วีรชัย-โชว์ลีลาทูตสั่งสอน-ศิริโชค-พูดไม่จริงทำไทยลำบาก

จาก โพสต์ทูเดย์

...ทีมข่าวการเมือง

หมายเหตุ : การประชุมรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาภายหลังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้พิพากษาตีความคดีปราสาทพระวิหาร ในช่วงกลางดึกของเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ได้เกิดความดุเดือดเมื่อนายศิริโชค โสภา สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายพร้อมแสดงแผนที่ประกอบเป็นจำนวน 7ภาพ ต่อรัฐสภาและวิเคราะห์ว่าประเทศไทยอาจเสียดินแดน ส่งผลให้นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้คดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ต้องลุกขึ้นตอบโต้ด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงไม่ความพอใจ
0-0-0-0-0-0

วาดแผนที่เสียพื้นที่เพิ่มพันไร่

'ศิริโชค' อภิปรายว่า ในปี 2505 เราสูญเสียปราสาทพระวิหาร และคณะรัฐมนตรีมีมติในปีนั้นพยายามให้เสียดินแดนให้น้อยที่สุด ซึ่งวันนั้นเราเสียดินแดนไปประมาณ 0.28 ตารางกิโลเมตร หรือเท่ากับประมาณ 170 ไร่ แต่ในปี 2556 เรากำลังสูญเสียภูของเขาพระวิหารถ้าเรายอมรับคำพิพากษาของศาลโลก

ผมได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทำแผนที่คำนวณพื้นที่ที่เราต้องสูญเสียโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์คำนวณออกมาแม้ว่าจะไม่แม่นยำแต่ก็เป็นพื้นฐานเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและเป็นภาระของนายกรัฐมนตรีที่ต้องตัดสินใจร่วมกับประชาชน

ภาพของยอดของภูเขาพระวิหารเป็นภาพที่สวยงามเห็นปราสาทพระวิหารเด่นชัด แต่ปัญหา คือ ไทยและกัมพูชามีความเห็นในเรื่องเขตแดนไม่ตรงกัน โดยคนไทยยึดตามแนวเส้นเขตสันปันน้ำ ส่วนกัมพูชายึดแผนที่ในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน

ข้อเท็จจริงที่เราต้องยอมรับมันคืออะไร ผมเข้าใจว่าท่านวีรชัยเป็นทูตท่านย่อมมีวาทะในการเจรจาการพูดให้สิ่งที่มันหนักเป็นเบา แต่วันนี้ต้องขอร้องท่านทูตว่าวันนี้ท่านกำลังยืนพูดต่อรัฐสภา ท่านต้องบอกความจริงให้หมดว่าคำพิพากษาของศาลโลกมีผลอย่างไรต่อประเทศไทย

ผมได้ค้นหาเอกสารและขอร้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ลองวาดเพื่อให้ประชาชนและรัฐสภาได้เข้าใจว่าที่ศาลตัดสินว่าอาณาบริเวณของปราสาทพระวิหารอยู่ตรงไหนและมีขอบเขตอย่างไร หัวใจของคำพิพากษาอยู่ที่วรรคที่ 98 เพราะได้อธิบายขอบเขตของอาณาบริเวณอยู่ตรงไหน โดยผมได้ให้นักวิชาการของผมลองวาดแผนที่ตามคำบรรยายของศาลในวรรคดังกล่าว ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ใช่พื้นที่เล็กๆตามคำบรรยายของศาลเพราะพื้นที่ดังกล่าวไปถึงตีนเขาภูมะเขือ

ผมคำนวณว่าเราต้องเสียดินแดนประมาณ 0.3 ตารางกิโลเมตร ประมาณร้อยกว่าไร่เกือบสองร้อยไร่ ซึ่งนี่คิดเข้าข้างตัวเองแบบสุดๆแล้ว แต่ถ้าคิดตามข้อเท็จจริงและคำบรรยายของศาลปรากฏว่าจะสูญเสียประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 1,250 ไร่ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่4.6ตารางกิโลเมตร นี่คือข้อเท็จจริงที่ผมคิดว่ารัฐบาลต้องบอกกับประชาชน

ถ้าเรายอมเสียที่จะเสียพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ 0.3 ตารางกิโลเมตร หรือ 2 ตารางกิโลเมตรก็ต้องบอกประชาชน แต่ขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลกำลังพยายามบอกประชาชน คือ เดี๋ยวไปเจรจากัน แต่ปัญหาคือศาลได้ตัดสินแล้ว ศาลได้กำหนดอาณาบริเวณไว้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อาจต้องเสียมากกว่าที่คณะรัฐมนตรีกั้นรั้วเอาไว้เมื่อปี 2505 อยากถามว่านี่คือชัยชนะของประเทศไทยอย่างนั้นเหรอ               

เตือนเรื่องอ่อนไหวต้องระวังคำพูด

ต่อมา 'วีรชัย' ชี้แจงว่า ผมขอขอบคุณศิริโชคที่ชื่นชมว่าผมเป็นนักการทูตที่ดี ผมภูมิใจมากครับเพราะผมเป็นลูกนักการทูตและเป็นอาชีพที่ผมภูมิใจ แต่ว่าวันนี้ที่รัฐสภาผมไม่ใช่นักการทูตหรอกครับ ผมเป็นข้าราชการที่มาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงแก่ท่าน ผมจะไม่มีวันให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือ ไม่ครบ หรือ ไม่ปิดบัง ผมชื่นชมคุณศิริโชคและผู้เชี่ยวชาญของท่านมากที่ใช้เวลาเพียง 48 ชั่วโมงกว่าๆสามารถสรุปได้ว่าพื้นที่ตามวรรคที่ 98 มีหน้าตาเป็นอย่างไร ผมชื่นชมท่านด้วยความสัตย์จริงทั้งตัวท่านและผู้เชี่ยวชาญของท่าน

ผู้เชี่ยวชาญของเราซึ่งถือว่าเก่งที่สุดในโลก คือ  International Boundary Research Unit หรือ IBRU (สถาบันด้านเขตแดนระหว่างประเทศ) ขอโทษนะครับยังเกาศีรษะอยู่เลยครับ ณ วินาทีอีเมลมากับผมยังเกาศีรษะอยู่ แต่ของคุณศิริโชคและผู้เชี่ยวชาญได้สรุปเรียบร้อยไปแล้ว

ผมต้องขออนุญาตเรียนว่าผมและที่ปรึกษาทั้งหมดทำงานช้าครับ เพราะเราต้องทำงานละเอียด ถ้าเป็นฟุตบอลเราจะเป็นผู้รักษาประตูจะหลุดไม่ได้เราเป็นด่านสุดท้าย เราด่วนสรุปไม่ได้ครับ ดังนั้น เป็นความสัตย์จริงที่ขอเรียนกับท่านประธานรัฐสภาว่า ณ วินาที กระผมและที่ปรึกษาทั้งหมดไม่ทราบว่าเส้นที่บรรยายไว้ในวรรคที่ 98 หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่ทราบว่าพื้นที่จะเป็นอย่างไร และผมไม่กล้าที่จะให้ข้อมูลนี้เพราะผมไม่แน่ใจ

อะไรที่ผมไม่แน่ใจผมจะไม่มีวันให้แก่ประชาชนหรือรัฐสภาแห่งนี้เพราะผมถือว่านั่นเป็นการผิดจรรยาของอาชีพข้าราชการ นักการทูตและนักกฎหมาย ผมทำไม่ได้ครับ ผมขอเวลาครับ

คุณศิริโชคนำความเห็นของคุณศิริโชคและผู้เชี่ยวชาญมาให้รัฐสภาและประชาชนในคืนนี้คุณศิริโชคจะต้องรับผิดชอบนะครับ ความเห็นนี้ด่วนสรุปในเวลา 48 ชั่วโมงกว่าๆด้วย ผมเรียนท่านแล้วว่าผู้เชี่ยวชาญระดับศาสตราจารย์อแลง แปลเล่ต์ และ เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ซึ่งคาดว่าจะได้เป็นผู้พิพากษาศาลโลก และIBRU ก็ยังทำไม่ได้นะครับ

เป็นความเห็นไม่ใช่ข้อเท็จจริงอันนี้สำคัญที่สุดและเป็นความเห็นของคุณศิริโชคและผู้เชี่ยวชาญของคุณศิริโชค ซึ่งไม่เอ่ยนามและผมอยากรู้จักนะครับ ความเห็นนี้มีปัญหาอย่างยิ่งครับเพราะอยู่สมมติฐานของข้อเท็จจริงที่ผิด ย่อมให้ความเห็นที่ไม่น่าจะถูกนะครับ

ถามว่าผิดอย่างไร สมมติฐานเบื้องต้นผิดตั้งแต่ต้นแล้วครับตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน คุณศิริโชคและผู้เชี่ยวชาญของท่านบอกว่าเส้นที่ศาลบรรยายในข้อที่ 98 หรือวรรคที่ 98 ต้องมีหน้าตาเป็นอย่างในภาพที่ท่านโชว์อยู่ในทีวี ท่านทราบหรือไม่ครับว่านั่นคือเส้นอะไร นั่นคือเส้นแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนที่กัมพูชาถ่ายทอดเอาตามอำเภอใจ

ที่ผมและคณะที่ปรึกษาใช้เวลาหลายปีต่อสู้เลือดตาแทบกระเด็นเพื่อปลดมันลงไปเพื่อเอามันออกไปเพื่อทำลายเส้นนี้ แล้วเราทำสำเร็จแล้วครับ วรรคที่ 99 ประโยคสุดท้ายอ่านอย่างไรก็แปลว่าอย่างนี้ว่าเส้นนี้ตกไปแล้วเพราะศาลบอกว่าการถ่ายทอดเส้นทำฝ่ายเดียวทำไม่ได้และไม่ใช่เส้นตามวรรคที่ 98

เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณศิริโชคทำคืออะไร คือ การให้สถานะแก่เส้นที่กัมพูชาถ่ายทอดเอาตามอำเภอใจทำร้ายผลประโยชน์ของประเทศนะครับที่พวกผมทุ่มเทเวลาเพื่อทำลายมันจนสำเร็จ บัดนี้สมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติของเราหนึ่งท่านนำกลับเข้ามา

ถ้าหากกัมพูชาดูและผมเชื่อว่าเขาดูทีวีคืนนี้เขาจะนั่งยิ้มและงานเจรจาของเราในอนาคตจะยากขึ้นอีก เพราะเขาจะบอกว่าทำไมจะใช้เส้นนี้ไม่ได้เพราะมีสมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติของไทยหนึ่งท่านเอามาฉายถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ

งานจะยากขึ้นครับผมบอกได้เลยนะครับจากการกระทำของคุณศิริโชค ในฐานะที่ผมเป็นข้าราชการไทย เป็นนักการทูตไทย เป็นหัวหน้าสู้คดี ผมขอสงวนสิทธิไว้ตรงนี้นะครับว่าการกระทำของคุณศิริโชคเป็นของสมาชิกรัฐสภาหนึ่งท่านไม่อาจผูกพันประเทศไทยได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้ที่จะผูกพันไทยได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศก็มีหัวหน้ารัฐบาล รมว.ต่างประเทศ ไม่ใช่คุณศิริโชค

เพราะฉะนั้นขอสงวนสิทธิไว้ตรงนี้แทนประชาชนคนไทยและประเทศไทยว่าการที่คุณศิริโชคไปรับการถ่ายทอดเส้นของกัมพูชานั้นไม่ใช่การยอมรับของประเทศไทยนะครับ อันนี้สำคัญมากนะครับ ขอให้บันทึกเอาไว้

