จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
พระเมตตาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มิได้มีเพียงแต่กับราษฎรของพระองค์เท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ไปยังสัตว์โลก เพราะตั้งแต่สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิด ทั้ง สุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง หรือแม้แต่งูก็เคยเลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข พระองค์ท่านทรงเลี้ยงมากถึง 70 ตัว
พระเมตตาสัตว์โลกคู่พระบารมี
ในหลวง ร.๙ ทรงมีความเมตตาและได้อุปถัมภ์เลี้ยงดูสัตว์ต่างๆ มากมาย ทั้งสุนัข แมว ลิง และ ช้าง แล้ว พระองค์ท่านยังเคยได้ทรงเลี้ยง กระต่าย ไก่ นกขุนทอง และ งู
ดังเช่น คุณติโต แมวพันธุ์วิเชียรมาศเพศผู้ ที่พระองค์เคยทรงเลี้ยงอยู่ที่ พระตำหนักโลซาน เมื่อครั้งที่ทรงเสด็จไปศึกษาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประมาณปี พ.ศ. 2478
คุณติโต มีตาสีฟ้า ขนสีน้ำตาลเข้ม แต่ช่วงลำตัวบริเวณหน้าอกจะมีสีอ่อนกว่า คุณติโต เป็นแมวที่ชอบออกหนีไปเที่ยวเล่นข้างนอก จนหลายครั้งที่เธอไม่สามารถกลับเข้ามาในพระตำหนักได้ ภายหลังพระองค์ท่านได้ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่อง “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” ซึ่งอ้างอิงมาจากวีรกรรมอันน่ายกย่องของคุณติโต นั่นเอง
ขณะที่ ช้างเผือกคู่พระบารมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีด้วยกันทั้งหมด 10 เชือกดังนี้
1. พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ 2. พระเศวตวรรัตนกรีฯ 3.พระเศวตสุรคชาธารฯ 4. พระศรีเศวตศุภลักษณ์ฯ 5. พระเศวตสุทธวิลาสฯ 6. พระวิมลรัตนกิริณีฯ 7. พระศรีนรารัฐราชกิริณีฯ 8. พระเศวตภาสุรคเชนทร์ฯ 9. พระเทพวัชรกิริณีฯ 10. พระบรมนัขทัศฯ
นอกจากแมวกับช้างแล้ว พระองค์ท่านยังเคยทรงเลี้ยง “ลิง” ที่มีชื่อว่า คุณกะลา ประมาณปี 2542 ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งจากมือที่พิการของคุณกะลา ที่เคยได้เอามือล้วงเข้าไปในกะลาที่มีคนเจาะรูไว้
จากนั้น ในหลวง ร.๙ ยังได้นำลิงแสมอีกสองตัวจากสวนสัตว์ดุสิตมาเลี้ยงเป็นเพื่อนคุณกะลา โดยเพศผู้มีชื่อว่า สมศักดิ์ และเพศเมียมีชื่อว่า สมศรี และเมื่อคุณกะลาเสียชีวิตลง สมศักดิ์ และสมศรี ก็ถูกนำกลับไปอยู่อาศัยในสวนสัตว์ดุสิตเช่นเดิมในปี 2553 รวมถึงในหลวง ร.๙ ยังเคยทรงเลี้ยงลิงอีกตัวที่มีชื่อว่า คุณกะละมัง ซึ่งเป็นชื่อที่ได้มาจากเท้าสองข้างที่เน่า เพราะถูกคนมัดไว้กับกะละมัง
องครักษ์ประจำพระวรกาย “พ่อหลวงภูมิพล”
สุนัข เป็นสัตว์ที่ในหลวง ร.๙ ทรงโปรดโดยทรงเลี้ยงไว้หลายสุนัข ได้แก่ คุณโจโฉ คุณสุดหล่อ คุณหมามุ่ย คุณมะลิ คุณทองแท้ คุณทองกวาว คุณทองพันดุลย์ คุณทองพันชั่ง คุณทองมีดขูด คุณโล่ทอง คุณทองเดือนห้า คุณสร้อยทอง คุณทองชมพู คุณทองเครือวัลย์ คุณทองเจิม คุณทองแดง และลูกหลาน
โดยสุนัขตัวแรกที่ในหลวง ร.๙ ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า บ๊อบบี้ และเป็นที่น่าแปลกใจที่ในหลวง ร.๙ จะทรงจำได้หมดว่า สุนัขแต่ละตัวชื่ออะไร น้ำหนักเท่าไร บางครั้งครูฝึกเองก็อ่านใจสุนัขทรงเลี้ยงไม่ออกแต่พระองค์ท่านทรงมองออก และได้เสนอแนวทางให้รับใส่เกล้าฯ มาใช้ในการทำงาน อย่างเช่น คุณทองแดง ที่ประชาชนรู้จัก และเห็นถึงความจงรักภักดีที่คุณทองแดงมีต่อพระองค์ท่านเป็นอย่างดี
ภาพที่คุณทองแดงติดตามถวายงานในหลวง ร.๙ นับเป็นภาพที่ประชาชนคนไทยเห็นจนชินตา ด้วยลักษณะของคุณทองแดงเป็นสุนัขที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ เวลาเฝ้าฯ จะนั่งอยู่ต่ำกว่าเสมอ แม้จะทรงดึงตัวขึ้นมากอด คุณทองแดงก็จะหมอบลงกับพื้น และทำหูลู่อย่างนอบน้อม เจียมเนื้อเจียมตัว คล้ายๆ กับแสดงว่า ไม่อาจเอื้อม
ทุกครั้งเวลาเข้าเฝ้าฯ คุณทองแดงจะหมอบในท่าประจำ คือ ประสานมือไว้ข้างหน้า เป็นที่คุ้นเคยดีสำหรับผู้ที่เคยพบเห็น มีข้าราชบริพารผู้หนึ่งกล่าวว่า ถ้าจะดูการหมอบเข้าเฝ้าฯ อย่างถูกต้อง ให้ดูคุณทองแดง
หากในหลวง ร.๙ ทรงขยับพระองค์ หรือแม้แต่ทรงกระแอม คุณทองแดงจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างระวัง เมื่อมีผู้มาเฝ้าฯ ในหลวง ร.๙ คุณทองแดงจะหมอบเฝ้าฯ อยู่ที่พระบาท ไม่วิ่งไปไหน และจะหมอบขวางอยู่ตรงกลาง ระหว่างในหลวง ร.๙ และผู้มาเฝ้าฯ ถ้าเฝ้าฯ อยู่นาน คุณทองแดงจะเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์และผู้มาเฝ้าฯ พร้อมกับถอนใจยาว แต่ไม่ลุกไปไหน
ครั้งหนึ่งที่ในหลวง ร.๙ เสด็จฯไปทรงทำพระทนต์ที่รถทันตกรรมเคลื่อนที่ คุณทองแดงนั่งคอยอยู่นอกรถ จ้องเขม็งไม่ยอมไปไหน ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย
ด้วยความจงรักภักดี ฉลาด รู้ที่ต่ำที่สูง มีความกตัญญู นอบน้อม และซื่อสัตย์ คุณทองแดงจึงได้รับการตั้งฉายาว่าเป็น “สุนัขประจำรัชกาลที่ ๙” คอยติดตามถวายงานรับใช้ในหลวง ร.๙ ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ใดก็ตาม และยังทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่อง ทองแดง (The Story of Tongdaeng) ออกเผยแพร่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษด้วย
นอกจากนี้ คุณทองแดงยังเป็นแม่ที่เอาใจใส่ลูกมาก โดยมีลูกกับ คุณทองแท้ สุนัขพันธุ์บาเซนจิ จำนวน 9 ตัว โดยที่ในหลวง ร.๙ พระราชทานชื่อให้เป็นชื่อขนมที่มีคำว่า “ทอง” ได้แก่ ทองชมพูนุท, ทองเอก, ทองม้วน, ทองทัต, ทองพลุ, ทองหยิบ, ทองหยอด, ทองอัฐ, ทองนพคุณ และพระราชทานนามสกุลว่า “สุวรรณชาด” โปรดเกล้าฯ ให้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ ขนมลูกๆ ทองแดง ออกเผยแพร่
ในช่วงปีใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 - 2557 ในหลวง ร.๙ ได้พระราชทาน ส.ค.ส. เป็นพระบรมฉายาลักษณ์คู่กับคุณทองแดงในอิริยาบทต่างๆ และทรงพระราชนิพนธ์กลอนสั้นๆ แต่มีความหมายเป็นพรให้คนไทยทั้งประเทศ
2 สุนัขทรงเลี้ยงสู่ประติมากรรมเฝ้าพระเมรุมาศ
จากพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.๙ ที่ทรงมีต่อสัตว์ทรงเลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นประติมากรรมเสมือนจริงของคุณทองแดงและคุณโจโฉ ที่จะถูกนำไปตั้งไว้บนฐานศาลาชั้นบนสุดบริเวณพระจิตกาธานบนพระเมรุมาศ เพื่อแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.๙ ที่ทรงมีต่อสุนัขทรงเลี้ยง
อ.ชิน ประสงค์ ข้าราชการบำนาญ อดีต ผอ.ส่วนประติมากรรม กรมศิลปากร ผู้รับผิดชอบงานปั้นคุณทองแดง และคุณโจโฉ ร่วมกับภรรยา นางสุกรี ประสงค์ รับผิดชอบการกำหนดโทนสี และ นายพิชญ์พงค์ ประสงค์ บุตร รับผิดชอบในการลงสี
ประติมากรรมของ “คุณทองแดง” วางประดับด้านซ้ายของพระจิตกาธาน มีความสูง 84 เซนติเมตร โดยผู้ออกแบบได้ออกแบบให้อยู่ในท่านั่ง 4 ขา ขาหน้ายืดขึ้น อิริยาบทดูสง่างาม ดูนุ่มนวล ไม่ลืมตัว สีน้ำตาลเข้มแซมด้วยสีผสมอื่นๆ โดยที่บริเวณหน้าอกของคุณทองแดง มีสัญลักษณ์เป็น “ดอกมะลิ” สื่อถึงการที่คุณทองแดงเป็นแม่ที่ดีมีลูก 9 ตัว
ขณะที่ ประติมากรรมของ “คุณโจโฉ” วางประดับด้านขวาของพระจิตกาธาน มีความสูง 94 เซนติเมตร ปรับให้สูงกว่าตัวจริงเพื่อความสง่างาม อยู่ในอิริยาบทท่านั่ง 4 ขา ขาหน้ายืดขึ้น คาบไปป์ ดังปรากฏในภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ในหนังสือราชินี รวบรวมพระราชกรณียกิจ พระบรมวงศานุวงศ์ ท่าทางโก้เท่ สง่า มีความกล้าแสดงออก สีน้ำตาล
แต่เนื่องจากคุณโจโฉเป็นสุนัขทรงเลี้ยงตั้งแต่ต้นรัชกาลปี 2500 อ.ชิน ประสงค์ ได้อาศัยการปั้นจากภาพฝีพระหัตถ์ที่ในหลวง ร.๙ ทรงถ่ายประทานนิตยสาร “ศรีสัปดาห์” ทั้งหมด 8 ภาพ พร้อมกับบทกลอนสั้นๆ
...“บัดนั้น โจโฉ ปรีดิ์เปรม เกษมศรี ได้ดูดกล้อง สมใจ ในครานี้ ไม่ต้องใส่บุหรี่ก็ดีแล้ว ว่าท่าโก้ โอ่อ่า สง่านัก แต่ใจชัก สงสัย น้ำในแก้ว ใยมีฟอง ปุดปุด ผุดเป็นแนว ในแจ๋วแหวว พุธโธ่ น้ำโซดา”
ที่แสดงให้เห็นถึงอารมณ์สุนทรีย์ของผู้ประพันธ์ยามเห็นความแสนรู้ของคุณโจโฉ ซึ่งอิริยาบถต่างๆ ได้เรียงร้อยผสานทักษะและฝีมือของประติมากรผู้แต่งแต้มออกมาได้เสมือนจริงที่สุด
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน