จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย ชลาทิพย์ ถิรสุนทรากุล

ตัวเลขเศรษฐกิจไทยหลังจบไตร มาส 2 ออกมาเชิงบวกในแนวมีความหวัง จะมีที่น่าห่วงคือภาคส่งออก วัดจากสถิติตัวเลขจีดีพีซึ่งเป็นรูปธรรมที่เอามาชี้วัด

ประเทศไทยปีนี้สองไตรมาสแรกพอถูไถ แถมออกมาแบบที่ผงกหัวขึ้นดีกว่าที่คาดไว้บ้าง พอดีขึ้นมาหน่อยก็ใจชื้นกันไป แต่ใครจะไปประมาทพูดถึงตัวเลขจีดีพี นักเศรษฐศาสตร์โนเบลอย่าง "พอล ครุกแมน" เคยบอกไว้แบบตลกร้ายว่า ตัวเลขสถิติทางเศรษฐกิจเป็นสาขาหนึ่งของนิยายวิทยาศาสตร์

(มีคำอธิบายจากครุกแมนว่า หลักการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงมาจากการประเมินค่าทุก ๆ อย่างที่เศรษฐกิจผลิตออกมาตามราคา ณ ปีที่ใช้เป็นฐาน แต่ไม่มีสำนักงานสถิติใดจะเก็บสถิติทุกสิ่งทุกอย่างที่ผลิตได้จริง ๆ

ดังนั้น การประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจจริง ๆ จึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งซึ่งรวบรวมมาอย่างลวก ๆ มากมาย กล่าวคือ การปัดทิ้ง การประมาณการซึ่งอาจจะทำได้ดีหรือไม่ดีก็ได้)

พลันที่จบไตรมาส 2 กันแล้ว ผ่านการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมาได้ครึ่งปีแล้ว แต่ละประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเป็นอย่างไรกันบ้าง ไล่เรียงดูแต่ละประเทศทรง ๆ คล้ายไทย คือกลับมาสู่การเติบโตแต่มีเมฆหมอกอึมครึมข้างหน้า เช่น ไต้หวัน จะมีที่ชะลอตัวจากคาดการณ์ของเขาเอง คือ มาเลเซีย

ส่วน สิงคโปร์ ไตรมาส 2 เศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าที่คาด สำหรับ เวียดนาม เป้าที่เขาตั้งไว้ตอนนี้ยังช้าไปกว่าเป้าของตัวเอง 2 ปี

ส่วนที่โตมากหน่อยในภูมิภาค คือ ฟิลิปปินส์ ตามมาด้วย ฮ่องกง ที่โตขึ้นเล็กน้อย

สำหรับไทยอย่างที่เกริ่นไว้ ตัวเลขขยับดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่หากเฉพาะเรื่องส่งออกที่ทรุดสุดนั้น นอกจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อตลาดส่งออกเรา ด้านหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคธุรกิจส่งออกเจออุปสรรคใหญ่จากบริบทโลกที่ค่อย ๆ เปลี่ยนให้ทำมาค้าขายแบบส่งออกเดิม ๆ ไม่ได้

สถิติมูลค่าการส่งออกของเราติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สาม เม็ดเงินหายไปขนาดมูลค่าการค้าลดลง แลดูเป็นวัฏจักรปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ของโลก ทางออกหนึ่งในนั้นคือสร้าง "สินค้านวัตกรรม" แทนที่การส่งออกแบบเดิม ๆ

ทุกวันนี้จึงมีการพยายามหาช่องทางปรับเปลี่ยนสินค้าส่งออกไปสู่รูป แบบสินค้านวัตกรรมเพื่อรองรับตลาดส่งออกในอนาคตและต้องพยายามกันอย่างหนัก เพราะรายเล็กรายกลางยังพัฒนาสินค้านวัตกรรมได้ไม่มาก หลายประเภทสินค้าไม่ดึงดูดในระดับแพร่หลาย ยังเห็นการใช้เทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์กับสินค้าได้ไม่มาก และส่วนใหญ่ขยับไปในเรื่องแปรรูปสินค้าทั่วไปเท่านั้น

แต่โจทย์คือจะสร้างให้ออกมาเป็นธุรกิจที่มี "ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมของสินค้า" ได้อย่างไร

วันนี้นายกรัฐมนตรี คนในรัฐบาล พูดกันเรื่องไทยแลนด์ 4.0 แบบกรอกหู ถึงตรงนี้หลายคนตั้งตารอเห็นธุรกิจเทคโนโลยี อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ปัง ๆ ออกมา...แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว

พูดถึงตรงนี้อยากเห็นเรื่องต่อยอดกรณีเด็กไทยเราเก่งเรื่องสร้างหุ่นยนต์ไปคว้าแชมป์แข่งขันระดับนานาชาติมาหลายปี หากจะพัฒนาหุ่นยนต์ในมูลค่าเชิงธุรกิจก็น่าสนใจ เพราะเทรนด์สร้างหุ่นยนต์มาทำงานแทนมนุษย์เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ของโลก โดยเฉพาะหุ่นยนต์ภาคบริการ ภาคการผลิต

พอคิดเรื่องนี้ได้ลองเข้าไปหาข้อมูลว่าไทยเรามีสินค้านวัตกรรมอะไรออกมาบ้าง เข้าไปส่องดูเว็บไซต์ทางการนวัตกรรมไทย พบเจอแต่ความจืดชืด ข้อมูลน้อย คลิกดูบัญชีนวัตกรรมว่ามีอะไรก็ยังดูไม่ได้

นวัตกรรม...นิ่งสงัดจริง ๆ

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน