จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
ขอนำประเด็นการแก้ไขอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 603) พ.ศ. 2559 ยกเลิกความใน มาปุจฉา - วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม ที่จะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล อย่างไร
วิสัชนา หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม ที่จะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดังต่อไปนี้
1. “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อม” ในที่นี้ หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบ ระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาทและมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ ในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท ทั้งนี้ โดยมีขนาดของทุนและรายได้ตามจำนวนดังกล่าว ติดต่อต่อเนื่องกันมานับตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีปี 2555 เป็นต้นมา
เหตุที่นำหลักเกณฑ์ “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อม” มาใช้ก็เพราะหากในรอบระยะเวลาบัญชีใดกิจการมีรายได้หรือทุนจดทะเบียนชำระ แล้วไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว กิจการนั้นก็ย่อมสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้ นิติบุคคลลงทันทีในรอบระยะเวลานั้น
2. ให้ลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อม” และคงจัดเก็บในอัตราดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ให้คงจัดเก็บในอัตราดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละสิบของกำไรสุทธิ เฉพาะส่วนที่เกินสามแสนบาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
(2) ร้อยละสิบห้าของกำไรสุทธิ เฉพาะส่วนที่เกินสามแสนบาท แต่ไม่เกินสามล้านบาทและร้อยละยี่สิบของกำไรสุทธิ สำหรับกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เกินสามล้านบาทขึ้นไป สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป
3. อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อม ซึ่งได้ยื่นแบบแจ้งขอเป็นผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยการยกเว้นและสนับสนุน การปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรต่อกรมสรรพากรนั้น นอกจากจะได้รับการยกเว้นการตรวจสอบ ไต่สวนฯ แล้ว ยังได้รับยกเว้นและลดอัตราภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558 ดังนี้
(1) ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาทแรก สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2560 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2560
(2) ได้รับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เกิน 300,000 บาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน