และเกือบ 9 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวไทยส่งลูกเข้าชั้นเรียนพิเศษเพิ่มเติมนอกหลักสูตร เพื่อเป็นการลงทุนสำหรับอนาคตที่สดใสของเด็กๆ |
||||
ส่วนการศึกษาระดับสูงนั้น การเข้ามหาวิทยาลัยภายในประเทศยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากพ่อแม่ชาว ไทย (64%) โดยมีพ่อแม่เพียงบางส่วนที่วางแผนจะส่งลูกไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ คิดเป็นร้อยละ 19 สำหรับพ่อแม่ที่คิดจะส่งลูกไปเรียนต่อในทวีปอเมริกา และร้อยละ 15 สำหรับทวีปยุโรป นอกเหนือจากแผนการลงทุนทางด้านการศึกษาสำหรับลูกๆ แล้ว ยังมีชาวไทยที่เป็นผู้ใหญ่จำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มความรู้ความ สามารถทางวิชาการให้แก่ตนเอง ผลการสำรวจพบว่าผู้เข้าร่วมในการวิจัยเกินกว่าครึ่ง (ร้อยละ 53) ให้ความสนใจในการเข้าร่วมหลักสูตรทางการศึกษาใน 1 ปีข้างหน้า โดยสัดส่วนผู้ที่สนใจเรียนแบบเต็มเวลา (full-time) นั้นเท่ากับการเรียนนอกเวลา (part-time) โดยเหตุผลหลักที่ผลักดันให้ผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการเพิ่มพูนความรู้มากที่ สุด 3 ข้อได้แก่ ความต้องการในการศึกษาเพิ่มเติม (49%) หลักสูตรมีความเกี่ยวข้องกับอาชีพที่พวกเขาอยากทำ (35%) และเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองหรืองานอดิเรกของพวกเขา (17%) |
||||
“เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้ว ประเทศไทยนำหน้าในด้านการออมเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อการศึกษาของเด็กๆ ในความคิดของผมนั้น ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษาถือเป็นการลงทุนที่ดีอย่างแน่นอน และนับเป็นคุ้มค่าเพราะ เป็นการปูอนาคตที่ดีให้กับประชาชนและประเทศชาติ รวมทั้ง นำไปสู่การพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าของทั้งสังคมไทยและทั่วโลก” แอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ ให้ความคิดเห็น |
||||
ในจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด มี 408 คนที่เป็นผู้พำนักอาศัยในประเทศไทย มีอายุระหว่าง 18-64 ปีที่มีบัญชีธนาคาร และถูกสัมภาษณ์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีการกำหนดสัดส่วนโควต้าด้วยอายุ เพศ และเชื้อชาติ ต่อประชากรที่สามารถเข้าถึงธนาคารได้ เป็นการรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายน 2556 |
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน