เฉาะ ๆ เฉือน ๆ เรื่องชิล ๆ ของวัยรุ่น

จากประชาชาติธุรกิจ

ไม่ รู้ว่าเป็นเพราะข่าวสาร หรือเทรนด์อะไรต่ออะไรที่กำลังมามีอิทธิพลในบ้านเราหรือไม่ จึงทำให้คำว่า "ศัลยกรรม" เป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนในบ้านเราไปเสียแล้ว

สวยด้วย แพทย์ ได้กระจายไปอยู่ใน ทุกกลุ่มชนชั้นและชุมชนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง "วัยรุ่น"

ที่สำคัญ เป็นวัยรุ่นที่พ่อแม่เห็นด้วย พาไปทำเองเลยด้วยซ้ำ โดยใช้ "ปิดเทอมใหญ่" เป็นช่วงนาทีทอง โดยมองว่าเป็นการ "ลงทุน"ที่เทียบเท่ากับการให้ "การศึกษา" กับบุตรธิดา

ส่วนวัยที่ฮิตสุด ๆ นั้นอยู่ในช่วงอายุ 16 ปี ไปจนถึงก่อนเข้ามหาวิทยาลัย

น.พ.ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ช่วงปิดเทอมก่อนเปิดการศึกษาใหม่ วงการศัลยกรรมโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับใบหน้าจะคึกคักมาก เพราะจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามารับบริการมาก เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่วางแผนให้ลูกมาทำ เช่น ทำตา 2 ชั้นบ้าง เสริมจมูกบ้าง หรือแก้ไข จุดบกพร่อง เพื่อที่จะได้สวยเป็นธรรมชาติพอดีเมื่อเปิดเทอม"

ส่วน ต้นเหตุที่เด็ก ๆ นิยมเข้าไปทำสวยทำหล่อกันนั้น เป็นเพราะเชื่อว่าความสวยเด่น บุคลิกดี จะทำให้ตนมีความมั่นใจ และเป็นใบเบิกทางสร้างโอกาสและความก้าวหน้าในอาชีพการงานต่อไปในอนาคต เพราะในปัจจุบัน การแข่งขันกันแค่ในเรื่องของความรู้ความสามารถไม่เพียงพอเสียแล้ว จึงต้องมีปัจจัยทางด้านความสวยความหล่อเข้ามาเสริม

และด้วยความนิยม เช่นนี้ สถานที่ให้บริการเสริมสวยหล่อนี้จึงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิด "หมอเถื่อน" เกิดขึ้น นายกสมาคมศัลยกรรมฯจึงมีข้อแนะนำในการเลือกใช้บริการว่า ให้คำนึงถึง "มาตรฐาน" โดยดูว่าเป็นสถานพยาบาลที่ถูกต้อง ตามกฎหมายมีใบรับรอง

นอก จากนั้นแล้ว ผู้ที่สำคัญที่จะเสกสวยหล่อได้ ดังใจนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่นอกจากจะ "มีประสบการณ์" มาแล้วนั้น ต้องมี "ความสร้างสรรค์" อีกด้วย

นายก สมาคมศัลยกรรมฯกล่าวว่า "การศัลยกรรมเปรียบได้กับการสร้างสรรค์ประติมากรรมนอกจากจะมีฝีมือด้านการ ผ่าตัดและเย็บแล้ว ศัลยแพทย์ต้องมีพรสวรรค์และพรแสวงในการ สร้างสรรค์ผลงานให้สวยงามได้ดังใจ การเลือกแพทย์จึงเสมือนกับการเลือกช่าง ผลงานและประสบการณ์จะเป็นตัวชี้วัดและเป็นหลักประกันความผิดพลาดได้เป็น อย่างดี"

เมื่อเลือกสถานที่พยาบาล เลือกแพทย์ได้แล้วจึงควรดูแลตัวเองให้พร้อม พักผ่อนให้พอ งดน้ำอาหารอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง และต้องระวัง ด้วยว่า มีประวัติหรือกำลังป่วยเป็นโรคที่เป็นกลุ่มเสี่ยง อย่างหัวใจ ความดัน เบาหวาน หรือพวกโรคเลือด ประเภทเลือดไหลไม่หยุด หรือติดเชื้อ เป็นหวัด ไซนัส หรือไม่ ถ้าเป็นต้องรักษาให้หายก่อน เพราะอาจส่งผลถึงชีวิตได้

และ ที่ต้องตระหนักมาก ๆ คือ อย่าเห็นแก่คำโฆษณาเชิญชวน หรือโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมหรือหั่นราคา

เพราะผลที่ได้อาจไม่คุ้มเสีย