จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง |
||||
เริ่มกันที่ “พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี” กันก่อนเลย เหตุที่ฉันขอเริ่มต้นทริป “9ของดีเมืองนนท์” ที่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็เนื่องจากว่า ภายในพิพิธภัณฑ์ได้บอกเล่าเรื่องราวของจังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาชุมชนในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกลายเป็นชุมชนใหญ่และเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงทรงพระราชทานชื่อเมืองให้ใหม่จากบ้านตลาดขวัญ เป็น เมืองนนทบุรี |
||||
เมื่อรู้เรื่องราวของจังหวัดนนทบุรีกันแล้วก็มาต่อที่ “ศาล เจ้าแม่ทับทิม” ของดีแห่งที่สองของเมืองนนท์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์จังหวัดนนท์เพียงเดินต่อมาอีกไม่กี่ก้าวเท่า นั้น เนื่องจากเมืองนนท์เคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญเป็นชุมทางค้าขายทางเรือ เมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้วมีศาลเจ้าแม่ที่ชาวจีนไหหลำเคารพบูชา โดยถือเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่คอยปกปักษ์คุ้มครองผู้เดินทางทางเรือเรียก ว่า จุ้ยป่วยเนี้ยว แปลว่าเจ้าแม่ชายน้ำ นับเป็นเจ้าแม่ที่ชาวเรือ ชาวประมง ให้ความเคารพบูชา |
||||
ของดีแห่งที่สามของเมืองนนท์คือ “วัดเขมาภิรตาราม ราชวรวิหาร” ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ภายในมีพระมหาเจดีย์ใหญ่สีขาวสะอาดตาที่สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2397 ต่อมาในพ.ศ.2495 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่และได้พบพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ด้านหน้าของพระมหาเจดีย์เป็นพระอุโบสถทรงไทยที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่4 หน้าบันสลักเป็นภาพพระนารายณ์ทรงสุบรรณที่สวยงาม บานหน้าต่างประดับปูนปั้นรูปสิบสองนักษัตร ด้านในก็มีจิตกรรมฝาผนังเป็นภาพเขียนเทพชุมนุมแบบไทย รูปกระถางต้นไม้แบบจีน และช่อดอกไม้ลวดลายแบบตะวันตก |
||||
จากวัดเขมาไปต่อยัง “วัดกลางบางซื่อ” สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2312 วัดแห่งนี้โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปหลวงพ่อโตขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้งหน้าพระ อุโบสถ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานที่สร้างจากศิลาแลง ด้านหน้าประตูพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ที่เรียกกันว่า หลวงพ่อพระกาฬ เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปศิลาแลงที่ลอยน้ำมาแล้วชาวบ้านพบเจอจึงอัญเชิญมา ประดิษฐานไว้ ณ ที่แห่งนี้ |
||||
|
||||
|
||||
ถัดไปคือ “พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์” แต่เดิมคือ วัดเชิงท่ากับวัดหน้าโบสถ์ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลางพร้อมกับวัดเชิงเลน และเนื่องจากมีถาวรวัตถุคงสภาพสมบูรณ์กรมศิลปากรจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณ สถาน แต่มิได้บำรุงรักษาจึงได้เสื่อมโทรมลงจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง |
||||
ต่อไปเราจะข้ามฝั่งไปยังฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยากันบ้าง เพื่อไปยังของดีแห่งที่แปดของเมืองนนท์ นั้นก็คือ “ศาลหลักเมืองเดิม” หรือที่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อปากคลองอ้อม” ตั้งอยู่ที่ปากคลองอ้อม ต.บางศรีเมือง สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2208 เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯให้ย้ายเมืองนนทบุรีจากบ้านตลาดขวัญ มาทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ได้โปรดเกล้าฯให้สร้างศาลหลักเมืองขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของเทพยดา คุ้มครองบ้านเมืองตามประเพณี |
||||
สุดท้ายแห่งที่เก้า ก็อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเก่านั้นคือ “วัด เฉลิมพระเกียรติวรวิหาร” รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นเพื่อถวายสมเด็จพระศรีสุลาลัยพระบรมราชชนนี พระอุโบสถเป็นศิลปะไทยปนจีน หลังคามุงด้วยกระเบื้องรางดินเผาไม่เคลือบสี ถือปูนทับแนวทำเป็นลอนลูกฟูกแบบเก๋งจีน หน้าบันประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสี |
||||
นี่คือสถานที่ท่องเที่ยว 9 แห่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของดีของเมืองนนท์ หากใครสนใจแม้จะมีเวลาเพียงแค่วันเดียวก็สามารถเที่ยวชมกันได้ครบทั้ง 9 แห่งได้อย่างสบายๆใกล้กรุงแค่นี้เอง * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * เทศบาลนครนนทบุรีจัดกิจกรรม “เข้าพรรษา ไหว้พระ 9 วัด ชมของดีเมืองนนท์” ขึ้น ในวันอาทิตย์ ที่ 1,8,15 และ 22 สิงหาคม 2553 ท่องเที่ยวนนท์ที่ได้บรรยากาศทั้งทางรถและทางเรือ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ฟรี โดยลงทะเบียนที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี หลังจากนั้นจะพาเข้าชม “พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี” จากนั้นจะพาเดินทางต่อไปยัง “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” และขึ้นรถต่อไปยัง”วัดเขมาภิรตาราม”, “วัดกลางบางซื่อ”, “วัดตำหนักใต้”, “วัดชมพูเวก” และจะสิ้นสุดการเดินทางทางรถที่ “พระพุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์” จากนั้นลงเรือเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไปสักการะ “ศาลหลักเมืองนนทบุรี(เดิม)” และ”วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร” โดยผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2589-0500 ต่อ 169,170 หรือที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ในวันเวลาดังกล่าว |