หักรายจ่ายสองเท่าสำหรับการลงทุนในทรัพย์สิน
โดย : สุเทพ พงษ์พิทักษ์
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ด้วยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในประเทศของผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในระยะสั้นเพิ่มขึ้นรวมทั้งจะช่วย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว โดยให้นำมาถือเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จ่ายไปภายใน เวลาที่กฎหมายกำหนดตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ. 2559 จึงขอนำมาเป็นประเด็นปุจฉา – วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา การลงทุนในทรัพย์สินประเภทใดบ้างที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าทรัพย์สิน
วิสัชนา ต้องเป็นการลงทุน โดยการซื้อ เช่าซื้อ สร้าง ก่อสร้าง เป็นต้น หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับทรัพย์สินดังต่อไปนี้
(1) เครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์
(2) โปรแกรมคอมพิวเตอร์
(3) ยานพาหนะที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยยานพาหนะนั้นๆ แต่ไม่รวมถึงรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตที่มิใช่ได้มาเพื่อนำออกให้เช่า
(4) อาคารถาวร แต่ไม่รวมถึงที่ดินและอาคารถาวรที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย
ทั้งนี้ ต้องจ่ายไปตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการ ลงทุนฯ ตามประกาศอธิบดี เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 266) 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
ปุจฉา คุณลักษณะของทรัพย์สินที่จะนำมาหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่ามีอย่างไร
วิสัชนา ทรัพย์สินจะนำมาหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่า ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
(1) ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
(2) ต้องสามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องได้ทรัพย์สินนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ตามประสงค์ภายในวัน ที่ 31 ธันวาคม 2559
(3) ต้องอยู่ในราชอาณาจักร เว้นแต่ยานพาหนะตามมาตรา ๓ (๓)
(4) ไม่เป็นทรัพย์สินที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน นั้นตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
(5) ไม่เป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตาม กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่เป็นการนำไปใช้ในโครงการตามมาตรการเร่งรัดการลงทุนของคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ที่ยังไม่มีการลงทุนจริงและเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิประโยชน์นั้น
หักรายจ่ายสองเท่าสำหรับการลงทุนในทรัพย์สิน (2)
โดย : สุเทพ พงษ์พิทักษ์
ขอนำประเด็นการนำรายเพื่อการลงทุนที่สามารถ ถือเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จ่ายไปภายในเวลาที่กฎหมาย กำหนดตามพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ. 2559 มาปุจฉา-วิสัชนา ต่อจากสัปดาห์ก่อน ดังนี้
ปุจฉา มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน อย่างไร
วิสัชนา สำหรับทรัพย์สินที่เป็นเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และยานพาหนะที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยยานพาหนะนั้นๆ แต่ไม่รวมถึงรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มิใช่ได้มาเพื่อนำออกให้เช่า ต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้น แล้วแต่กรณี ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2558 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559
และสำหรับอาคารถาวร แต่ไม่รวมถึงที่ดินและอาคารถาวรที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย ต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่มีการขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตาม กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2558 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 และได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามคำขอนั้นแล้ว
ปุจฉา มีข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและระยะเวลาการหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าทรัพย์สินอย่างไร
วิสัชนา ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการลงทุนหรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายตามจำนวนที่ได้จ่ายไปจริงตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2558 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 โดยให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้น สำหรับระยะเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันตามระยะเวลาดังนี้
(1) เครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ หรือ และ ให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยสำหรับระยะเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
(2) โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยสำหรับระยะเวลาสามรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
(3) ยานพาหนะที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยยานพาหนะนั้นๆ แต่ไม่รวมถึงรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มิใช่ได้มาเพื่อนำออกให้เช่า ให้ยกเว้นสำหรับระยะเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
(4) อาคารถาวร ให้ยกเว้นสำหรับระยะเวลายี่สิบรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
หักรายจ่ายสองเท่าสำหรับการลงทุนในทรัพย์สิน (3)
โดย : สุเทพ พงษ์พิทักษ์
ขอนำประเด็นการนำรายเพื่อการลงทุนที่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จ่ายไปภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ. 2559 มาปุจฉา-วิสัชนา ต่อจากสัปดาห์ก่อน ดังนี้
ปุจฉา มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกำหนดเวลาการเริ่มใช้สิทธิหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าการลงทุนในทรัพย์สินอย่างไร
วิสัชนา ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลสองเท่าของมูลค่าการลงทุนในทรัพย์สิน โดยเริ่มใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลดังนี้
(1) กรณีทั่วไปนอกจาก (2) ให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและ ค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร
(2) กรณีที่นำทรัพย์สินตามข้อ 1 ไปใช้ในโครงการที่มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการเร่งรัดการลงทุนของ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่ง เสริมการลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนจริงและเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิประโยชน์นั้น ให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีถัดจากรอบระยะเวลาบัญชีที่ สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนสิ้น สุดลง โดยถือเสมือนเป็นการใช้สิทธิยกเว้นเช่นเดียวกับกรณี (1) และให้ถือว่าการเริ่มใช้สิทธิยกเว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าว เป็นการเริ่มใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแทนการเริ่มต้นใช้สิทธิยก เว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของ ทรัพย์สินตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร
ปุจฉา มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำรายงานแสดงรายละเอียดของทรัพย์สินเพื่อการลง ทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน ที่ใช้สิทธิหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าการลงทุนในทรัพย์สิน อย่างไร
วิสัชนา ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าการลงทุนในทรัพย์สิน ต้องจัดทำรายงานแสดงรายละเอียดของทรัพย์สินที่ใช้สิทธิยกเว้นนั้น โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อย ตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ และเก็บรักษารายงานดังกล่าว รวมทั้งเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานไว้ ณ สถานประกอบการ พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
ทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องมีอยู่ในทะเบียนทรัพย์สินของบริษัทหรือห้างหุ้น ส่วนนิติบุคคลหรือเอกสารอื่นใดในทำนองเดียวกันที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลได้จัดทำขึ้น
ปุจฉา กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้โดยหัก เป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าการลงทุนในทรัพย์สินตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 604) พ.ศ. 2559 แล้ว ต่อมาไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะมีผลอย่างไร
วิสัชนา กรณีเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้สิทธิที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกานี้สิ้นสุดลง และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นจะต้องนำเงินได้ที่ได้ใช้สิทธิยก เว้นภาษีเงินได้ไปแล้วไปรวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงิน ได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธินั้น เว้นแต่กรณีที่มีการขายทรัพย์สินหรือทรัพย์สินถูกทำลายหรือสูญหายหรือสิ้น สภาพ ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นั้นสิ้นสุดลงนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ขาย ทรัพย์สินหรือทรัพย์สินนั้นถูกทำลายหรือสูญหายหรือสิ้นสภาพ แล้วแต่กรณี โดยไม่ต้องนำเงินได้ที่ได้รับจากการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ที่ได้รับแล้ว ไปรวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิอีก
หักรายจ่ายสองเท่าสำหรับการลงทุนในทรัพย์สิน
โดย : สุเทพ พงษ์พิทักษ์
ขอนำประเด็นปัญหาการนำรายเพื่อการลงทุนที่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จ่ายไปภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ. 2559 มาปุจฉา-วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 266) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่จ่ายเพื่อการลงทุนหรือต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินแต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม เรียนสอบถามอาจารย์ สาระสำคัญของทรัพย์สินดังประกาศคือ ต้องเกิดจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงที่กระทำตั้งแต่ 3 พ.ย. 2558-31 ธ.ค. 2559 เท่านั้นหรือไม่
1. กรณีบริษัทฯ เปิดใบสั่งซื้อโต๊ะ วันที่ 1 พ.ย. 2558 แต่ได้โต๊ะในวันที่ 5 พ.ย. 2558 สามารถได้สิทธิประโยชน์ของประกาศฉบับนี้หรือไม่
2. บริษัทมีเครื่องจักรระหว่างติดตั้ง โดยทำสัญญาซื้อเครื่องจักร วันที่ 1 พ.ย. 2558 มีระยะเวลาติดตั้งและ test run ระบบ 90 วัน วันที่ 1 ก.พ. 2559 บริษัทเริ่มใช้งานเครื่องจักร จึงมีการโอนปิดงานระหว่างติดตั้งเข้าเป็นทรัพย์สินเพื่อคิดคำนวณค่าเสื่อม ราคา บริษัทจะได้สิทธิประโยชน์ประกาศฉบับนี้หรือไม่
3. บริษัทประกอบอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ 1 เครื่อง โดยประกอบไปด้วย เครื่องมือ และอะไหล่ เป็นส่วนประกอบ โดยเครื่องมือบริษัทสั่งซื้อจากsupplier ในวันที่ 1 มี.ค. 2559 และเบิกอะไหล่ spare part ใน stock ของบริษัทเพื่อมาประกอบอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ดังกล่าว รายการอะไหล่ spare part เป็น stock เก่าของบริษัทฯ บริษัทฯจะได้สิทธิประโยชน์ประกาศฉบับนี้หรือไม่
มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกำหนดเวลาการเริ่มใช้สิทธิหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของมูลค่าการลงทุนในทรัพย์สินอย่างไร
วิสัชนา สาระสำคัญของทรัพย์สินตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับดังกล่าว คือ ต้องมีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นระหว่าง 3 พ.ย. 2558-31 ธ.ค. 2559 เท่านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 604) และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 266)
1. สำหรับทรัพย์สินที่เป็นเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และยานพาหนะที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยยานพาหนะนั้นๆ แต่ไม่รวมถึงรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มิใช่ได้มาเพื่อนำออกให้เช่า ต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้น แล้วแต่กรณี
2. สำหรับอาคารถาวร แต่ไม่รวมถึงที่ดินและอาคารถาวรที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย ต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่มีการขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตาม กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามคำขอนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว แล้ว
3. การจ่ายเงิน และ
4. การเริ่มต้นคำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา
ดังนั้น กรณีตามคำถามข้อ 1 และข้อ 2 บริษัทไม่สามารถได้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายดังกล่าว เพราะบริษัทได้ทำสัญญาซื้อเครื่องจักรก่อนวันที่ 3 พ.ย. 2558 สำหรับรายการอะไหล่ spare parts เป็น stock เก่าของบริษัทย่อมไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายดังกล่าว เพราะบริษัทได้ spare parts มาก่อนวันที่ 3 พ.ย. 2558
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน