สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เดินหน้าขยายสิทธิประกันสังคม

จาก โพสต์ทูเดย์

นี่คือกระแสทองขาขึ้นครั้งใหม่ ที่นักลงทุนกำลังโยกเงินเข้าไปยังทองคำ-เงินเหรียญสหรัฐกันอย่างเร่งด่วน เพื่อหนีความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์หนี้ในภาคพื้นยุโรป

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

โดยที่หลายคนไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ทองคำซึ่งเป็นเหมือนสวรรค์พักความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน ก็ดีดตัวขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเป็

ประวัติการณ์ที่ 1,235.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ระหว่างการซื้อขายในตลาดฮ่องกง เมื่อวันที่ 12 พ.ค. หรือพุ่งขึ้นจากวันก่อนหน้าถึง 26.5 เหรียญสหรัฐ และทุบสถิติเดิมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2552ที่ 1,226.56 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์กระจุย

เพียงอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาในการซื้อขายที่ตลาดลอนดอน ราคาก็พุ่งไปทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 1,239.32 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ทำ เอาร้านทองในแถบเยาวราชรับซื้อคืนกันแทบไม่ทัน กับราคารับซื้อทองคำแท่งที่ 1.87 หมื่นบาท ขายออก 18,650 บาท และทองรูปพรรณรับซื้อที่ 18,434.56 บาท ขายออกทะลุ 1.92 หมื่นบาท

ไม่ต้องแปลกใจ นี่คือกระแสทองขาขึ้นครั้งใหม่ ที่นักลงทุนกำลังโยกเงินเข้าไปยังทองคำ-เงินเหรียญสหรัฐกันอย่างเร่งด่วน เพื่อหนีความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์หนี้ในภาคพื้นยุโรป

เป็นปัญหาที่กำลังฉุดให้ตลาดทุนอื่นๆ ปั่นป่วนตามไปด้วย ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวกลับมาได้เพียง 1-2 วัน หลังมีมาตรการช่วยเหลือกรีซ ก่อนจะดิ่งตัวลงอีก เช่นเดียวกับค่าเงินยูโรที่ยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เมื่อนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในเงินกระดาษ นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมอีกปัจจัยอย่างภาวะเงินเฟ้อที่จะขยายตัวกันมากขึ้นใน ช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย

นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักรวมถึงนักลงทุนต่างวิตกว่า การอัดเงินเข้าโอบอุ้มกรีซ 7.5 แสนล้านยูโร (ราว 32.5 ล้านล้านบาท) อาจไม่เพียงพอ หรืออาจสายเกินไปที่จะแก้ปัญหาหนี้สาธารณะและปัญหางบประมาณขาดดุลมหาศาล ที่กำลังบ่อนทำลายกรีซและอีกหลายประเทศแถบยุโรปใต้ลงทุกขณะ

หากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ที่ปะทุในสหรัฐปี 2007 พ่นเถ้าถ่านกระจายออกไปเป็นวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกในเวลาต่อมา วิกฤตการณ์หนี้ของกรีซในวันนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของวิกฤตการณ์หนี้ยุโรปที่ อาจครอบคลุมต่อเนื่องไปถึงสเปน โปรตุเกส อิตาลี และไอร์แลนด์ ในอีกไม่ช้า

แม้สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะร่วมลงขันเงินกู้ครั้งประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยอมเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ในกลุ่มประเทศยูโรโซน เพื่อช่วยพยุงและลดดอกเบี้ยผลตอบแทนของพันธบัตรลง ทว่าก็อาจทำได้เพียงต่อลมหายใจไปได้ระยะหนึ่งเท่านั้น

สิ่งที่หลายฝ่ายไม่เชื่อมั่นก็คือ กรีซจะสามารถตัดลดงบประมาณรายจ่ายมหาศาลราว 3 หมื่นล้านยูโร ตามที่ประกาศออกไปได้หรือไม่ และประเทศอื่นๆ ที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะและงบประมาณขาดดุลมหาศาล จะมีการแก้ปัญหากันได้อย่างไร หากไม่ร้องขอเงินช่วยแบบเดียวกับกรีซ

ทว่าแม้จะบรรเทาปัญหาหนี้ได้ ผลที่จะตามมาก็คือ การตัดลดงบประมาณรายจ่ายมหาศาลของแต่ละประเทศ ซึ่งจะกระทบต่อการจับจ่ายของประชาชน การนำเข้าสินค้าจากเอเชีย และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป

จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดหุ้นและตลาดเงินในขณะนี้ จะปั่นป่วนและผันผวนที่สุดจากผลกระทบของกรีซ และไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนสถาบันต่างๆ จะโยกเงินและพอร์ตการลงทุนไปยังทองคำ ที่เป็นสวรรค์ป้องกันความเสี่ยงแทน

“นักลงทุนกำลังโยกเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังการลงทุนที่ปลอดภัยกว่าแทน ทั้งทองคำและเงินเหรียญสหรัฐ แพ็กเกจช่วยเหลือของอียู ถูกมองว่าไม่สามารถแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณในระยะยาวของยูโรโซนได้ ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตระยะสั้นของหลายประเทศก็ดูไม่มั่นคง” โจชัวร์ เรย์มอนด์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ซิตี อินเด็กซ์ กล่าวกับเอเอฟพี

ขณะเดียวกันนักลงทุนจำนวนหนึ่งยังมองด้วยว่า ภาวะเงินเฟ้ออาจกลับมาขยายตัวสูงขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ หลังจากที่หลายประเทศทั่วโลกใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำกระตุ้นการขยายตัวทาง เศรษฐกิจมานานกว่า 2 ปี ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศเริ่มมีดัชนีราคาผู้บริโภค(ซีพีไอ) สูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว อาทิ จีน ซึ่งรายงานตัวเลขซีพีไอเดือน เม.ย. สูงเกินคาดที่ 2.8% เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. ซึ่งอยู่ที่ 2.4%

หากลองติดตามดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลอดทั้งปี 2010 นี้ จะพบว่าราคาได้ขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทีละน้อย โดยในเดือน พ.ค.นี้ ราคาทองตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นแล้ว 12% และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน

เป็นทิศทางที่สวนกันกับตลาดทุนและตลาดเงินโลกในปีนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงไปแล้ว 12% เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ และอ่อนค่าลงต่ำสุดรอบ 14 เดือนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีเอ็มเอสซีไอ เวิลด์ อินเด็กซ์ ซึ่งรวมดัชนีสำคัญๆ ทั่วโลกเอาไว้ ก็ดิ่งตัวลงไปแล้ว 2.1%

อย่างไรก็ดี หากใครคิดจะก้าวเท้าเข้าสู่การเก็งกำไรทองคำในช่วงนี้ โดยหวังว่าจะเป็นเหมือนภาวะทองคำขาขึ้นยาวในปีที่ผ่านมา อาจต้องระวังตัวไว้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสถานการณ์ที่อาจปรับเปลี่ยนได้ทุกขณะ

ล่าสุดสเปนได้ประกาศปรับลดงบประมาณขาดดุล 6% ภายในปี 2011 ด้วยการหั่นงบประมาณรายจ่ายลงทุกวิถีทาง ก่อนที่ตนเองจะมีชะตากรรมเช่นเดียวกับกรีซ และเชื่อว่าอีกหลายประเทศที่มีปัญหาเดียวกัน ก็อาจจะต้องดำเนินการเช่นนี้ตามมา ก่อนวิกฤตการณ์หนี้ยุโรปจะลามลึกเป็นวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกระลอก 2 ซึ่งหากปัญหานี้สามารถบรรเทาไปได้ด้วยดี แรงขับเคลื่อนราคาทองก็อาจตกลงมาได้อย่างไม่ต้องสงสัย

จะรายเล็กรายใหญ่คิดจะเก็งกำไรทองกันทั้งที ก็ต้องตามสถานการณ์โลกให้ทัน หากไม่อยากเป็นแมลงเม่า

view