แล้วผมอยากจะขอเรียนคุณศิริโชคผ่านประธานรัฐสภาว่ากรุณาหาผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศก่อนที่จะให้ความเห็นในเรื่องพวกนี้เพราะมันละเอียดอ่อน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่สามารถผูกพันประเทศไทยได้ด้วยตัวท่านแต่ท่านก็ได้ทำให้การเจรจาในอนาคตยากขึ้นแน่นอนแล้วครับ

ขอให้ไปดูรายงานของIBRUที่ได้อธิบายไว้ว่าเส้นบนแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนสามารถถ่ายทอดออกมาได้เป็นล้านล้านรูปแบบ ซึ่งสิ่งที่คุณศิริโชคนำโชว์เป็นเพียงหนึ่งในล้านล้านเท่านั้น แล้วก็ทำตามอำเภอใจ และที่สำคัญเป็นสิ่งที่กัมพูชาถ่ายทอดและทำร้ายประเทศไทยอย่างใหญ่หลวง 4.6ตารางกิโลเมตรที่ผมบอกท่านในวันแรกว่าไปแล้วมันอาจจะกลับมาได้อีกเพราะเส้นนี้

ถ้าท่านไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไรครับและผมไม่เคยพูดว่าพื้นที่นี้เล็ก คนที่พูดว่าพื้นที่นี้เล็กแคบและจำกัด คือ ศาล ผมเพียงนำมาสรุปให้ท่านเมื่อตอนบ่ายวันนี้

ผู้เชี่ยวชาญของIBRUของเราแม้ว่าขณะนี้เกาศีรษะอยู่ว่าเส้นตามวรรคที่ 98 จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกได้แน่ๆในทางเทคนิค คือ ตีนภูมะเขือกับตีนเขาพระวิหารสิ่งเดียวกันครับ คือ ร่องระหว่างเขาทั้งสอง ผู้ที่เก่งที่สุดในโลกในวิชาแผนที่เขากล่าวอย่างนี้ ผมไม่ได้เก่งในเรื่องแผนที่แต่ผมเชื่อว่าเขามากกว่าเชื่อคุณศิริโชค
              

 แจงกลับไม่ได้มีเจตนาร้าย

ขณะที่ 'ศิริโชค' ขอใช้สิทธิชี้แจงกลับในฐานะผู้ถูกพาดพิงว่า ผมตระหนักดีว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าท่านได้ฟังผมดีหรือเปล่า เส้นที่โชว์อยู่บนแผนที่ผมพูดครับว่ามันโยกไปโยกมาได้ และเป็นหน้าที่ของไทยและกัมพูชาต้องไปเจรจาเพื่อดูว่าเส้นนี้อยู่ตรงนี้ ผมไม่เคยบอกว่าสิ่งที่ผมโชว์เป็นสิ่งที่ถูกต้อง 100% โปรดเข้าใจว่าพวกผมก็รักชาติและมีหน้าที่พยายามบอกกับรัฐบาลว่ามันเป็นพื้นที่ที่เกินกว่ารั้วกั้นของมติคณะรัฐมนตรีพ.ศ.2505 และแผนที่ที่ผมเอามาก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องเอามาผูกพันเพียงแต่ผมยกตัวอย่างให้เห็น ไม่ใช่เส้นที่จะมาทำลายชาติแต่อย่างใด

ผมจบวิทยาศาสตร์ผมเข้าใจตัวเลขต่างๆดี รู้จักวิธีการคำนวณ ดังนั้น การมาบอกว่าผมทำให้กัมพูชาได้เปรียบนั้นจึงไม่เป็นความจริง ความเห็นของผมอาจจะไม่เหมือนกับของท่านแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกผมไม่ได้รักชาติครับ   

ศิริโชคปัดโดนทูตวีรชัยสอนมวย

จาก โพสต์ทูเดย์

ศิริโชค'โพสต์เฟซบุ๊กหลังมีการแชร์คลิปตอบโต้จากทูตวีระชัยยันไม่คิดว่าเป็นการสอนมวยสู้กันด้วยเหตุผล

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีที่มีการแชร์คลิปที่มีการตอบโต้กับนายวีรชัย พลาศัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายไทยสู้คดีพิพาทกรณีปราสาทเข้าพระวิหาร ระหว่างการประชุมรัฐสภา ตาม รธน.มาตรา 179 โดยมีการระบุว่าเป็นการสอนมวยนายศิริโชค โดยระบุว่า สิ่งที่นำมาเสนอ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครที่อ่านภาษาอังกฤษ และศึกษาเรื่องแผนที่ ก็ย่อมเข้าใจความเป็นไปได้ของการเสียดินแดน ตามการโยกของเส้น 1: 200,000 และเป็นการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน เพียงแต่มีความพยายามในการใช้วาทกรรม เพื่อกลบเกลื่อนความจริงเท่านั้น
         
นายศิริโชค ระบุว่า เข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของคนทำงาน และขอชื่นชมจากใจที่ทีมทนายของประเทศไทยได้สู้กันอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยต้องรับทราบความเป็นจริง และเป็นเรื่องของคนไทยที่จะต้องตัดสินใจ ที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่ ที่ผ่านมาย้ำเสมอ ผลพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร เราคงโทษใครไม่ได้ เพราะทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่วันนี้ความจริงต้องปรากฏ และรัฐบาลต้องร่วมตัดสินใจกับประชาชนอย่างโปร่งใส
         
สำหรับข้อความที่นายศิริโชคโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เป็นดังนี้
         
เมื่อรัฐบาลต้องการฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ต้องนำเอาความห่วงใย และการชี้แนะเพื่อนำเสนอให้รัฐบาลได้รับทราบ ผมจึงอยากให้พี่น้องประชาชนดูตามข้อเท็จจริงตามที่ผมได้อภิปรายในสภาฯ การที่ผมนำเอาภาพแผนที่แสดงให้เห็น เส้นแผนที่ 1 : 200, 000 ไม่ได้ส่งผลผูกพันทางกฎหมายกับประเทศแต่อย่างใด ( สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย พูดในสภาฯ ถึงขั้นบอกว่าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา) อีกทั้งก็ไม่ได้มีการระบุตำแหน่งที่ชัดเจนของเส้นว่าอยู่ตรงไหน
         
แต่เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าครั้งนี้ (11 พ.ย. 56) ศาลโลกได้พิพากษา และระบุว่าอาณาบริเวณของ promontory ( ชะง่อนผา)ว่าครอบคลุมไปถึงไหน ( ทิศใต้ จรดหน้าผา ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จรดหน้าผา ทิศตะวันออกจรดหน้าผา ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจรดตีนเขาภูมะเขือ) มีแต่ทางทิศเหนือเท่านั้นนั้นที่เป็นปัญหา เพราะต้องมีการเจรจากันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะศาลโลกบอกว่าทิศเหนือจรด เส้นแผนที่ 1: 200,000 แต่ศาลโลกไม่สามารถบอกตำแหน่งที่แท้จริงของเส้นนี้ได้ ดังนั้นการที่จะทำแผนที่เพื่อชี้ให้เห็นว่าเส้น 1:200,000 มันสามารถโยกขึ้นโยกลงอยู่ที่การเจรจา และเมื่อมีการโยกเส้นนี้ขึ้นลง ไม่ว่าจะโยกอย่างไร ประเทศไทยก็ต้องเสียพื้นที่เกินกว่ารั้วรวดหนาม ที่กั้นตามมติ ครม. เมื่อปี 2505 และผลการโยกนั้นอาจทำให้เราสูญเสียดินแดน ตั้งแต่ 170 ไร่ ไปจนถึง 1250 ไร่ ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่รัฐบาลควรให้ประชาชนรับทราบ และเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะเป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน
         
ผมไม่คิดว่ามีการสอนมวย เหมือนที่สื่อมวลชน และผู้ที่อัพโหลดคลิปนี้พยายามชี้นำ ต่างคนก็ต่างโต้กันด้วยเหตุผล ผมคิดว่าเมื่อท่านได้ดูคลิปนี้อย่างละเอียด รอบคอบ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ผมนำมาเสนอ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครที่อ่านภาษาอังกฤษ และศึกษาเรื่องแผนที่ ก็ย่อมเข้าใจความเป็นไปได้ของการเสียดินแดน ตามการโยกของเส้น 1: 200,000 และเป็นการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน เพียงแต่มีความพยายามในการใช้วาทกรรม เพื่อกลบเกลื่อนความจริง ผมเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของคนทำงานครับ และขอชื่นชมจากใจอีกครั้ง ที่ทีมทนายของประเทศไทยได้สู้กันอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยต้องรับทราบความเป็นจริง และเป็นเรื่องของคนไทยที่จะต้องตัดสินใจ ที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่ ผมย้ำเสมอ ผลพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร เราคงโทษใครไม่ได้ เพราะทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่วันนี้ความจริงต้องปรากฏ และรัฐบาลต้องร่วมตัดสินใจกับประชาชนอย่างโปร่งใส
         
ผมภูมิใจกับการทำหน้าที่ในครั้งนี้ แม้ว่าเป็นเรื่องที่ยากในการที่จะสวนกระแส แต่ก็ไม่เคยท้อแท้ เพราะผมเชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย กาลเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

ไทยไม่รับอำนาจศาลโลกคดีพระวิหารได้จริงหรือ?

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ธำรงศักดิ์"วิเคราะห์ไทยสามารถไม่รับอำนาจศาลโลกคดีตีความกรณีคำพิพากษาปราสาทพระวิหาร 1962/2505ได้จริงหรือ

นายธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ประธานหลักสูตรรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ศาลโลก กรณีตีความคำพิพากษาอาณาบริเวณ (vicinity)ปราสาทพระวิหารที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตภายใต้อธิปไตยของกัมพูชาได้ ที่ได้พิพากษาเมื่อ 11-11-2013 ไปแล้วนั้น ศาลโลกได้ใช้เวลา 20 นาทีแรกจาก 1 ชั่วโมง อ่านข้อเสนอมุมของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา และในท้ายสุด ศาลได้สรุปว่าคณะผู้พิพากษามีมติเป็นเอกฉันท์ (15+2คน) ว่าศาลมีอำนาจที่จะตีความคำพิพากษา1962/2505 ตามที่กัมพูชาร้องขอ ดังปรากฏในเอกสารคำพิพากษาเมื่อ 11-11-2013 หน้า 36 ข้อ 108 (1)

ในกรณีนี้ อาจมีบางคนรณรงค์ ว่าไทยต้องไม่รับอำนาจศาลโลกในครั้งนี้ แต่ศาลโลกได้ยืนยันการที่ยังมีอำนาจพิพากษาตีความในกรณีนี้ ซึ่งไม่ว่าจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีไทย หรือพรรคการเมืองใดมาเป็นพรรครัฐบาล ต่างมีหนทางเดียวเหมือนกันคือปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลโลก

"หากพิจารณาเชิงเปรียบเทียบ ก็เหมือนกรณีศาลรัฐธรรมนูญไทย ที่บางคนบางฝ่ายรณรงค์ว่าศาลรธน. ไม่มีอำนาจพิจารณาคดียุบพรรคการเมือง แต่ศาลรธน.ได้รับคดี และพิพากษายุบพรรคการเมืองบางพรรค หรือไม่ยุบพรรคการเมืองบางพรรค เราก็เห็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล แม้ว่าศาลดังกล่าวอาจมีประเด็นความน่าเชื่อถือก็ตาม"

สรุป ศาลโลกรับว่าตนมีอำนาจเหนือคดีเดิมนี้ ทั้งสองประเทศคู่กรณีต้องปฏิบัติตาม

u·nan·i·mous (y-nn-ms)

adj.

1. Sharing the same opinions or views; being in complete harmony or accord.

2. Based on or characterized by complete assent or agreement.

[From Latin nanimus : nus, one; see oi-no- in Indo-European roots + animus, mind; see an- in Indo-European roots.]

u·nani·mous·ly adv.

u·nani·mous·ness n..ใช้รูปนี้ประกอบได้เลยครับ

บวรศักดิ์'ชี้แผนที่1:2แสนยังไม่ถูกตีตก

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"บวรศักดิ์"แนะให้ไทยยอมรับคำพิพากษาศาลโลก ชี้ชัดแผนที่1:2แสนยังไม่ถูกตีตก เพราะถูกกำหนดเป็นแนวเขต Promontory ทางทิศเหนือ

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ได้จัดบรรยายพิเศษ เรื่อง กรณีปราสาทพระวิหาร : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ว่า จากคำพิพากษาตีความของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ต่อคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ในคดีดังกล่าว มองว่าประเทศกัมพูชาไม่ได้ชนะประเทศไทย 100% แต่ไม่ได้แปลว่าประเทศไทยไม่เสียอะไรเลย

ทั้งนี้ตามคำพิพากษาของศาลโลก ที่มีมติเอกฉันท์ตีความว่าคำพากษาของศาลโลก เมื่อปี 2505 ได้ตัดสินว่ากัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของยอดแหลมที่พุ่งขึ้นไปของเขาพระวิหาร ตามที่ระบุไว้ในคำพิพากษาย่อหน้า 98 และเป็นเหตุให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้พันธกรณีที่จะต้องถอนทหารไทย กำลังตำรวจ รปภ. หรือผู้รักษา ซึ่งเคยตั้งอยู่บนดินแดนนั้น โดยรายละเอียดของคำพิพากษาในย่อหน้า 98 ระบุชัดเจนถึงขอบเขตของยอดแหลมที่พุ่งขึ้นไปของเขาพระวิหาร หรือ"Promontory" โดยอ้างถึงเส้นแผนที่ภาคผนวก 1 ขนาด 1:2 แสน โดยเฉพาะพื้นที่ทางทิศเหนือ ที่ศาลระบุว่า บริเวณใกล้เคียงของปราสาท ต้องขยายไปจนถึงยอดแหลมของพระวิหารทั้งหมด ส่วนทิศเหนือนั้น ยอดแหลมของพระวิหาร อยู่ ณ เส้นที่อยู่บนแผนที่ภาคผนวก 1

นายบวรศักดิ์ กล่าวโดยเชื่อว่าตามคำพิพากษาของศาลโลก ส่งผลให้คู่กรณีในคดีดังกล่าวอาจยื่นเรื่องต่อศาลโลกให้มีการตีความในเรื่องของแนวเส้นใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือของปราสาท ในเรื่องของแนวสิ้นสุดตามที่ศาลกำหนดแนวเขตไว้ นอกจากนั้นแล้วในวรรคที่ 99 ที่ประเทศไทย ตีความว่าเป็นข้อกำหนดที่ศาลโลก ระบุให้ทั้ง 2 ประเทศไปเจรจากัน แต่ในข้อเท็จจริงไม่มีการระบุชัดเจนว่าให้ไปเจรจากัน แต่ได้ย้ำให้เห็นว่าศาลไม่ยอมรับการกระทำของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นจะหมายรวมถึง เส้นตามมติ ครม.ปี2505ด้วย

นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังคำพิพากษาของศาลโลก มีคนถามว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อ หลายคนบอกว่าไม่ควรยอมรับคำพิพากษาของศาล แต่ส่วนตัวมองว่าแม้คำพิพากษาศาลโลกจะไม่มีสภาพบังคับ แต่มาตรา 94 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ระบุให้คณะมนตรีความมั่นคง มีอำนาจในการกำหนดมาตรการใดตามที่เห็นสมควรหากมีผู้ยื่นเรื่องร้องขอต่อ UNSCR ได้ ดังนั้นในข้อเสนอนี้ไม่เห็นด้วย เพราะอาจจะทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากนานาชาติไทย และจะแบกหน้าไปดูโลกทั้งโลกได้อย่างไร

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน