จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ เอชอาร์คอร์เนอร์ โดย ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ http://tamrongsakk.blogspot.com

"เพื่อนฝากผมมาให้ถามอาจารย์ว่า เขาถูกหัวหน้าปฏิบัติไม่ดีกับเขามาก ๆ ถ้าเขาจะลาออกโดยไม่ยื่นใบลาออก คือวันพรุ่งนี้เขาจะไม่ไปทำงานที่บริษัทนั้นอีกต่อไปได้ไหมครับ"

เรื่องที่ผมคิดว่าคนที่เป็นหัวหน้าหรือHRจะพบเจออยู่ในปัจจุบันก็คือการที่พนักงานลาออกไปโดยไม่ยื่นใบลาออกแต่จะใช้วิธีหายไปเฉยๆ ไม่บอกกล่าวอะไร โดยเฉพาะพนักงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่บางคน เมื่อทำงานไปแล้วไม่ชอบงานที่ทำก็หายจ้อยไปเฉย ๆ โดยไม่เขียนใบลาออกซะงั้น ทั้ง ๆ ที่ทุกบริษัทจะมีกฎระเบียบเรื่องการลาออกคล้าย ๆ กัน คือ หากพนักงานที่อยากจะลาออกต้องยื่นใบลาออกล่วงหน้า 30 วัน

Back to the basic เราลองกลับมาดูเรื่องของการลาออกในกฎหมายแรงงานกันก่อนดีไหมครับ ?

ผมขอยกบางส่วนของมาตรา 17 เฉพาะในส่วนของการลาออกมาดังนี้ครับ

"มาตรา 17 สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ในกรณีที่สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกิน 3 เดือน..."

จากมาตรา 17 ข้างต้นอธิบายภาษาชาวบ้าน คือ

1.สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา หมายถึงสัญญาจ้างพนักงานประจำนั่นแหละครับ

2.ถ้าพนักงานจะลาออก ควรจะต้องทำเป็นหนังสือแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้า แต่ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าเกิน 3 เดือน ซึ่งปกติทั่วไปบริษัทต่าง ๆ มักจะมีระเบียบเรื่องการลาออกคือให้พนักงานยื่นใบลาออกล่วงหน้า 30 วัน หรือ 1 เดือน ซึ่งก็ถือว่ายังอยู่ในระยะเวลาตามมาตรา 17 ครับ

เอาละครับ...เมื่อทราบหลักของกฎหมายแรงงานแล้ว เราเอาหลักกฎหมายเข้ามาจับกับการปฏิบัติในเรื่องนี้ได้แล้วนะครับ นั่นคือถ้าพนักงานที่อยากจะลาออกทำตัวเป็นนินจาหายไปเฉย ๆ แล้ว ไม่ยื่นใบลาออกโดยแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้า ถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรา 17 เพราะอยู่ดี ๆ ไม่มาทำงาน แม้บางคนจะบอกว่า "ก็บอกหัวหน้าแล้วนี่ว่าจะลาออกก็น่าจะพอแล้ว"

แต่พูดแล้วไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรมายืนยันกับบริษัทว่าต้องการจะลาออกนี่ครับ

ผมสมมุติว่าวันนี้พนักงานบอกหัวหน้าว่าจะลาออกแต่พอวันรุ่งขึ้นกลับมาบอกหัวหน้าว่าเปลี่ยนใจไม่ลาออกแล้วอย่างนี้บริษัทจะไปบอกว่าไม่ให้เข้าทำงานอีกต่อไปเพราะถือว่าบอกลาออกแล้วตั้งแต่เมื่อวานถ้าบริษัททำอย่างนี้จะกลายเป็นการเลิกจ้างไม่ใช่การลาออกนะครับเพราะบริษัทไม่มีหลักฐานอะไรไปแสดงให้ศาลแรงงานเห็นนี่ครับว่าพนักงานประสงค์จะลาออก

ดังนั้นถ้าพนักงานจะลาออกไม่บอกไม่กล่าวแถมไม่ยื่นใบลาออกแล้วหายไปเฉย ๆ นี่บริษัทอาจจะถือว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม โดยไม่มีเหตุอันสมควรตามมาตรา 119 ของกฎหมายแรงงาน

ซึ่งบริษัทสามารถเลิกจ้างพนักงานรายนี้ได้ เนื่องจากทำความผิด ซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 119 และที่สำคัญคือหากบริษัทเลิกจ้างในความผิดนี้บริษัทไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น

แถมพนักงานยังเสียประวัติอีกต่างหาก เพราะถ้าจะไปสมัครงานที่บริษัทแห่งใหม่ เขามักจะมีคำถามตรงข้างท้ายใบสมัครงานว่าพ้นสภาพจากที่บริษัทเดิมเพราะสาเหตุใด ต้องตอบไปตามตรงว่า "ถูกเลิกจ้าง" ไม่ใช่การลาออกตามปกติ

จึงสรุปตรงนี้ได้ว่า "การลาออกโดยไม่ยื่นใบลาออกแล้วหายไปเฉย ๆ อาจเป็นสาเหตุให้ถูกบริษัทเลิกจ้างได้เพราะขาดงาน 3 วันทำงานติดต่อกันขึ้นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร" ครับ

คราวนี้ท่านที่คิดจะลาออกคงจะทราบแล้วนะครับว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ถึงแม้หัวหน้าหรือบริษัทจะมีพฤติกรรมไม่ดีกับเรา ยังไงผมก็ยังเห็นว่าควรลาออกโดยยื่นใบลาออกให้ถูกต้องอย่างมืออาชีพจะดีกว่านะครับ

ทำให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับตัวเราเองในภายหลังจะดีกว่านะครับ

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน