สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ศาลปกครองพิพากษาเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออก อดีตปลัดฯ กทม. ชี้เป็นคำสั่งไม่ชอบ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       อดีตปลัด กทม. “ประเสริฐ สมะลาภา” เฮ ศาล ปค. สั่งเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการของ กทม. จากเหตุซื้อที่ดินตาบอดบางซื่อ เพื่อไว้จอดรถขยะ ชี้เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วย กม. ระบุ ที่ดินไม่ได้แพงเกินจริง การจัดซื้อเป็นไปตามมติคณะผู้บริหาร กทม. ไม่ใช่ใช้อำนาจสั่งการโดยอำเภอใจ
       
       วันนี้ (22 ก.ย.) ศาลปกครองกลางมี คำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ 3811/2551 ลงวันที่ 15 ส.ค. 51 ลงโทษทางวินัยไล่ นายประเสริฐ สมะลาภา อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร ออกจากราชการ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ รมว.มท. ที่เห็นชอบตามมติคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ให้ปลด นายประเสริฐ ออกจากราชการ และคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 5199/2559 เรื่อง ลดโทษข้าราชการลงวันที่ 9 ธ.ค. 52 ที่ลงโทษปลดนายประเสริฐ ออกจากราชการ จากเหตุถูกถูก ป.ป.ช. ชี้มูลว่า กระทำผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ กรณีจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่จอดรถขยะกรุงเทพมหานคร ในเขตบางซื่อ แพงเกินจริง เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะออกบนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีอยู่จริง นายประเสริฐ ไม่ได้กระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามฐานความผิดมาตราต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในคำสั่งลงโทษ
       
       ส่วนเหตุที่ศาลเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่นายประเสริฐ ออกจากราชการนั้น ระบุว่า จากพยานหลักฐานข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การดำเนินการจัดซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 69706-69720 เลขที่ 2835 และ เลขที่ 2852 รวม 17 โฉนด พร้อมสิ่งปลูกสร้างจากนายสุพจน์ - นางสุณี มโนมัยพันธุ์ ไม่ได้เกิดจากการริเริ่ม หรือใช้อำนาจสั่งการโดยอำเภอใจของนายประเสริฐ แต่เป็นการดำเนินการตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม. และมติคณะผู้บริหาร กทม. แม้ในชั้นแรกหลังจากมีผู้เสนอขายที่ดินตามประกาศฯ ผอ.เขตบางซื่อ ได้มีหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ขอทราบผลการประเมินราคาซื้อขายปัจจุบัน ที่ดินรวม 15 โฉนด โดยไม่ได้สอบถามรายละเอียดดังกล่าวของที่ดิน 2 แปลง โฉนดเลขที่ 2835 และ โฉนดเลขที่ 2852 และต่อมาแม้ ผอ.เขตบางซื่อ ได้มีบันทึกข้อความถึงนายประเสริฐว่า ที่ดินราย นายสุพจน์ มีความเหมาะสม ที่ กทม. จะซื้อไว้ โดยเป็นการเสนอความเห็นทั้งที่ยังไม่ได้มีการสอบถามราคาประเมินครบทุกแปลง และนายประเสริฐ ไม่ได้ทักท้วงอาจจะถือว่านายประเสริฐบกพร่องอยู่บ้าง
       
       แต่ก็ไม่ปรากฏจากพยานหลักฐาน ว่า นายประเสริฐ มีส่วนร่วมรู้เห็น สั่งการให้มีการสอบถามราคาประเมินเฉพาะที่ดินเพียงจำนวน 15 โฉนด และเห็นชอบกับความเห็นหรือข้อเสนอของผู้อำนวยการเขตบางซื่อ ตามบันทึกข้อความดังกล่าว ที่นายประเสริฐเกษียณท้ายบันทึกดังกล่าว ว่า ให้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมในการจัดซื้อ เช่าที่ดิน และอาคารเพื่อประโยชน์ของทางราชการกรุงเทพมหานคร (กซช.) พิจารณาก็เป็นการปฏิบัติตามจารีตประเพณี หรือแนวทางการปฏิบัติราชการของ กทม. ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เกี่ยวกับการจัดซื้อที่ดิน หรือตามนโยบายของ กทม. และคำสั่งของผู้ว่าฯ กทม. โดยถูกต้องตามมาตรา 64 พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2538 แล้ว การไม่ทักท้วง จึงยังไม่ถึงขั้นจะรับฟังได้ว่าเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่าง ชัดแจ้ง และเมื่อ กซช. ที่มีมติว่าเห็นควรจัดซื้อที่ดินของรายนายสุพจน์ - นางสุณี มโนมัยพันธุ์ โดยผู้ฟ้องคดีไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย จึงไม่อาจฟังได้ว่านายประเสริฐ มีส่วนร่วมกับ ผอ.เขตบางซื่อ ในการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมีส่วนร่วมในการตัดสินกับคณะตรวจสอบที่ดินหรืออาคาร ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดซื้อหรือเช่าเพื่อประโยชน์ของทางราชการกรุงเทพมหานคร (ตซช.) และ กซช. ในการมีมติเห็นควรจัดซื้อที่ดินจากรายนายสุพจน์ - นางสุณี มโนมัยพันธุ์
       
       ส่วนกรณีที่ไม่มีการเรียกบริษัท วินโล จำกัด ผู้เสนอขายที่ดินอีกรายไปเจรจาต่อรองนั้น เมื่อ ตซช. พิจารณาเห็นว่า ที่ดินของบริษัท วินโล จำกัด เป็นที่ดินเปล่าที่ยังไม่มีการถมดิน บริเวณมีบ้านพักอาศัยหนาแน่น ทางเข้าออกคับแคบกว้าง 6 เมตร อาจมีปัญหาในการนำรถใหญ่เข้าออก ขณะที่ดินรายนายสุพจน์ - นางสุณี ไม่ต้องถมดิน บางส่วนเป็นลานคอนกรีตเสริมเหล็ก ทางเข้าออกกว้าง 8 เมตร เป็นการขายพร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ กทม. สามารถปรับปรุงใช้สอยเพื่อประโยชน์ได้ จึงเสนอความเห็นว่าควรจัดซื้อที่ดินรายนายสุพจน์ - นางสุณี ที่มีความเหมาะสมเป็นประโยชน์แก่ กทม. มากกว่า
       
       โดย กซช. พิจารณาแล้วมีมติเห็นด้วย ซึ่งตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ พ.ศ. 2538 ข้อ 20 วรรคสอง และข้อ 53 (2) และ (6) สามารถเชิญเจ้าของที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้างมาเสนอราคาโดยตรงเพียงรายเดียว ได้ หากต่อรองแล้วราคายังสูงอยู่ก็สามารถเชิญเจ้าของที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้าง รายอื่น ๆ มาเสนอราคาและต่อรองราคาได้จนกว่าจะเป็นที่พอใจ
       
       การที่มีผู้เสนอขายที่ดินตามประกาศ จำนวน 2 ราย ทั้งที่สามารถเรียกเพียงรายใดรายหนึ่งมาเสนอราคาและต่อรองราคาได้นั้น ก็เป็นการดำเนินการในชั้นก่อนถึงการพิจารณาจัดซื้อโดยคณะกรรมการจัดซื้อโดย วิธีพิเศษ เพื่อหาผู้เสนอราคาที่จะเป็นประโยชน์มากที่สุดแก่ กทม. ก่อนที่จะได้มีการเจรจาต่อรองราคาต่อไปจากคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษใน ชั้นหลังต่อไป เมื่อ ตซช. และ กซช. เห็นว่า ที่ดินที่นายสุพจน์ - นางสุณี มโนมัยพันธุ์ เสนอขายเหมาะสมกว่า และราคาถูกกว่าที่ดินของรายบริษัท วินโล จำกัด การที่มีการเรียกนายสุพจน์ - นางสุณี มโนมัยพันธุ์ มาเจรจาต่อรองราคาเพียงรายเดียว จึงไม่อาจฟังได้ว่า กรณีนี้เป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ พ.ศ. 2538 ในเรื่องการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษได้ และไม่มีผลทำให้การไม่ทักท้วงของนายประเสริฐในเรื่องนี้ เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ถูกต้อง
       
       อีกทั้ง ตามประกาศสำนักงานเขตบางซื่อเรื่องขอซื้อที่ดินเพื่อจัดทำเป็นที่จอดรถของ ทางราชการ ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ไร่ และมีทางเข้าออกสะดวก หาได้ระบุว่าต้องถึงขนาดเป็นทางสาธารณประโยชน์ไม่ และจากถ้อยคำของพยานบุคคลหลายปาก ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นที่ชัดแจ้งว่า ประชาชนและบริษัทผู้ประกอบกิจการได้มีการใช้ซอยเรียงปรีชา เป็นทางเข้า - ออก มาโดยตลอด โดยกรรมการ กซช. และกรรมการ ตชซ. พร้อมกับ ผอ.เขตบางซื่อ ได้ไปลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน และเห็นว่า ที่ดินมีทางเข้าออก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทักท้วงว่าที่ดินที่จะซื้อมีทางภาระจำยอมหรือ ไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลแพ่ง ว่า ซอยเรียงปรีชา เป็นภาระจำยอมของที่ดิน นายสุพจน์ ที่เสนอขาย และโดยที่ที่ดินทั้ง 17 โฉนด มีอาณาเขตติดต่อกัน จึงรับฟังไม่ได้ว่า ที่ดินที่นายสุพจน์ - นางสุณี เสนอขาย ไม่มีทางเข้า - ออก ตามประกาศขอซื้อที่ดินของสำนักงานเขตบางซื่อแต่ประการใด
       
       ส่วนการดำเนินการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวแพงเกินจริงและไม่สามารถใช้ ประโยชน์ในที่ดินได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เห็นว่า ราคาประเมินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขานนทบุรี เฉลี่ยตารางวาละ 62,000 - 65,000 บาท จากธนาคารมหาชน สาขาถนนประชาราษฎร์ ตารางวาละ 62,500 บาท โดยเป็นราคาเฉลี่ยทั้ง 17 แปลง จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตารางวาละ 60,000 บาท โดยเป็นการประเมินที่ดินจำนวน 15 แปลง อีกทั้งราคาประเมินของที่ดินข้างเคียงระยะห่าง 1 กิโลเมตร ตารางวาละ 62,580 บาท 41,000 บาท และ 40,000 บาท ดังนั้น ราคาที่ กทม. จัดซื้อมาในราคาตารางวาละไม่เกิน 59,700 บาท จึงเห็นว่าเป็นราคาที่ไม่ได้สูงหรือแพงกว่าราคาซื้อขายในท้องตลาด ถือไม่ได้ว่าเป็นราคาที่แพงเกินไป
       
       และศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษา ยืนให้เพิกถอนคำสั่ง กทม. ที่สั่งให้นายประเสริฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ กทม. เพราะฟังได้ว่า การจัดซื้อเป็นราคาที่เหมาะสมกับสภาพที่ตั้งและราคาท้องตลาด เมื่อรวมราคาสิ่งปลูกสร้างในที่ดินพิพาท มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่าที่ได้จ่ายเงินไป ทั้งปรากฏว่า กทม. ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามวัตถุประสงค์แล้ว


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ศาลปกครองพิพากษา เพิกถอนคำสั่ง ลงโทษไล่ออก อดีตปลัดฯ กทม. เป็นคำสั่งไม่ชอบ

view