จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง |
||||
ที่ฉันอัญเชิญพระราชเสาวนีย์ในพระราชินีนาถของเรามานั้น ก็แน่นอนว่าในครั้งนี้ฉันจะพาพวกเราไปเที่ยวชมผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าที่ สร้างมาจากฝีมือคนไทยล้วนๆ ซึ่งจัดแสดงอยู่ภายใน "พิพิธภัณฑ์ศิลปาชีพ พระที่นั่งอภิเศกดุสิต" ถนนอู่ทองใน |
||||
ทรงพบว่าราษฎรส่วนใหญ่เป็นชาวนาชาวไร่ต้องทำงานหนัก และต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ เช่น ฝนแล้ง น้ำท่วม ศัตรูพืชระบาด ทำให้ชาวนาชาวไร่มีฐานะยากจน การนำสิ่งของไปแจกจ่ายเป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า เป็นการช่วยเหลือที่ไม่ยั่งยืน ควรจะหาวิธีอื่นที่ช่วยให้ราษฎรพึ่งตนเองได้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงมีพระราชปณิธาณในการส่งเสริมและฟื้นฟูการผลิตสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน ทั่วทุกภาค เพื่อให้ราษฎรของพระองค์มีรายได้เสริมจากอาชีพเกษตรอันเป็นอาชีพหลัก แล้วยังสามารถอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านแต่โบราณ อันเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศชาติให้คงอยู่ต่อไปด้วย นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ขึ้น เมื่อ พ.ศ.2519 และมีการดำเนินงานอย่างมีระบบ มีการจัดหาครูผู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญมีฝีมือด้านศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านมาถ่าย ทอดวิชาการอันละเอียดอ่อน โดยจะทรงพิจารณาจากสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม และวัสดุในแต่ละท้องถิ่นเป็นหลัก เช่น ภาคเหนือ จะส่งเสริมให้ฝึกอบรมการเย็บปักถักร้อย การทอผ้า ทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าจก การทำเครื่องประดับเงินและทอง ตามแบบศิลปะของชาวไทยภูเขา เป็นต้น |
||||
ส่วนภาคใต้ ส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมการทอผ้า การจักสานด้วยหวาย ไม้ไผ่ ย่านลิเภา การทอเสื่อกระจูด การเย็บปักถักร้อย การทำถมเงินถมทอง เป็นต้น จนกระทั่งทำให้งานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านซึ่งในอดีตที่ทำกันอยู่เฉพาะใต้ถุน บ้านสำหรับใช้ภายในครัวเรือน ให้กลับมาเป็นงานฝีมือออกสู่ตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางศิลปหัตถกรรมและมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว โดยผลงานที่มีคุณค่าเหล่านี้ในบางส่วนก็ได้ถูกนำมาจัดแสดงไว้ภายใน "พิพิธภัณฑ์ศิลปาชีพ พระที่นั่งอภิเศกดุสิต" เพื่ออวดโฉมศิลปหัตถกรรมไทยอันล้ำค่าสู่สายตาคนทั่วโลก โดยตัวพระที่นั่งอภิเศกดุสิตนี้เป็นโถงชั้นเดียวรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2444 ลักษณะโครงสร้างตัวอาคารเป็นรูปตัว E ในภาษาอังกฤษ มีมุขยื่นออกมาทางด้านหน้า 3 มุข แต่ละมุขมีจุดเด่นอยู่ที่การทำแผงซุ้มประตูเป็นรูปวงโค้งเกือกม้า ประดับด้วยเครื่องไม้ฉลุลวดลายอันกอปร ด้วยลวดลายแบบแขกมัวร์ ผสมกับลวดลายแบบอาร์ตนูโว สวยงามอย่างที่เรียกสถาปัตยกรรมรุ่นนี้กันว่า ขนมปังขิง หรือ ginger-bread ทั้งยังมีการประดับกระจกสี จึงทำให้พระที่นั่งองค์นี้งดงามมาก |
||||
|
||||
|
||||
|
||||
|
||||
ใครที่ชมฝีมืออันล้ำค่าของคนไทยแล้วอยากจะหาซื้อผลงานศิลปาชีพไว้ใน ครอบครองล่ะก็ ใกล้ๆกันก็มีสินค้าให้เลือกซื้อหา หรือจะไปตามเลือกซื้อเลือกชมที่ศูนย์ศิลปาชีพต่างๆก็มีเช่นกัน หรือหากใครยังชมผลงานศิลปาชีพในพิพิธภัณฑ์ไม่หนำใจก็สามารถไปชมต่อกันได้ที่ “พระที่นั่งอนันตสมาคม” ที่ปัจจุบันได้ใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดนิทรรศการถาวร "ศิลป์แผ่นดิน" แสดงผลงานศิลปะหัตถกรรมของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ โดยเป็นการนำเสนอผลงานชิ้นสำคัญที่วิจิตรงดงามจากฝีมือของนักเรียนจากโรงฝึก ศิลปาชีพ สวนจิตรลดา |
||||
นอกจากนี้ในบริเวณใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของ "พระที่นั่งวิมานเมฆ" ที่รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2443 โดยมีสมเด็จฯกรมพระยานริศฯเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงาน ซึ่งได้รื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ จากเกาะสีชัง มาสร้างขึ้นใหม่ในพระราชวังสวนดุสิต |
||||
|
||||
|
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"พิพิธภัณฑ์ศิลปาชีพ พระที่นั่งอภิเศกดุสิต" ตั้งอยู่บนถ.อู่ทองใน ตรงข้ามสวนสัตว์ดุสิตใกล้กับทำเนียบรัฐบาล เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-15.30 น. โดยสามารถเข้าได้ทั้งทางประตูพระที่นั่งอภิเศกดุสิต ถ.อู่ทองใน และประตูพระที่นั่งวิมานเมฆ ถ.ราชวิถี ค่าเข้าชมคนไทย 75 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท นักเรียนและนักบวช 20 บาท ผู้เข้าชมโปรดแต่งกายสุภาพเพราะเป็นเขตพระราชฐาน สอบถามโทร. 0-2628-6300