จากประชาชาติธุรกิจ

ปัญหา น้ำตาลตึงตัวยังวุ่นไม่เลิก หลังถูกลากยาวมาเกือบ 2 เดือน ปรากฏว่าน้ำตาลโควตาพิเศษ 1 ล้านกระสอบ มียี่ปั๊ว/ซาปั๊วมาขนย้ายน้ำตาลเพียง 30,000 กระสอบเท่านั้น โรงงานน้ำตาลได้ทีขอคืนโควตา หากกระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาไม่ได้

การ แก้ไขปัญหาภาวะน้ำตาลภายในประเทศขาดแคลน ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดสรรน้ำตาลโควตาพิเศษ จำนวน 1 ล้านกระสอบ (กระสอบละ 100 กิโลกรัม) มาบริหารจัดการ ด้วยการกระจายน้ำตาลทรายเหล่านี้ผ่านยี่ปั๊ว/ซาปั๊วทั้ง 11 รายที่ได้รับการ คัดเลือกจากกระทรวงพาณิชย์นั้น จนกระทั่งถึงขณะนี้ ระยะเวลาได้ล่วงเลยมาเกือบ 2 เดือนแล้ว การกระจายน้ำตาลทราย ดังกล่าว ก็ยังไม่สัมฤทธิผล โดยมีตัวเลขปริมาณการขนย้ายน้ำตาลทรายออกจากโรงงานได้ไม่ถึง 10% ของปริมาณโควตาพิเศษ ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ขอไว้

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากการสอบถามไปยังศูนย์บริหารการผลิต/การจำหน่ายและการขนย้ายน้ำตาล สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ปรากฏว่าตัวเลขน้ำตาลทรายที่ยี่ปั๊ว/ซาปั๊ว 11 รายมาขอรับออกจากโรงงานจริง มีจำนวนแค่ 30,000 กระสอบเท่านั้น ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์กลับรายงานการรับมอบน้ำตาลออกจากโรงงานถึง 70,000 กระสอบ จึงเป็นไปได้ว่า ตัวเลขที่เกินออกมานั้น เป็นเพียงตัวเลขในส่วนของการทำสัญญาซื้อขายกันเบื้องต้น "แต่ยังไม่มีการขนย้ายจริง"

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ถ้าหากกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถจัดสรร หรือแก้ไขปัญหาภาวะการตึงตัวของน้ำตาลได้ โรงงานก็อยากจะขอคืนน้ำตาลโควตาดังกล่าว "เพื่อมาจัดสรรเอง" โดยโรงงานจะเสนอขอคืนโควตาพิเศษในทันทีที่มีการประชุมคณะกรรมการอ้อยและ น้ำตาลทราย (กอน.) มาให้โรงงานเป็นผู้จัดสรรเอง ขณะที่คณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา ก็ได้มีการเปิดการไต่สวนประเด็นดังกล่าวจนได้ข้อสรุปว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่มีอำนาจในการบังคับให้โรงงานขายน้ำตาลให้กับยี่ปั๊ว/ซา ปั๊วทั้ง 11 ราย

ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงจัดสรรโควตาน้ำตาลทรายพิเศษต่อไป โดยมีการเพิ่มรายชื่อยี่ปั๊ว/ ซาปั๊วใหม่เข้ามาอีก 2-3 ราย ในจำนวนนี้มีชื่อบริษัทตงฮั้ว ที่ทำธุรกิจโรงสี เข้ามาเป็นยี่ปั๊ว/ซาปั๊วในการรับสรรจัดน้ำตาลของกระทรวงพาณิชย์ด้วย

"เหตุ ที่ยี่ปั๊ว/ซาปั๊วเข้ามารับน้ำตาลออกจากโรงงานน้อยนั้น อาจเป็นเพราะราคาน้ำตาลในตลาดโลกเริ่มลดลง การลักลอบส่งออกเพื่อกินส่วนต่างราคาน้ำตาลก็น้อยลง ทำให้ปริมาณน้ำตาลในประเทศไม่ขาดแคลน จากเดิมที่ยี่ปั๊ว/ซาปั๊วเคยคาดว่าจะขายทำราคาน้ำตาลได้เพิ่มขึ้น ก็อาจจะทำได้ยากลำบากขึ้น ดังนั้น จึงทำให้ยี่ปั๊ว/ซาปั๊วมาขอรับน้ำตาลออกจากโรงงานน้อยลง" แหล่งข่าวกล่าว

ด้าน นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดสรรน้ำตาลทรายโควตาพิเศษ 1 ล้านกระสอบ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำตาลทรายตึงตัว กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ความคืบหน้าในการจัดสรรน้ำตาล (โควตา ก) ที่ได้รับการจัดสรรพิเศษปริมาณ 1 ล้านกระสอบ ขณะนี้คณะทำงานได้แบ่งจัดสรรน้ำตาลให้กับผู้ค้าส่ง (ยี่ปั้ว ซาปั๊ว) รายใหม่อีก 5 ราย โดยมอบให้รายละ 20,000-30,000 กระสอบ จากน้ำตาลที่ขึ้นกระดานไว้ 800,000 กระสอบ ส่วนที่เหลือให้ทยอยรับมอบไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีกำหนด การตั้ง ยี่ปั๊ว/ซาปั๊วเพิ่มเติม ก็เพื่อทดแทนยี่ปั๊ว/ ซาปั๊วบางรายที่ร้องเรียนมาว่าไม่สามารถรับมอบน้ำตาลได้ เนื่องจากเกรงว่า หากมารับน้ำตาลโควตาพิเศษของกระทรวงพาณิชย์ ก็จะถูกตัดน้ำตาลโควตาปกติจากโรงงาน

ยี่ปั๊ว/ซาปั๊ว 11 รายเดิมที่กระทรวงพาณิชย์คัดเลือกนั้น ก็ได้ทยอยรับมอบน้ำตาลเรื่อยมา จนล่าสุดรับมอบไปได้ 77,000 กระสอบแล้ว ส่วนที่อยู่ระหว่างการรับมอบอีก 30,000 กระสอบที่เกิดปัญหาความล่าช้านั้น เพราะทางโรงงานน้ำตาลซึ่งมีสำนักงานอยู่ในพื้นที่ชุนนุมของกลุ่ม นปช.ไม่สามารถจะเปิดดำเนินการและออกใบส่งของได้ จึงต้องชะลอออกไปก่อน "ขอให้ยี่ปั๊ว/ซาปั๊วทุกรายเร่งรับมอบน้ำตาลทรายให้เสร็จ เพราะจะไม่มีการคืนโควตาน้ำตาลพิเศษกลับไปให้กระทรวงอุตสาหกรรม หากไปแจ้งขอรับสินค้าแล้วไม่ได้ ทางกระทรวงก็จะส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ไปตรวจสอบสต๊อก โดยอาศัยกฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ทุกฉบับ อาทิ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542, พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด, พ.ร.บ.การบัญชี, พ.ร.บ.การนำเข้า-ส่งออก หากพบว่าโรงงานน้ำตาลรายใดมีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความตาม พ.ร.บ.ฉบับใด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที" นายมนัสกล่าว

ส่วนประเด็นของความโปรง ใส่/ความชอบธรรมในการบริหารจัดการน้ำตาลทรายและการคัดเลือกยี่ปั๊ว/ซาปั๊ว ของกระทรวงพาณิชย์นั้น นายมนัสกล่าวว่า ได้ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาไปแล้วถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2553 การคัดเลือกยี่ปั๊ว/ซาปั๊ว ก็ได้กำหนดให้เป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา มีทุนจดทะเบียน ส่งงบการเงิน มีบริคณห์สนธิ และเป็นผู้เคยค้าน้ำตาล แต่ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ค้าน้ำตาล เพราะไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตค้า

"มีคนมาขอเป็นซัพพลาย เออร์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย แต่ขอจัดสรรปริมาณน้อย เราก็เลือกคนที่กระจายได้มาก เคยเป็นผู้ค้าน้ำตาล จะเป็นนาย ก นาย ข ก็ได้ทั้งนั้น แต่ต้องรู้ระบบ ไม่ต้องมานั่งสอนกันว่าทำอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น จะเป็นวัดโพธิ์ก็ได้ ถ้ามีเงินทุน มีระบบขนส่ง ดังนั้นจึงมีผู้ประกอบการด้านอื่นเข้ามาขอจัดสรร อาทิ ผู้ค้าข้าวมาขอบ้าง แต่ทุกคนต้องทำได้ตามที่เรากำหนดเงื่อนไขไว้