จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

การเผชิญหน้าต่อความท้าทายของ Digital Disruption ทำให้องค์กรใหญ่อย่างเอไอเอส เร่งปรับตัวจากการเป็น Mobile Operator สู่การเป็น Digital Life Service Provider เพื่อให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการก้าวไปสู่บทบาทใหม่ของการเป็น “ผู้ให้บริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider” ในฐานะพาร์ตเนอร์คนสำคัญที่จะเข้ามาช่วยทำ Digital Transformation และยกระดับศักยภาพองค์กรธุรกิจไทย ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

หนึ่งในโซลูชันสำคัญ คือ IoT (Internet Of Things) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Mega trend ที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยี 5G อีกด้วย ในฟากของโอเปอเรเตอร์เองก็ได้หันมาให้ความสนใจกับ IoT ไม่น้อยกว่าเครือข่ายมือถือ หรือ Fixed Broadband เพราะมองว่า IoT เป็นอีกโครงข่ายที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่คนไทย และภาคธุรกิจ

เอไอเอส จึงนำร่องเป็นรายแรกในการสร้างโครงข่าย IoT ที่มีทั้งเครือข่าย NB-IoT และ eMTC นับเป็นเครือข่าย IoT ที่สมบูรณ์แบบ และทรงประสิทธิภาพ ครอบคลุมแล้วทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แล้วเป็นรายแรก และรายเดียวในไทย ภายใต้แบรนด์ AIS Business ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่งที่เลือกใช้บริการเพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินการขององค์กร

นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายพันธมิตรจากโครงการ AIAP (AIS IoT Alliance Program) กว่า 800 ราย ที่มาร่วมสร้างสรรค์ IoT Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้เอไอเอส สามารถทำงาน และต่อยอดความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการร่วมวิจัยและพัฒนา เพื่อออกแบบโซลูชันที่สามารถประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจได้จริง

คุณสมบัติที่แตกต่างกันของ NB-IoT และ eMTC

เครือข่าย NB-IoT หรือ Narrow Band IoT นั้น คือ เครือข่ายที่ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ จึงช่วยให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ IoT อยู่ได้นานถึง 10 ปี สามารถรองรับอุปกรณ์ IoT ได้สูงสุดในระดับแสนตัวต่อสถานีฐาน และมีรัศมีครอบคลุมของเครือข่ายต่อสถานีฐานกระจายได้มากกว่า 10 กิโลเมตร รวมถึงในตัวอาคารก็ยังรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนเครือข่าย eMTC หรือ enhanced Machine-Type Communication คือ เครือข่ายที่สามารถรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่มีการเคลื่อนที่ได้ อย่าง Connected Car หรือ Tracking ทั้งยังสามารถส่งไฟล์ข้อมูลที่ขนาดใหญ่กว่าเครือข่าย NB-IoT ได้ พร้อมรองรับการรับส่งข้อความเสียงสำหรับอุปกรณ์ IoT รูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต อีกทั้งใช้พลังงานต่ำ เมื่อเทียบกับการส่งข้อมูลด้วย 4G หรือ 3G

ปัจจุบัน มีโซลูชัน IoT อะไรบ้างที่เปิดให้บริการแล้ว เพื่อองค์กรธุรกิจต่างๆ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้

1.Smart Transportation โซลูชันสำหรับงานขนส่งในภาคธุรกิจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ IoT และเครือข่ายรูปแบบใหม่ เหมาะสำหรับองค์กร หรือธุรกิจที่ต้องการติดตามสถานะขนส่ง และยังสามารถประยุกต์ใช้กับองค์กรที่ต้องการตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถ เช่น 

อุปกรณ์ NB-IoT Tracking สำหรับตรวจสอบติดตามรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ราคาประหยัด สามารถตรวจสอบความเร็ว และตำแหน่งด้วยระบบ GPS ป้องกันการขโมยด้วยการกำหนด Geo-Fencing ใช้งานง่ายผ่าน Mobile Application 

อุปกรณ์ติดตามยานพาหนะ และตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถ พร้อมเปิด Wifi Hotspot ส่วนตัว ที่ติดตั้งง่ายๆ ผ่านพอร์ต OBD II อุปกรณ์รองรับเครือข่าย 4G และสามารถใช้งานตรวจสอบข้อมูลได้ผ่าน Web หรือ Mobile Application 

โซลูชันอัจฉริยะในรถ Smart Taxi ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย การชำระเงินรูปแบบใหม่ และการต่อยอดบริการบนรถสาธารณะ 

หน่วยงานที่นำโซลูชันนี้ไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 นำอุปกรณ์ NB-IoT Tracking ติดตั้งที่รถมอเตอร์ไซค์ตำรวจ จำนวน 360 คัน แสดงพิกัดเส้นทางการปฏิบัติงานของตำรวจจราจร ทำให้เมื่อเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย ศูนย์บัญชาการส่วนกลางก็สามารถสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

2.Smart City โซลูชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ ที่เพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยในเมือง ตอบโจทย์การประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการเมือง โดยเป็นโซลูชันที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นอาคาร หรือพื้นที่สำนักงาน ประกอบด้วย

แพลตฟอร์มสำหรับค้นหา และจองที่จอดรถ Smart Parking สร้างประสบการณ์ใหม่ในการค้นหาจุดจอดรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนพร้อมจองจุดจอดรถได้ทันที พร้อมอุปกรณ์ Smart Gate ที่จะเปิดขึ้นเพื่อกั้น และปิดลง เพื่อให้รถที่ได้รับอนุญาตเข้าจอดในจุดจอด

เสาไฟฟ้าอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว และเปิดปิดไฟตามความเหมาะสม เพื่อประหยัดพลังงาน และยังใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ พร้อมทั้งความสามารถในการควบคุมและบริหารจัดการจากส่วนกลาง

ระบบตรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้ารั่ว ไฟลัดวงจร และวัดปริมาณการใช้ไฟฟ้า เหมาะสำหรับที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน สามารถติดตั้งง่ายๆ โดยไม่ต้องตัดต่องานระบบไฟฟ้า รายงานการใช้ไฟฟ้าผ่าน Mobile Application หรือ Web Application สามารถประยุกต์ใช้กับการวัดการใช้ไฟฟ้าเฉพาะจุดที่ต้องการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เป็นต้น 

อุปกรณ์วัดและควบคุมปริมาณการใช้น้ำ สามารถตรวจสอบน้ำรั่วซึม หรือเปิดปิดวาล์วน้ำได้ระยะไกล อุปกรณ์ใช้พลังงานต่ำบนเครือข่าย NB-IoT ไม่ต้องวางสายระบบไฟฟ้า เหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้าน อาคาร หรือที่พักอาศัยอาคารชุด รายงานการใช้น้ำได้ทันทีผ่าน Web Application และยังสามารถต่อยอดเชื่อมต่อกับ Platform การบริหารจัดการส่วนกลางของอาคาร 

เพิ่มความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย ด้วย Locker อัจฉริยะ สามารถนำไปติดตั้งได้ทุกพื้นที่ อำนวยความสะดวกทั้งผู้ใช้บริการ ใช้เพียง QR code ในการฝากและรับของ และต่อยอดการเพิ่มธุรกิจให้เจ้าของพื้นที่สามารถ Platform กับระบบชำระเงินได้

หน่วยงานที่นำไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ โครงการ TU-Smart City มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในการให้บริการ Mobike จักรยานอัจฉริยะที่เชื่อมต่อการทำงานกับระบบ IoT บนเครือข่าย AIS NB-IoT ให้ผู้ใช้งานใช้บริการค้นหา จอง และปลดล็อกจักรยานง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน

3.Smart Recognition โซลูชันที่ช่วยจดจำ ตรวจสอบ และแยกแยะวัตถุ ยานพาหนะ หรือบุคคลได้ โดยใช้กล้องวิดีโอ จึงสามารถประยุกต์การใช้งานได้ทั้งการรักษาความปลอดภัย และเสริมความสามารถด้านการตลาดธุรกิจ (Customer Care) โดยมีความสามารถอย่าง อ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้าออกประตูในพื้นที่ต่างๆ ระบุประเภท รุ่น สี ของยานพาหนะ

ระบุและจดจำใบหน้าของบุคคล โดยแพลตฟอร์มสามารถนำข้อมูลเชื่อมโยงกัน เพื่อสร้างเงื่อนไข เช่น การทำ Smart Gate ที่อนุญาตเฉพาะบุคคลที่ขับรถทะเบียนตามที่ระบุไว้เท่านั้น

4.Smart Cold Chain โซลูชันที่ช่วยในงานบริหารจัดการตู้แช่ ห้องเย็น โดยอุปกรณ์ IoT สามารถตรวจวัดอุณหภูมิของตู้แช่ ติดตั้งง่าย ใช้พลังงานน้อยผ่านเครือข่าย NB-IoT พร้อม Platform ในการบริหารจัดการเพื่อยืนยันคุณภาพสินค้าที่อยู่ในตู้แช่ เหมาะกับธุรกิจตู้แช่ และสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกธุรกิจที่ต้องการระบบบริหารจัดการห้องเย็น โดยหน่วยงานที่นำไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ บริษัท The Cool

5.Smart Kiosk เป็นการประยุกต์ใช้ระบบ IoT ในอุปกรณ์เครื่องหยอดเหรียญ ทั้งเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญ เก้าอี้นวด และตู้จำหน่ายสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ ที่วางกระจายทั่วประเทศ และยังสามารถบริหารจัดการการเก็บเหรียญอย่างมีประสิทธิภาพด้วย นอกจากนั้น ยังเพิ่มขีดความสามารถในการชำระเงินด้วยระบบ Mobile Wallet ด้วย เหมาะกับธุรกิจทุกชนิดที่ต้องบริหารจัดการเครื่องหยอดเหรียญให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

หน่วยงานที่ได้นำไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ โครตรอนกรุ๊ป ผู้นำการผลิตและจำหน่ายเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญ และเครื่องหยอดเหรียญประเภทต่างๆ รวมถึงร้านแฟรนไชส์สะดวกซัก OTTERI WASH & DRY ทั้ง 64 สาขาทั่วประเทศ โดยติดตั้งเซ็นเซอร์วัดปริมาณเหรียญภายในเครื่อง ทำให้สามารถสร้างระบบบริหารจัดการเครื่องหยอดเหรียญได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

6.Smart Health โซลูชันตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ ผ่านโครงสร้างพื้นฐาน และ Platform จากเอไอเอส เพื่อประสบการณ์ใหม่ที่สะดวกสบายมากขึ้น เข้าใกล้กับบริการสุขภาพตลอดเวลาแม้อยู่ที่บ้าน โดยหน่วยงานที่นำไปใช้จริงแล้ว คือ โรงพยาบาลสมิติเวช

7.Smart Industrial Estate โซลูชัน IoT ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งด้านความปลอดภัย การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน รวมถึงโซลูชันเฉพาะในงานอุตสาหกรรม เช่น เครื่องมือ Sensor วัดระดับน้ำ ใช้พลังงานต่ำผ่านเครือข่าย NB-IoT สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ เป็นต้น เหมาะต่อการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม และนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อการพัฒนาสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยหน่วยงานที่ได้นำไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร (AMATA)

8.Smart Living โซลูชันสำหรับที่พักอาศัย ด้วย Platform ที่มีความร่วมมือจาก Partner ต่างๆ ในการสร้างความสามารถใหม่ๆ ให้แก่ Smart Living Application เช่น การควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์ Security การเรียกใช้บริการ Home Service ต่างๆ การชำระค่าบริการต่างๆ หรือการพัฒนา Application เฉพาะ เหมาะต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งหน่วยงานที่ได้นำโซลูชันนี้ไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) โดยนำมาใช้ทั้งภายในโครงการ และบ้านอยู่อาศัย

9.IoT Global Connectivity Platform โซลูชันระดับโลก สำหรับการควบคุมการเชื่อมต่อ (Connectivity) ของอุปกรณ์ IoT เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการใช้งานอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก หรือพัฒนาและผลิตอุปกรณ์จำหน่ายสินค้าไปต่างประเทศ โดย Platform นี้จะช่วยให้ท่านสามารถผลิตสินค้า IoT ที่มี embedded SIM (eSIM) และนำไปเปิดใช้งานในเครือข่ายต่างๆ ได้ทั่วโลก 

นอกจากโซลูชัน IoT สำเร็จรูปที่กล่าวมาข้างต้น เอไอเอส ยังสามารถออกแบบโซลูชัน IoT ที่เหมาะต่อธุรกิจนั้นๆ ได้อีกด้วย เช่น กรณีของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้นำเทคโนโลยี NB-IoT และโครงข่ายดิจิทัลมาช่วยลดขั้นตอน และเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบระบบ Cathodic Protection เพื่อให้งานบำรุงรักษาท่อส่งก๊าซธรรมชาติเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นบทพิสูจน์ความพร้อมของเอไอเอส ในการเป็นผู้นำนวัตกรรม IoT ตัวจริง ที่เข้าไปสนับสนุนองค์กรและภาคธุรกิจไทยแบบครบวงจร เพื่อความพร้อมในการรับมือกับ Digital Disruption นำพาองค์กรและภาคธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน

#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน