จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
โดย โรม บุนนาค
|
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท |
|
|
“ฝรั่งใส่ชฎา” เป็นสมญาของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปในสมัยนั้น เพราะสร้างขึ้นในยุคที่นิยมศิลปกรรมตะวันตก แต่ก็ต้องเปลี่ยนแบบเมื่อสร้างไปแล้ว เพื่อรักษาธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่ดั้งเดิม ตามคำที่ผู้ใหญ่ของแผ่นดินทักท้วง จึงมีลักษณะที่ผสมศิลปกรรมยุโรปกับไทยอย่างเด่นชัดแบบแยกส่วนกัน ทำให้คนที่เห็นวิจารณ์กันว่า “เหมือนฝรั่งใส่ชฎา” ทั้งนี้ในปี ๒๔๑๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะสร้างพระที่นั่งขึ้นอีกองค์หนึ่งในพระบรมมหาราชวัง เพื่อใช้เป็นท้องพระโรง และโปรดเกล้าฯให้นายจอห์น คลูนิช สถาปนิกชาวอังกฤษจากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบจวนผู้สำเร็จราชการสิงคโปร์ เป็นผู้ออกแบบ เพื่อให้เป็นศิลปกรรมตะวันตกที่กำลังนิยมในยุคนั้น พระที่นั่งหลังใหม่นี้จะเป็นตึก ๓ ชั้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยพระนางวิคตอเรีย หลังคาเป็นโดมทรงกลม ๓ องค์เรียงกัน แต่พอสร้างขึ้นไปได้ถึงชั้นที่ ๒ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ซึ่งพ้นตำแหน่งผู้สำเร็จราชการไปแล้ว ได้กราบทูลถวายความเห็นว่า ไม่ควรเป็นแบบฝรั่งทั้งหมด ควรจะเป็นปราสาทเหมือนกรุงศรีอยุธยา และทุกรัชกาลตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯเป็นต้นมา ก็ทรงสร้างปราสาทมาแล้วทุกรัชกาล ถือเป็นการเฉลิมพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเห็นชอบด้วย โปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนเฉพาะหลังคาที่เป็นโดมกลมมาเป็นยอดปราสาททั้ง ๓ องค์ ตามอัธยาศัยของสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งทรงถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของแผ่นดิน และพระราชทานนามว่า “พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท” สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์นั้น ถือกันว่าท่านเป็นคนรุ่นใหม่ในรัชกาลที่ ๔ อยู่ในกลุ่มคนไทยกลุ่มแรกที่เรียนภาษาอังกฤษ และมีหน้าที่ต้อนรับและเจรจากับทูตต่างประเทศมาตลอด ท่านจึงเป็นคนทันสมัยในยุคที่เมืองไทยเปิดประตูรับอารยธรรมตะวันตกอย่างเต็มที่ ในตอนนั้นแวดวงสังคมชั้นสูงดูจะหายใจเข้าหายใจออกเป็นฝรั่งไปกันหมด จะเห็นได้จากสถาปัตยกรรมเปลี่ยนรูปแบบจากไทยแท้ดั้งเดิม มาเป็นแบบผสมผสานตะวันตก ส่วนเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับภายในก็นิยมสั่งมาจากยุโรป วันหนึ่ง มีฝรั่งไปขอพบสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ขณะเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินสมัยต้นรัชกาลที่ ๕ เอาแคตตาล็อกโคมระย้าที่เรียกว่าแชนเดอเลียร์ไปเสนอท่าน บอกว่าโคมระย้าเหล่านี้เป็นแบบพิเศษที่ผู้มีอำนาจวาสนา มียศถาบรรดาศักดิ์สูงของยุโรปนิยมใช้ประดับคฤหาสน์ โดยแขวนบนเพดาน จะดูโอ่อ่าสง่างามมาก ซึ่งนับว่าเหมาะสมกับท่านเป็นอย่างยิ่ง สมเด็จเจ้าพระยาพิจารณาดูรูปโคมระย้านั้นแล้วก็ถูกใจ ทำด้วยแก้วเจียระไนห้อยเป็นพวงระย้าดูสวยงาม เมื่อต้องแสงไฟของโคมก็จะเป็นประกายแวววามแพรวพราวยังกับพวงเพชร ท่านจึงเลือกสั่งไปโคมหนึ่ง คอยอยู่หลายเดือน โคมระย้าจากยุโรปก็มาถึง และขนทางเรือไปถึงหน้าบ้านท่านที่เป็นโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ปากคลองสานในขณะนี้ แต่พอเห็นขนาดของโคม สมเด็จเจ้าพระยาก็ต้องตะลึง เพราะขนาดของมันใหญ่โตมโหฬารมาก อย่าว่าจะเอาเข้าตัวบ้านเลย แม้แต่ประตูรั้วก็เข้าไม่ได้ ครั้นจะรื้อรั้วรื้อฝาบ้านเอาเข้าไป ความยาวของมันก็คงต้องห้อยจากเพดานลงมาติดพื้นแน่ เพราะบ้านท่านไม่ได้สร้างเป็นปราสาทแบบยุโรป อีกทั้งเพดานบ้านก็คงรับน้ำหนักไม่ไหว ในที่สุดท่านก็เลยต้องสั่งให้ปลูกเพิงมุงจากไว้ริมคลอง เอาซุงปักเป็นเสารับคานไม้ซุงเช่นกัน แขวนโคมระย้าอันงามเลิศเกินกว่าเหตุไว้ตรงนั้น มองไม่เห็นทางว่าจะเอาไปใช้ที่ไหนได้ โคมระย้าชั้นนำของยุโรปจึงต้องแขวนไว้ในเพิงหลังคาจากริมคลองอยู่หลายปี เมื่อตอนที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทก่อสร้างใกล้เสร็จ ซึ่งสมเด็จเจ้าพระยาได้พ้นตำแหน่งผู้สำเร็จราชการไปแล้ว ได้ไปเยี่ยมชมพระที่นั่งหลังใหม่ พอเข้าไปดูภายในห้องที่จะใช้เป็นท้องพระโรงเสด็จออกรับบรรดาทูตานุทูตและราชอาคันตุกะจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นห้องที่กว้างใหญ่ ครั้นแหงนหน้าดูเพดานซึ่งอยู่สูง ท่านก็นึกถึงโคมระย้าที่เพิงหลังคาจากริมตลิ่งหน้าบ้านท่านทันที น่าจะเหมาะสมกับห้องนี้เป็นอย่างมาก ฉะนั้นพอพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทสร้างเสร็จ ท่านก็ให้คนหามโคมระย้านั้นนำมาทูลเกล้าฯถวาย โคมระย้าของยุโรปที่ใหญ่โตมโหฬารเกินกว่าจะคู่ควรกับบ้านของท่าน จึงเหมาะสมกับท้องพระโรงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทมาจนทุกวันนี้
|
|
โคมระย้าในท้องพระโรงพระที่นั่งจักรีฯ |
|
|
|
|
พระที่นั่งจักรีฯเคยเป็นตราประจำจังหวัดเมื่อครั้งกรุงเทพมหานครยังเป็นจังหวัดพระนคร |
|
|
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน