สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รู้จักการเมืองแดนผู้ดีอังกฤษ

จากประชาชาติธุรกิจ

การเลือกตั้งปี 2553 ของอังกฤษเริ่มฉายภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า จะไม่มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงข้างมาก จึงอาจทำให้ชาวอังกฤษยุคนี้ต้องสัมผัสประสบการณ์ของการมีรัฐบาลผสม
 ก่อน ที่จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ ลองมาทำความรู้จัก "การเมือง" สไตล์อังกฤษกันบ้าง
 - การเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อไหร่?
 อังกฤษ ไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ระบบการเลือกตั้งจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของพระราชบัญญัติรัฐสภาที่นับย้อน กลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา
การเลือกตั้งทั่วไปเปิดโอกาสให้ผู้ มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมาทำหน้าที่ร่างและออกกฎหมายต่างๆ
 ตามกฎหมาย อังกฤษจะจัดการเลือกตั้งทุกๆ 5 ปีเป็นอย่างน้อย และรัฐบาลสามารถจัดการเลือกตั้งได้ตลอดเวลาตลอดสมัย และบางครั้งอาจถูกกดดันให้ต้องจัดการเลือกตั้ง เมื่อรัฐบาลไม่ได้ถือเสียงข้างมากในสภา
 -ใครเป็นผู้ประกาศให้มีการเลือกตั้ง?
 ตาม ธรรมเนียมปฏิบัติ จุดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีอังกฤษ ประมุขของประเทศ เพื่อขอพระบรมราชานุญาตให้มีการยุบสภา ก่อนจะจัดการเลือกตั้งภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น นับตั้งแต่ปี 2522 อังกฤษจะจัดการเลือกตั้งในช่วงเดือนเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยจะเลือกตั้งในวันพฤหัสบดี
 และใช้ระบบออกเสียงเลือกตั้งที่เรียกว่า "first passt the post" หรือผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะได้ที่นั่งดังกล่าว
 -หน้าที่ของรัฐสภา
 รัฐสภา มีหน้าที่ออกฎหมาย ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และพิจารณาประเด็นต่างๆ ปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎร  (The Commons) มีส.ส. 650 คน ซึ่งผ่านการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนในแต่ละเขต ส่วนสภาสูง (The Lords) หรือวุฒิสภานั้น รัฐบาลเป็นผู้แต่งตั้งสมาชิกส่วนใหญ่ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งตลอดชีวิต หน้าที่ของวุฒิสภาคือลงคะแนนเสียงโหวตข้อกฎหมาย ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และหากจำเป็นสามารถส่งกลับไปเพื่อพิจารณาอีกครั้งได้เช่นกัน
 -ตัดสินการเลือกตั้งอย่างไร?
 ผู้ มีสิทธิเลือกตั้งไม่ได้เลือกตั้งนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำรัฐบาลโดยตรง แต่จะเลือกตัวแทนจากแต่ละพรรคเป็นผู้แทนราษฎรในเขตของตน สมเด็จพระราชินีอังกฤษโปรดเกล้าให้ผู้นำพรรคที่ได้ที่นั่งจากการเลือกตั้ง ทั่วไปมากที่สุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ผู้นำของพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 2 ในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน   
 ส.ส. ได้รับเลือกตั้งผ่านระบบที่เรียกว่า "plurality" หรือพรรคที่ได้รับเลือกตั้งได้คะแนนสูงกว่าอีกพรรค แต่ไม่ได้เป็นเสียงข้างมาก ดังนั้นจึงหมายความว่า พรรคที่ได้ที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร อาจไม่ได้รับเสียงข้างมากในป๊อปปูล่าร์ โหวตทั้งหมด ในความเป็นจริง อังกฤษมีพรรคการเมืองหลักๆ 3 พรรค คือพรรคอนุรักษ์นิยม พรรคแรงงาน และพรรคเสรีประชาธิปไตย ดังนั้นเป็นเรื่องยากมากที่พรรคหนึ่งจะชนะด้วยเสียงข้างมากอย่างสมบูรณ์
 นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดที่ได้รับการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างสมบูรณ์ คือ สแตนลีย์ บัลด์วิน ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมในปี 2474 ขณะที่เมื่อปี 2548 โทนี่ แบลร์ ผู้นำพรรคแรงงาน ได้คะแนนเพียง 35% ของการโหวต แต่คุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
 -อะไรจะเกิดขึ้นหากพรรคไม่ได้เสียงข้าง มาก?
 หากไม่มีพรรคใดชนะด้วยเสียงข้างมากทั้งหมด ก็จะทำให้เกิดรัฐสภาที่เรียกว่า "hung parliament" หรือไม่มีพรรคใดได้รับเสียงข้างมาก ดังนั้น ผู้นำของพรรคที่ได้ที่นั่งในสภามากที่สุดจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่จะมีอำนาจจำกัด เพราะไม่สามารถคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ โดยปกติ พรรคจะจัดเลือกตั้งใหม่ภายในไม่กี่เดือน ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งใหม่เพื่อครองเสียงข้างมาก
 - สภาฯ ที่ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากปี 2553 มีความหมายอย่างไร
 สถานการณ์ เช่นนี้เคยเกิดขึ้นหลังสุดเมื่อปี 2517 เมื่อผลการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ทำให้เกิดสภาพ "hung parliament" ต่อมาจึงจัดการเลือกตั้งในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน ทั้งนี้ นับถึงขณะนี้ นักทำโพลและผู้สังเกตการณ์เชื่อว่า การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้จะทำให้เกิดสถานการณ์เดียวกัน

view