จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ช่วงเข้าวันนี้ (25 ต.ค.) คณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกันตกแต่งประดับประดาบริเวณรอบวัด เพื่อไว้อาลัย ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยนำผ้าขาวดำผูกกำแพงแก้วรอบวัดบวรฯ ขณะเดียวกันในกุฏิคณะต่างๆ ของวัดบวรฯ มีการตกแต่งทำความสะอาดและจัดเครื่องไว้ทุกข์ เพื่อแสดงถึงความกตัญญูแด่องค์พระสังฆราชา ส่วนร้านค้าบริเวณรอบวัด พุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันสวมชุดดำ นำภาพพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระสังฆราช มาประดับ บางร้านค้าได้ขึ้นป้าย “งดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ด้วย บริเวณตำหนักเพ็ชร ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประชุมกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าหน้าที่กองพิธีสำนักพระราชวังและคณะสงฆ์วัดบวรฯ ร่วมกันปรับสภาพภูมิทัศน์ ให้สวยงามสมพระเกียรติ เพื่อจัดให้เป็นสถานที่สำหรับการตั้งพระศพของสมเด็จพระสังฆราช โดยบริเวณห้องโถงใหญ่ของตำหนักเพ็ชร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศประดับเกียรติยศแด่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระโกศกุดั่นใหญ่ พร้อมฉัตร 3 ชั้น และเครื่องประกอบเกียรติยศ ทั้งนี้ พระโกศกุดั่นใหญ่ ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรงแปดเหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑป ปิดทองล่อง ชาดประดับ กระจกสี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เดิมจะใช้ในงานพระศพสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า เจ้าหน้าที่กองพิธีสำนักพระราชวังตั้งไว้กลางห้อง นอกจากนี้ยังมีการนำพระพุทธรูประจำพระชนมวาร ตลอดจนทั้งพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระสังฆราช พัดยศประจำตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช มาตั้งไว้หน้าพระโกศ ขณะที่ภายในห้องโถงใหญ่ตำหนักเพ็ชร ด้านหลังของพระโกศกุดั่นใหญ่ เจ้าหน้าที่กองพิธีสำนักพระราชวังนำฉากกั้น มาติดตั้งไว้เพื่อกันเป็นพื้นที่สำหรับการสรงน้ำพระศพ โดยนำพระแท่นสำหรับสรงน้ำพระศพมาตั้งไว้กลางห้อง หน้าพระบรมรูปหล่อของรัชกาลที่ 4 และมีภาพพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ประทับอยู่กลางห้อง นอกจากนี้บริเวณโดยรอบตำหนักเพ็ชรมีการนำเต็นท์ขนาดใหญ่มาตั้งกว่า 10 เต็นท์มาติดตั้ง เพื่อรองรับเหล่าศิษยานุศิษย์ ตลอดจนแขกวีไอพีที่จะเดินทางมามาร่วมในงานพระศพที่จะจัดให้มีขึ้น ด้าน พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ หรือ พระอนิลมาน ธมฺมสากิโย ผู้ ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ของตน จึงมีโอกาสได้สนองงานตั้งแต่ยังเป็นเณร เปรียบได้เหมือนเป็นบิดา ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ยอมรับว่ารู้สึก โศกเศร้ากับความสูญเสียครั้งนี้เป็นปรกติ แต่ต้องไม่ลืมข้อเท็จจริง ตามหลักพระพุทธศาสนา คือทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง จึงอยากให้พุทธศาสนิกชน มาร่วมถวายพระเกียรติ พระสังฆราชา บูชา โดยให้ยึดพระนามของพระองค์ว่าญาณสังวร มาปฏิบัติในตัวเอง โดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนา รวมทั้งนำมรดกธรรมที่พระองค์ได้ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง มาสู่การปฏิบัติ ก็จะถือว่าเป็นการบูชาพระองค์ และจะมีพระองค์อยู่ในดวงใจตลอดไป สำหรับพระราชพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สมเด็จพระสังฆราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ ทั้งสิ้น 7 วัน ในเบื้องต้นพระโกศที่ได้รับพระราชทาน คือพระโกศกุดั่นใหญ่ ขณที่ พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า ใน ช่วงที่สมเด็จพระสังฆราช ยังทรงพระประชวร พระองค์จะเจริญสมาธิอยู่ตลอดเวลา กระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์ ทางคณะแพทย์ที่ถวายการรักษา จะไม่มีการถวายยาที่มีผลต่อสติของพระองค์ เพราะต้องการให้พระองค์จากไปในขณะที่ยังทรงสามารถเจริญสมาธิได้อยู่ จึงถือได้ว่า พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ในระหว่างการเจริญสมาธิ ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า พระราชพิธีในครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดเกล้าฯให้ กองงานส่วนพระองค์มาทำหน้าที่ดูแลและให้ข้าราชการที่เข้าร่วมในพิธีแต่ง เครื่องแบบเต็มยศ ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯในครั้งนี้ ถือเป็นการถวายพระเกียรติยศสูงสุด แด่สมเด็จพระสังฆราช สำหรับหมายกำหนดการ งานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพ สมเด็จพระสังฆราช ในเวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯร่วมในพิธีด้วย ต่อ มาในเวลา 16.30 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ยังตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงร่วมถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กระทั่งเวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา โดยเสด็จ จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระศพ เสร็จแล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงรับสรงส่วนพระองค์ถวายสรงพระศพ จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับน้ำหลวงสรงพระศพจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี พระราชทานสรงพระศพ ทรงทอดผ้าไตรแพรถวายพระศพ ถวายความเคารพพระราชอาสน์ เสร็จแล้ว เสด็จประทับพระเก้าอี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพวงมาลา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ที่หน้าพระโกศพระศพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จวางพวงมาลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระโกศพระศพ ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 20 รูปสดัปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชา กระบะมุก ที่หน้าเตียงสวดพระอภิธรรม พระพิธีธรรมจากวัดราชสิทธาราม สวดพระอภิธรรม 1 จบ จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินกลับ ส่วนบริเวณอาคารมนุษยนาควิทยาทาน ตั้งแต่เวลา 13.00 น จนถึงเวลา 16.45 น.ได้เปิดให้ประชาชนสรงน้ำพระศพหน้าพระรูปสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีประชาชนมาสรงน้ำพระศพจำนวนมากจะได้รับมอบรูปสมเด็จพระสังฆราช ขนาด A4 |
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน